แนวคิดการใช้เงินของนักศึกษาคนจนที่ต้องดำรงในสังคมคนรวย
ขออธิบายก่อนไว้เลยว่ากระทู้นี้หมายถึงชีวิตวัยรุ่น ชีวิตมหาลัย ซึ่งมีอยู่จริงๆ ในสังคมไทยไม่น้อยที่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยแต่ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น มั่นใจว่าต้องเป็นกระทู้ที่ต้องโดนด่า จนแล้วไม่เจียม จนแล้วอวดรวยทำไม แต่ถ้าสังคมที่คุณอยู่เต็มไปด้วยคนรวย เต็มไปด้วยการอวดเพื่อเอาหน้าเอาตา มีเพื่อนเป็นลูกเศรษฐี ใช้เงินวันละเป็นหมื่นๆ ได้หรืออะไรก็แล้วแต่ มั่นใจว่าคุณจะต้องหนักใจและอยากมีในสิ่งที่เพื่อนๆ คุณมีกันซึ่งมันก็คล้ายๆ กับ peer pressure ที่เพื่อนทำไรเราก็อยากทำ เพื่อนมีอะไรเราก็อยากมี เราต่างมีเหตุผลในการใช้เงินของเรา แต่ถ้าทรัพยากรด้านการเงินของคุณมีอยู่อย่างจำกัดมากๆ ไม่เหมือนกับเพื่อนของคุณเนื่องด้วยสถานะทางบ้านคุณ คุณจะทำอย่างไร?
ผู้คนมากมายในสังคมไทยไม่น้อยที่เจอกับสิ่งแบบนี้ หลายคนเลือกที่จะทำตามเพื่อนหรือซื้อของตามเน็ตไอดอล ดารา beauty blogger หลายๆ ท่านโดยไม่คำนึงถึงเงินในกระเป๋าของตัวคุณเอง บางคนอาจจะยังหาเงินด้วยตัวเองยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ก็ไปหนักคุณพ่อคุณแม่ซึ่งต้องเข้าใจด้วยว่าท่านก็ไม่มี หรือท่านอยากให้เรารู้จักคุณค่าของเงิน สังเกตได้จากเด็กมัธยมหลายท่านที่ชอบโพสสถานะลงเฟสบุคประมาณว่า ทำไมแม่ไม่ซื้อไอโฟนให้บ้าง ทำไมไม่รวยเหมือนคนอื่นเขา หรืออะไรอีกมากมาย เอาตามหลักจริงๆ แล้ว มีน้อยคนมากๆ (นักศึกษาหรือนักเรียน) ที่เงินไม่พอแล้วหางานทำเพิ่ม เก็บเงินหรือเลือกห่างเพื่อนรวยๆ ไปเพราะกลัวว่าหากเพื่อนชวนไปซื้อของแพงๆ แล้วเราจะไม่มีเงิน ประโยคที่ว่า พอใจในสิ่งที่ตนมี แทบใช้ไม่ได้เลยกับเด็กวัยรุ่นที่กำลังคึกคะนอง (ถึงมีก็คงเป็นส่วนน้อย ซึ่งถือว่าดีค่ะ)
หลายคนที่ฐานะไม่ดีเลือกที่จะโทษดวง โทษฟ้า หรือบางทีเลือกที่จะโทษพ่อแม่ตัวเองด้วยซ้ำที่เราไม่มีเหมือนคนอื่นเขา แต่เรากลับไม่เคยคิดกันเลยว่า ถ้าพ่อแม่เราไม่มี เราก็มีแทนสิ้ ถ้าพ่อแม่เราเคยทำแบบนี้แล้วมันพลาด ทำไมเราไม่หาวิธีใหม่ แล้วรวยด้วยตนเอง หรือถ้าพ่อแม่เราไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำงานแล้ว ทำไมเราไม่ทำเองล่ะ?
เราเป็นคนนึงที่ฐานะทางบ้านเคยดีมาก แต่เนื่องด้วยเราเป็นลูกคนสุดท้อง พอเราเข้ามหาลัยพ่อแม่ก็เกษียณแล้ว เงินที่ได้หลังเกษียณคุณพ่อก็หมดเร็วมากเพราะท่านติดเหล้าและให้บ้านอีกหลัง(เมียน้อย) ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เหลือแต่คุณแม่ที่ต้องส่งเราเรียนให้จบ พี่ๆ ก็แยกย้ายไปมีครอบครัว ถ้าจะมาช่วยส่งเราเรียนอีกพวกเขาก็ไม่ไหวเพราะเขาก็มีลูกของเขาเอง และมหาลัยก็เป็นอะไรที่เราโตพอจะอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว
เราอยู่ภาคอินเตอร์ แน่นอนว่าค่าเทอมไม่ใช่น้อย แม่บอกเสมอว่า เงินเกษียณ หมายความว่าไม่ได้อีกแล้ว ใช้อย่างประหยัดเท่านั้น ซึ่งเราแอนตี้ท่านมากเรื่องนี้ เรามั่นใจว่า ประหยัดเงินยังไงมันก็ไม่ทำให้รวยขึ้น ยังไงเงินที่เราประหยัดมันก็ต้องหมดลงสักวันหากเราไม่ลงทุนอะไรกับเงินก้อนนั้น แต่เนื่องด้วยคุณแม่ของเราเขาเป็นพวก risk averse คือกลัวความเสี่ยงทุกอย่าง เราจึงไม่อยากเถียงท่านมาก แต่ด้วยคณะที่เราเรียนนั้นคือคณะเศรษฐศาสตร์ ของมหาลัยแห่งนึง ซึ่งเต็มไปด้วยลูกเจ้าหลานเธอลูกคนรวยลูกเจ้าของโรงแรมลูกเศรษฐีและชาวต่างชาติเต็มไปหมด เงินที่จะใช้ในชีวิตประจำวันถ้าจะคบกับเพื่อนเหล่านี้แบบไปไหนไปกันนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะฐานะตอนนี้เรา consider ตัวเองว่าจน (ย้ำว่าตัวเรา ไม่ใช่พ่อแม่)
-เมื่อเข้าเรียน ปี1 ทุกคนรู้ดีว่าเป็นปีของการสังสรรค์ เมากันทุกวันไม่มีเบื่อ ค่าเหล้าไม่ใช่ถูกๆ จะไม่ไปด้วยเพื่อนก็งอน
-เลิกเที่ยงไปหาอะไรกินดี
-เครื่องสำอางค์/เสื้อผ้า ออกใหม่ คอลเลคชั่นนี้ซื้อยัง?
