รีวิวเที่ยวแคชเมียร์ 5 วัน 4 คืน แดนดินสวรรค์ของประเทศอินเดีย
เที่ยวแคชเมียร์ 5 วัน 4 คืน
Hello!!!! ทริ ปนี้ปลาดาวขอนำท่านผู้อ่านทุกท่านมาเที่ยวกันที่แคชเมียร์ แดนดินสวรรค์ของประเทศอินเดีย ขอบอกว่าใครที่อยากมาเที่ยวที่นี่ต้องมาช่วงที่อากาศเย็นๆถึงจะ work more เพราะ ถ้ามาหน้าหนาว ได้แข็งตายกันพอดี 555+ ถ้าถามว่าทำไมน่ะหรอ ก็เพราะมันเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดียไงจ๊ะนายจ๋า อย่างที่เค้าว่ากัน ยิ่งสูงยิ่งขาว เอ้ย มะช่ายๆๆๆๆ ยิ่งสูง ยิ่งหนาว เวิ้นเว้อมาเยอะละ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
วันแรกของการเดินทาง
เริ่ม ต้นกันที่สนามบินศรีนาคาร์กันเลยจ้า……หลังจากที่เราลงเครื่องที่ศรีนา คาร์ป็นที่เรียบร้อยแล้ว สถานที่แรกที่เรามาเที่ยวกันก็คือ สวนชาลิมาและสวนนิชาร์ท ซึ่งเจ้าทั้ง 2 สวนนี้มันอยู่ใกล้ๆกันเอง บรรยากาศทั้งสองสวนนี้ งามพอๆกับคนไปเที่ยวเลย ว่าปะ ^^
สวนชาลิมาร์ สร้างในสมัยราชวงศ์โมกุล ในช่วงสมัยของ จักรพรรดิจาฮันจีร์ สร้างเพื่อ พระมเหสีเนอร์ เจฮัน อันเป็นที่รักและเป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย สวนนี้กว้าง 539 เมตร ยาว 182 เมตร มีพื้นที่สำหรับกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ ปัจจุบันมีบันไดทอดผ่านให้เดินไปยังเนินด้านบนซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุ ใกล้ๆจะมี “สวนนิชาท” ที่มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี
สวนนิซาร์ท มีการตกแต่งคล้ายๆกัน มีลานน้ำพุ ทอดยาวจนถึงพระที่นั่งชั้นใน แต่ที่พิเศษกว่าคือสวนทั้งหมดนั้นสร้างขึ้นบนลานที่ยกสูงขึ้น หันหน้าสู่ทะเลสาบ
หลังจากที่เราออกมาจากสวนทั้งสองแล้ว เราก็มุ่งหน้าเดินทางไปสู่ที่พักของเรา นั่นก็คือ House bort หรือที่เรียกกันว่า บ้านเรือ นั่นเอง เค้าว่ากันว่าถ้าใครมาแคชเมียร์แล้วไม่ได้นอนบ้านเรือเนี่ย ถือว่ายังมาไม่ถึงแคชเมียร์นะจ๊ะ
กว่าจะเข้าพักได้ เราก็ต้องนั่งเรือเข้ามานะ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
นี่ไง หน้าตาบ้านเรือของเรา ดูสวยแปลกตาดี เดี๋ยวต้องเข้าไปสำรวจข้างในก่อนว่าห้องเป็นอย่างไรบ้าง
โว้ววววว ห้องนอนหรูเริศกว่าที่คิดแฮะ
กิจกรรม ยามว่างของพวกเราเองค่ะ ตั้งหน้าตั้งตาช้อปสินค้าพื้นเมืองกันใหญ่เลย ไม่ต้องถามนะคะว่าซื้อที่ไหน เค้ามีขายกันอยู่ที่ที่พักเลยค่ะ….ช้อปกระจาย
วันที่สองของการเดินทาง
อรุณ สวัสดิ์ยามเช้าค่ะ แหมๆๆๆ วันนี้อากาศดีมาก นานๆจะได้ตื่นเช้ามาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ (ที่ กทม ไม่มีนะเนี่ย) ตื่นเช้ามากองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องใช่ปะ ว่าแล้วเราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าค่ะ
อุ้ย!!!!! ของขอโทษด้วยจริงๆที่ถ่ายภาพอาหารมาเหลือแต่จาน 555+ ก็คนมันหิวนี่นา ทานเพลินไปหน่อย กว่าจะนึกได้ว่าต้องถ่ายรูปมาฝากท่านผู้อ่าน มันก็เหลือเท่าที่เห็นนี่ล่ะค่ะ
หลังจากที่เราอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเตรียมตัวออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อเลยจ้า แต่เอ๋ วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันนะ เดี๋ยวแอบไปถามคุณไกด์ก่อน…………………………..ได้ข้อมูลมาแล้ว จ้า วันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ กุลมาร์ค นั่งเอง หลายคนสงสัยว่า เอ้ๆๆๆ กุลมาร์คนี่มันคืออะไรหว่า มามะ เดี๋ยวปลาดาวจะเล่าให้ฟัง
