เจาะลึก ‘นิยามสาวฮอต’ ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด 3,000 ปี!!
“ความสวยของผู้หญิงล้วนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย” นี่คือประโยคเด็ดที่ได้ยินบ่อยมาก แต่สุดท้ายก็อดเอะใจไม่ได้ว่า
เอ๊ะ แล้วเปลี่ยนไปตามยุคที่ว่าน่ะ คือการเปลี่ยนในระดับไหน นิยามความสวยของคนสมัยก่อนกับสมัยนี้แตกต่างกันประมาณไหนแน่!?
ซึ่งทาง Buzzfeed ก็ได้มาอาสาถอดรหัส ผ่านการนำต้นแบบของ ‘หญิงที่ถูกเรียกว่าฮอต’ จากช่วงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานถึง 3,000 ปี
มาทำการวิเคราะห์ โดยหากใครมีหุ่นแบบนางแบบคนไหน ก็จะถือว่า ‘ฮอต’ ตามยุคสมัยนั้น ส่วนนิยามความงามจะเปลี่ยนไปแค่ไหน
จะพามาเจาะลึกกัน (มีคลิปให้ชมด้านล่าง)
ยุคอียิปต์ (c.1292-1069 B.C.)
สาวอียิปต์ในอดีตนั้นสามารถถือครองทรัพย์สินส่วนตัวได้โดยไม่ต้องรวมกับสามี และสามารถประกาศหย่าขาดได้โดยไม่ต้องละอายใจอะไร
ฉะนั้นจุดนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่าหญิงอียิปต์มีสิทธิและอำนาจที่สูงเช่นกัน
ส่วนสาวฮอตในยุคนี้มักมีหน้าตาแบบเธอคนนี้ ซึ่งผู้หญิงมักนำผงสีดำมาทารอบดวงตา และคนหุ่นดีส่วนใหญ่ก็มักจะมีไหล่ที่เล็ก
ในขณะที่ช่วงเอวต้องดูสูง
ยุคกรีก (c. 500 – 300 B.C.)
ยุคกรีกนั้นเป็นยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และพวกเขาก็มีสิทธิมากมาย ส่วนสาวกรีกที่ฮอตในยุคนั้นมักเป็นคนที่มีรูปร่างคล้ายกับเทพี Aphrodite of Cnidus
ซึ่งเป็นรูปปั้นที่คนเคารพบูชาในยุคนั้น
ยุคราชวงศ์ฮั่น (c.206 B.C. – 220 A.D.)
ผู้หญิงในยุคฮั่นนั่น ถ้าจะถูกเรียกว่า ‘เอ็กซ์เซ็กซี่’ จะต้องมีหุ่นที่เรียวบาง และมีผิวที่ค่อนข้างซีดขาว ส่วนเส้นผมต้องดกดำ
ปากก็ต้องมีสีแดงระเรื่อ เรื่องฟันเองก็ต้องขาวใส การเดินก็ต้องเปี่ยมไปด้วยกริยามารยาทเดินแบบเรียบๆนิ่งๆ
ซึ่งนี่ล่ะคือเคล็ดลับความสวยของหญิงฮอตสไตล์ฮั่น
ยุคเรอเนซองส์ในอิตาลี (ฟื้นฟูศิลปวิทยาการ) (c.1400-1700)
ผู้หญิงในยุคนี้เติบโตมาพร้อมกับความเข้มข้นของศาสนจักรคาทอลิก ซึ่งทุกคนจะยึดมั่นใน ‘ความบริสุทธิ์’ มาก
แต่หุ่นที่ถูกมองว่าฮอตมักเป็นคนมีน้ำมีนวล (อวบ) มีหน้าผากกว้าง และเป็นคนที่มีอกสะบรึ้ม แล้วก็ต้องสูงอีกด้วย
หรือจะพูดง่ายๆว่าสาวสมัยนี้ต้อง สูง-อวบ-นมสะบึม นั่นล่ะ
ยุควิคตอเรียน (c.1837-1901)
ผู้หญิงยุควิคตอเรียนนั้นได้รับอิทธิพลในการใช้ชีวิตมาจาก Queen Victoria โดยสาวๆนิยมใส่ Corset