-รถรุ่นใหม่
-ไอโฟนหกออกแล้วนะ ใครมีแล้วบ้าง?
-รถเมล์หรอ? นั่งไม่เป็นอะ
-มอไซค์หรอ? ผมเสียอ้ะแกร
สิ่งที่พูดมาทั้งหมดบอกได้เลยว่าเจอจริงๆ ในสังคมที่เราอยู่ และอาจจะสังคมของคนอื่นๆ ด้วย
แต่จะให้เราทำยังไง?
สำหรับเราที่ได้เงินเดือนละ 10,000 บาท (เพื่อนส่วนใหญ่ได้เดือนละ 20,000-50,000) จะต้องใช้สอยยังไงให้ไม่ลำบากพ่อแม่ และยังเข้ากับสังคมเพื่อนรวยๆ ได้ มาดูกันค่ะ
เราได้เดือนละ 10,000 บาท แต่จะหัก 1,000 บาท เข้าธนาคารเลยค่ะ เพื่อที่จะเหลือ 9,000 จะได้ตีง่ายๆ ใช้วันละ 300 บาทเท่านั้น
-ไปมหาลัยยังไง
รถเมล์ อากาศดีก็ธรรมดา อากาศร้อนก็รถปรับอากาศ (เฉลี่ย 7-13 บาท)
-อาหารเช้า
ข้างทาง ตามสั่งทั่วไป หรือในเซเว่น (เฉลี่ย 35-50 บาท)
-ข้าวเที่ยง (เป็นมื้อที่ส่วนใหญ่ทานกับเพื่อน)
ร้านอาหารในห้างทั่วไป (เฉลี่ย 150-200)
จากนั้นเราก็จะแยกย้ายกันกลับบ้าน
-กลับบ้าน
รถเมล์ อากาศดีก็ธรรมดา อากาศร้อนก็รถปรับอากาศ (เฉลี่ย 7-13 บาท)
ชีวิตประจำวันของเราจะใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 199-276 บาท
ถ้าเพื่อนชวนไปร้านเหล้า เราต้องปฏิเสธบ้าง หรือถ้าไป ไม่ทานค่ะ หรือเลือกสั่งอันที่ถูก
สินค้าเครื่องสำอางค์เลือกเป็น drug store ซะส่วนใหญ่ ถูกและดีมีอยู่จริงค่ะ
เสื้อผ้า เนื่องด้วยเราเชื่อว่าถ้าหุ่นดีใส่อะไรก็ดูดีเราเลยไม่ mind กับเรื่องนี้มากเท่าไหร่
หรือบางทีเราก็ mix&match เสื้อผ้าที่มีอยู่ให้ดูดีเหมือนมันแพงก็ได้ค่ะ
เห็นได้ว่าเวลาอยู่กับเพื่อน เราก็จะใช้เงินตามเพื่อนปกติแต่ต้องมีสติ ไม่ซื้อตามทุกอย่าง หรือซื้อในสิ่งที่ถูกกว่า หรือคล้ายๆ กัน
ถ้าอยู่คนเดียว เดินได้เป็นเดิน ประหยัดอะไรได้ก็ประหยัด กลับมาทานข้าวที่บ้านได้ก็จะมาเลยค่ะ
เงินที่บอกตอนแรกว่าหัก 1000 ทุกเดือนเข้าธนาคาร ก็เก็บไว้ลงทุนหุ้นในอนาคต หรือไว้ใช้ยามวิกฤต
ตั้งใจเรียนให้ถึงที่สุด มั่นใจว่าในหลายมหาลัยนั้นมีทุนนักเรียนเรียนดี เราก็จะได้เงินเพิ่มมาอีก
ทำงานพาร์ทไทม์หากมีเวลาว่าง ขายของตามไอจีอะไรแบบนี้ก็ได้ค่ะ
จุดประสงค์หลักจริงๆ คือไม่อยากให้ฟุ่มเฟือยกันตั้งแต่ตอนที่ยังหาเงินด้วยตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำค่ะ ถ้ารวย ถ้าเหลือใช้ จะทำอะไรก็ได้ค่ะ
เพื่อนๆ คนไหนมีวิธีประหยัดเงิน ออมเงินหรือลงทุน แชร์กันได้นะคะ