กุลมาร์ค แห่งแคชเมียร์ มีชื่อว่าเป็น ทุ่งหญ้าของดอกไม้ (Meadow of Flower) ช่วง ฤดูใบไม้ผลิของที่นี่จะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ ที่โอบล้อมไปด้วยป่าสนและเทือกเขาหิมาลัย เนื่องจากเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าที่งอกงามตามฤดูกาล กุลมาร์คเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่สูงที่สุดในโลก (3,000 เมตรจาก ระดับน้ำทะเล กุลมาร์คจึงได้รับความนิยมจากโปรกอล์ฟ และนักเล่นกอล์ฟ เดินทางมาเล่นกอล์ฟกันที่นี่ในช่วงฤดูร้อน นั่นจึงทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมจากกท่องเที่ยวที่มาเยือน แคชเมียร์ ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมของการเดินทางในแคชเมียร์ เพราะสามารถกิจกรรมและสิ่งต่างๆ ชวนให้ประทับใจ และท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาลนั่นเอง
ทางขึ้นภูเขาของกุลมาร์ค เราต้องขึ้นเคเบิ้ล คาร์ไปนะคะ ใครที่ยังไม่เคยขึ้น แล้วคุรจะต้องร้องว่า อึ้ง ทึ่ง เสียว
ถ่ายภาพหมู เอ้ย ภาพหมู่กันท่ามกลางทุ่งดอกมาสตาร์ด แหม ชื่อนี่น่าทานเชียว
หลังจากที่เพลิดเพลินกับเขากุลมาร์คกันจนบ่าย ก็ได้เวลากลับไปพักแล้วจ้า….แล้วเจอกันใหม่วันพรุ่งนี้นะคะ วันนี้ปลาดาวและสมาชิกขอตัวไปพักผ่อนนอนหลับก่อน ฟิ้วๆๆๆๆๆๆๆ
วันที่สามของการเดินทาง
Morning Ka….ทักทาย กันยามเช้า หลังจากที่เมื่อคืนพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ วันนี้เราจะได้เดินทางไปเที่ยวกันต่อ โปรแกรมสำหรับวันนี้แอบไปถามไกด์มาแล้วว่าเราจะไปกันที่พาฮาลแกมค่ะ นั่นแน่ แอบมีคนสงสัยอีกแล้วว่าเจ้าพาฮาลแกมเนี่ย มันคืออะไรและมีที่เที่ยวอะไรบ้าง ใก้ลเข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย แล้วตั้งใจฟังปลาดาวนะเจ้าคะ
พาฮาลแกม (Pahalgam) หรือหุบเขาแกะ เดิมเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ แต่ไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะเหมือนอย่างบ้านเรานะจ๊ะ ^^ พาฮาลแกมอยู่ห่างจากศรีนาการ์ออกไปอีก 90 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ภาพยนตร์นิยมมาถ่ายทำกันที่นี่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเหมือน “สวิตเซอร์แลนด์” สิ่ง ที่เหมือนกันระหว่างกุลมาร์ค โซนามาร์ค และพาฮาลแกม คือในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาวเย็น น้ำในลำธารเย็นเฉียบ แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็น แม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆโดยเฉพาะ หญ้าฝรั่น (Saffron) มี สรรพคุณลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย มีขายอยู่ทั่วไปทั่วทั้งแคชเมียร์แต่ที่พาฮาลแกมคือแหล่งปลูกหญ้าฝรั่นที่ ใหญ่ที่สุด มีคุณภาพดีกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยังสามารถทำกิจกรรม ปิกนิก ตกปลา ขี่ม้าชมวิวรอบภูเขา
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหุบเขาแกะ แกะเลยเยอะเวอร์
แล้วก็ยังมีน้ำใสไหลเย็น แต่เอ๊ะ!!! ทำไมไม่เห็นตัวปลาหว่า ????
