เจาะลึกไทม์ไลน์ชีวิต ‘โนบิตะ’…ลึกล้ำจนคุณอาจจะต้องอึ้ง!!
หมีขาวมั่นใจว่าแทบทุกคนต้องเคยดูโดราเอม่อน แต่ทุกทีเราก็ดูแค่ผ่านๆ เอาฮาเป็นตอนๆ โดยที่แทบไม่รู้เลยว่าไทม์ไลน์ชีวิตของโนบิตะนั้นล้ำลึกมาก อีกทั้งยังมีอีกหลายเรื่องราวที่น้อยคนจะสังเกต ตั้งแต่คำพูดบางคำของยายที่ทำให้โนบิตะซึ้งสุดขั้ว พ่อของโนบิตะพบรักกับแม่ได้ยังไง แล้วครั้งหนึ่งโนบิตะเคยมีบาดแผลในใจจากสาวข้างบ้านที่ย้ายไปอเมริกา (เฮ้ยมีด้วยเหรอ)!?
วันนี้หมีขาวจึงขอนำบทวิเคราะห์เจาะลึกที่คุณ ‘ชีริว’ เขียนไว้ใน Bloggang มาให้อ่าน ขอบอกว่าควรทำใจให้พร้อม เพราะมันละเอียดและล้ำมาก แต่ถ้าอ่านจนจบได้รับรองว่าอาจอยากย้อนกลับไปดูโดราเอม่อนอีกครั้งเลยทีเดียว!!!
ก่อนจะเริ่มลุย ต้องบอกก่อนว่าแม้ข้อมูลหลายแห่งจะบอกว่าโนบิตะเกิด พ.ศ.2490 แต่นั่นคือเรื่องที่ผิดนะจ้ะ เพราะข้อมูลวันเกิดของโนบิตะ ที่ถูกต้อง เขาลืมตาดูโลกตอน 7 สิงหาคม 2507 ซึ่งได้ระบุไว้ในตอนที่ชื่อว่า “วันที่ผมเกิด” (น้อยรายมากจะรู้จัก) แล้วนี่เป็นตอนที่ตีพิมพ์ในฉบับหนังสือการ์ตูนเท่านั้น
แล้วที่ลึกล้ำนิดๆก็คือ ตอนที่โนบิตะได้ตีพิมพ์ลงนิตยสารเด็ก ตัวละครเจ้าแว่นเนิร์ดจะถูกกำหนดให้อยู่เพียงชั้น ป.1 และจะมีนิสัยไม่ซับซ้อนแต่ต่อมา เมื่อนักเขียนในตำนาน ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ ได้ไปตีพิมพ์นิตยสารผู้ใหญ่ ตัวละครโนบิตะก็ถูกปรับให้เป็น ป.6 ซึ่งจะมีบุคคลิกนิสัยที่ซับซ้อนมากขึ้น
แค่เกริ่นมาก็มึนกันเลยทีเดียวใช่มั้ยล่ะ เพราะถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ก็อาจแทบไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อน ส่วนไทม์ไลน์โนบิตะคร่าวๆนั้นมีดังนี้
- ปีปัจจุบันโนบิตะอายุ 10 ปี อยู่ ป.4
- โนบิตะหมั้นกับชิซุกะในวันที่ 25 ต.ค. ในอีก 14 ปีข้างหน้า
- โนบิตะแต่งงานเมื่อเขาอายุ 25 ปี จากนั้นโนบิตะก็ย้ายไปอยู่คอนโดกับชิซุกะในปีเดียวกัน
- โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนไปอีก 25 ปีข้างหน้า เพื่อพบตัวเองวัย 35 ปี และโนบิสุเกะลูกชายตอนอายุ 10 ขวบ เท่าเขาตอนนี้
พูดมาซะยาวได้เวลาเริ่มต้นการผจญภัยแล้วล่ะ มาดูกันว่าชีวิตโนบิตะต้องเผชิญกับวิกฤติสำคัญใดบ้าง
ก่อนเริ่มขออินโทรเรื่องราวของพ่อแม่โนบิตะก่อน พ่อของโนบิตะคือ โนบิ โนบิซุเกะ แม่ของโนบิตะคือ โนบิ ทามาโกะ (นามสกุลเดิมคือคาตาโอกะ) ในเรื่องมีตอนที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตก่อนทั้งคู่มาพบกันหลายตอน พอจะเอามาเรียงต่อกันได้ดังนี้ครับ
10 มิ.ย. 1945
ขณะถูกพาหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปทำงานหนักที่ชนบทร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ พ่อโนบิตะได้พบกับเด็กผู้หญิงที่งดงามราวลิลลี่ขาว …ซึ่งจริงๆก็คือโนบิตะปลอมตัวมานั่นเอง ปีนี้คือปีที่ญี่ปุ่นโดนปรมาณูจนแพ้สงครามครับ
10 ก.ค. 1948
แม่โนบิตะเอาแหวนของคุณยายไปเล่นแต่งงานแล้วเผลอทำหาย
เมื่อ 25 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1949) พ่อของโนบิตะเรียนวาดรูปอยู่กับ อ.คาคิฮาร่า ซึ่งต่อมากลายเป็นศิลปินชื่อดัง โนบิตะตั้งใจจะนั่งไทม์แมชชีนไปซื้อภาพตอนอาจารย์ยังไม่ดังในราคาถูกๆ แต่ดันเผลอไปซื้อภาพของพ่อกลับมาซะนี่
15 ก.พ. เมื่อ 20 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1958)
พ่อของโนบิตะปฏิเสธลูกสาวเศรษฐีที่จะช่วยออกเงินค่าเรียนศิลปะ ทำให้เขาไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลคนรวย เรียกว่าเป็นจุดหักเหใหญ่ของชีวิต