(ชุดชั้นในผู้หญิงที่สวมเพื่อให้สะโพกและหน้าอกเข้ารูปทรง) เพื่อที่จะรัดเอวให้เรียวเล็กและฟิตที่สุดเท่าที่จะฟิตได้ (ทรมานมั้ยนี่)
ส่วนทรงผมนิยมไว้ผมยาวสลวย เพื่อสะท้อนความเป็นสาวเต็มตัว
ยุคสหรัฐอเมริกา (สมัย 1920)
ในยุคนี้ผู้หญิงเพิ่งได้รับสิทธิในการเลือกตั้งตอนปี 1920 และพวกเธอก็ยังมีบทบาทในสงครามโลกครั้งที่ 1 อาทิ การช่วยงานต่างๆของผู้ชาย
เช่นตัดไม้ ซึ่งนั่นทำให้ผู้หญิงในยุคนี้มักแต่งตัวแบบ “แมน”…ใช่ คุณฟังไม่ผิดสาวเอ็กซ์ในยุคนี้คือผู้หญิงที่ดูถึก สง่า ไม่ค่อยมีส่วนเว้าส่วนโค้ง
หรือจะเรียกๆง่ายๆว่า “หนุ่มยุคนี้นิยมสาวแกร่ง” ก็ว่าได้
ยุคฮอลลีวูด
ในยุคที่อุตสาหกรรมหนังเฟื่องฟู ‘นิยามของหญิงสวย’ ก็เปลี่ยนไปแบบรุนแรงมาก โดยในช่วง 1930-1950 นั้น ผู้หญิงจำนวนมากเริ่มมีค่านิยม
ในการอยากเป็นซุปตาร์ และหลายคนก็ยึด Marilyn Monroe เป็นแบบอย่าง ซึ่งจะต้องมีส่วนเว้า ส่วนโค้ง หุ่นเรียวเป๊ะ ตลอดจนมีเอวเล็กน่าลูบ
ยุค 1960
ในยุคนี้ผู้หญิงหลายคนเริ่มมีสิทธิมากขึ้น และแนวคิดที่เรียกว่า ‘Feminism’ ก็เริ่มเฉิดฉาย ซึ่งผู้หญิงในยุคนี้ชอบที่จะใส่กระโปรงสั้นวาบหวิว
หรือไม่ก็ใส่ทรงเอตามแบบแฟชั่น โดยสาวที่จะถูกเรียกว่าฮอตได้ ต้องเป็นคนที่หุ่นเรียว สูง และต้องผอม
ยุค Jane Fonda
หลายคนคงรู้จักการเต้นแอโรบิก แต่น้อยคนจะรู้ว่า Jane Fonda คือผู้คิดค้น ซึ่งในยุค 1980 คนเริ่มนิยม ‘สุขภาพดี’
หรือมุ่งเน้นไปที่การทำให้หุ่นฟิต-หุ่นเฟิร์ม ตลอดจนมุ่งเน้นในการออกกำลังกายมากขึ้น
ยุคเฮโรอีน
คุณฟังไม่ผิดอีกนั่นล่ะ นี่คือยุคแห่งยาเสพติดเฮโรอีนจริงๆ โดยสถิติการใช้เฮโรอีนในผู้หญิงพุ่งสูงจนน่าตกใจ
และนั่นทำให้สาวจำนวนมากมีหุ่นแบบขี้ยา ซึ่งดันดูฮอตในสายตาเหล่าอาชญากรอีกด้วย (ไม่น่าเอาเป็นแบบอย่างน้า อย่าลอกเลียนแบบ)
ยุค 2000
นี่คือยุคปัจจุบันที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ และในสมัยนี้ทุกคนล้วนพยายามหาวิธีทำให้ตัวเองดูน่าดึงดูดนิยามสวยของคนยุคนี้คือ ผอมได้ เริ่ดได้
แต่ต้องสุขภาพดีด้วย แล้วยิ่งถ้ามีหน้าอกสะบึม ก้นใหญ่ ตลอดจนหน้าท้องที่แบนราบสิ่งเหล่านี้ล่ะคือนิยามความ ‘ฮอต’ ของสาวยุค 2000
ซึ่งความต้องการเหล่านี้ทำให้สาวๆจำนวนมากหันเข้าหาการศัลยกรรมมากขึ้น มากว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา
แต่ทั้งนี้นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะสวย แต่ขอเพียงอย่าสวยด้วยมีดหมอเถื่อนก็พอ
เพราะมันไม่คุ้มเลยที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยงเช่นนั้น
แล้วคุณล่ะ ชอบนิยามความแซ่บในยุคสมัยใด?
ที่มา: Buzzfeed