แล้วก็ยังมีทุ่งดอกมัสตาร์ดด้วย งามเน๊าะ……
วันนี้ สมาชิกของเราทุกคนเต็มอิ่มกับธรรมชาติและอากาศที่แสนจะสบาย ทำให้หายเหนื่อยกันเลยทีเดียว แต่เสียดายที่เวลาสนุกของเราวันนี้หมดแล้ว ต้องกลับที่พักกันแล้ว แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ
วันที่สี่ของการเดินทาง
อรุณ สวัสดิ์จ้านายจ๋า อากาศดีอีกแล้ว ต้องสูดไว้เยอะๆไปฝากคนที่บ้าน วันนี้เราจะเดินทางไปยัง ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าทองคำกันนะจ๊ะ หลายคนสงสัยอีกแล้วว่า ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทองมันคือที่ไหน คำตอบก็คือ โซนามาร์ค นั่งเองจ้า
โซนามาร์ค (Sonamarg) หรือ ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าทองคำ (Meadow of gold) โซ นามาร์ค เป็นดินแดนแห่งความสวยงามที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,740 เมตร เป็นที่รู้จักกันในนาม “ประตูสู่ลาดัคห์” จุดเด่นของ โซนามาร์ค คือ เป็นสถานที่ที่มากไปด้วยอากาศอันแสนบริสุทธิ์ ในบริเวณหุบเขาโซนามาร์กนี้มีธารน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมอยู่ตามลาด ไหล่เขา อีกทั้งเทือกเขาหิมะที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศทีสวยงามของ “ดอกมัสตาร์ด” ที่ปกคลุมพื้นดินตัดกับสีขาวของหิมะ เป็นความสวยงามของภูเขาที่ถูกจิตรกรชั้นดีฉาบไว้ตามภูเขาสร้างความประทับใจ ให้แก่ผู้มาเยือน จึงเป็นที่มาของชื่อ โซนามาร์ก ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าทองคำ โซนามาร์คมีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ มีจุดสำหรับแคมปิ้งหลายจุดด้วยกันและยังมีเส้นทางเดินเขาหลายระดับความสูง ให้เลือกผจญภัยได้ตามใจชอบ เป็นแหล่งกิจกรรมสำหรับคนชอบขี่ม้า ชมทุ่งหญ้า ป่าสนและชมภูเขาหิมะ ว่าแล้วก็ไปกันเลย
หุบเขาโซนามาร์คที่อยู่เบื้องหน้า อะไรมันจะสวยปานนั้น
ทุ่งดอกมัสตาร์ดสีเหลืองทอง สมกับที่เป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทองจริงๆด้วย
น้องม้าพาน้องแกะมากินหญ้าอย่างมีความสุข
เผลอแป๊ปเดียวหมดเวลาสนุกสำหรับวันนี้อีกแล้ว ได้เวลากลับที่พักกันแล้วจ้า….ไว้ไปเที่ยวกันต่อวันพรุ่งนี้นะคะ
วันที่ห้าของการเดินทาง
เช้า สุดท้ายที่แคชเมียร์กับบบรยากาศชิวๆ แหม ไม่อยากจะกลับกรุงเทพฯกันเลยทีเดียว วันสุดท้ายนี้ไม่ไปไหนไกลแล้ว เที่ยวแถวๆนี้แล้วกันนะคะ วันนี้เราจะไปเยือนทะเลสาบดาล สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งทะเลสาบดาลนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ แคชเมียร์เลยก็ว่าได้
ทะเลสาบดาล (Lake Dal) ลงเรือ “ชิคารา” เป็น เรือพายโบราณ เป็นพาหนะสำหรับทำมาหากินของชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ ที่สำคัญใบพายเป็นรูปหัวใจ ในทะเลสาบดาลเราจะพบกับ “สวนผักลอยน้ำ” เป็น พื้นที่ที่ชาวแคชเมียร์ใช้ค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าพันคอ เสื้อผ้า ของที่ระลึก งานเปเปอร์มาเช และงานหัตถกรรมทั้งหลาย ทะเลสาบแห่งนี้ใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ ใช้เป็นตลาดน้ำที่พ่อค้าจะพายเรือมาซื้อขายสินค้ากันแต่เช้าตรู่ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และดอกไม้
ถ้ามาที่นี่แล้วไม่ได้ล่องเรือ ชิคารา เค้าว่ากันว่ามาไม่ถึงที่นี่จริงๆนะ
Mr Flower man ตั้งหน้าตั้งตาขายดอกไม้กันใหญ่เลย
บรรยากาศรอบๆทะเลสาบดาล
หลังจากเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยวแคชเมียร์มาเป็นเวลา 5 วัน 4คืนแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์กันแล้ว…บ๊าย บาย
ท้ายนี้ ขอบคุณสำหรับการติดตามบทความท่องเที่ยวของปลาดาวนะคะ ไว้ทริปหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนนั้น ต้องคอยติดตามกันนะคะ แล้วเจอกันค่ะ