ซึ่งในตอนนี้หลังลงฉบับรวมเล่ม ได้เขียนเพิ่มเติมว่าหลังโดนเตะออกจากบ้านเศรษฐีแล้ว พ่อโนบิตะได้บังเอิญวิ่งมาชนเอาแม่โนบิตะสมัยเป็นนักเรียน เธอทำตั๋วรถตกทำให้พ่อต้องเอาไปคืน จึงนับได้ว่าวันนี้ เป็นวันที่พ่อกับแม่โนบิตะ พบกันครั้งแรกด้วย
3 พ.ย. เมื่อ 12 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1959)
พ่อและแม่โนบิตะขอแต่งงานกันที่สวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่รู้ว่าใครขอใครแต่งงาน เพราะโดราเอม่อน เอาหุ่นปลอมตัวไปง้อให้ทั้งคู่คืนดีและขอแต่งงานกันทีละฝ่ายนั่นเอง

ถ้าถามว่าตามเวลาในท้องเรื่องพ่อแม่โนบิตะอายุเท่าไหร่ ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีตัวเลขที่เป็นทางการหรือไม่ แต่อายุพ่อโนบิตะถูกเปิดเผยตอนที่โนบิตะทำตั๋วรถไฟใต้ดินให้ใช้ ระบุบนตั๋วว่า โนบิ โนบิโซ อายุ 36 ปี (ในตอนแรกๆพ่อของโนบิตะใช้ชื่อโนบิโซ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโนบิซุเกะในตอนหลัง) ส่วนแม่โนบิตะเคยถูกโดราเอม่อนเอาเครื่องตรวจสอบอายุยิงหนนึง ได้ 38 ปี
10 ปีก่อน
วันที่ 7 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1964)
โนบิตะลืมตาดูโลก พ่อได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า “โนบิตะ” ซึ่งหมายถึงการเติบโตอย่างแข็งแรงและเจริญก้าวหน้าไม่สิ้นสุด ทั้งพ่อและแม่คาดหวังว่าลูกน้อยคนนี้จะต้องเติบโตเป็นคนดี ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่งโนบิตะในปัจจุบันนั่งไทม์แมชชีนมาฟังความคาดหวังของพ่อแม่แล้วก็มีแรงให้ขยันเพื่อพ่อแม่มากขึ้นอีกนิด
ประโยคแรกที่ทารกโนบิตะพูดคืออะไรใครนึกออกบ้างครับ? ถ้าไม่เคยอ่านต้องเดากันไม่ถูกแน่ๆ… ประโยคนั้นคือ “ผมอยากกินโคล่าฮะ” นั่นเป็นเพราะโนบิตะคนปัจจุบันได้ใช้ของวิเศษย้ายวิญญาณตัวเองเข้าไปในตัวเองตอนยังเป็นทารกอยู่ แล้วเขาไม่อยากดื่มนมน่ะซี
7 ปีก่อน
โนบิตะเคยนั่งไทม์แมชชีนไปตอนที่ตัวเองอายุ 3 ขวบ เพื่อพบคุณย่าสมัยยังมีชีวิตอยู่ ย่าต้องการเลี้ยงดูโนบิตะตลอดไป แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะย่าแก่มากแล้ว โนบิตะเลยกลับไปสะพายกระเป๋านักเรียนมาให้ดูแล้วบอกว่าตัวเขานี่แหละ คือโนบิตะตอนอยู่ประถมและนั่งไทม์แมชชีนมา ซึ่งย่าก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าโนบิตะคนนี้แหละคือหลานชายของเธอ ตอนที่สุดประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชั่นความยาว 27 นาที ออกฉายในปี 2000 ด้วย
โนบิตะเคยนั่งไทม์แมชชีนเพื่อมาพาคุณย่าไปพบพ่อในปัจจุบันด้วย แต่ตอนนี้พลาดไปหน่อยที่บอกว่านั่งไทม์แมชชีนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่โนบิตะในอดีตนั้นโตราวๆ 3-4 ขวบแล้ว และตอนนี้คุณย่าจำได้ว่าโนบิตะเคยมาเยี่ยมหนหนึ่งแล้ว น่าจะเป็น 7 ปีก่อนมากกว่า
6 ปีก่อน
ในสมัยอนุบาล โนบิตะมีเพื่อนสาวคนแรกชื่อนนจัง เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักข้างบ้านที่อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน โนบิตะถูกพวกไจแอนล้อว่าเล่นกับผู้หญิงและแซวว่าสงสัยจะรักนนจัง แถมท้าให้ไปแกล้งนนจังให้ดู ซึ่งโนบิตะก็ยอมใจดำแกล้งนนจังแล้วขโมยรองเท้ามาข้างนึงเพื่อเข้าเป็นพวกเดียวกับไจแอนท์ เขาไม่รู้ว่านนจังกำลังจะย้ายบ้านไปอเมริกา กว่าจะรู้ตัว บ้านของนนจังก็ไม่มีใครอยู่แล้ว โนบิตะรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ และเก็บรองเท้าแดงข้างนั้นไว้ในห้องมาตลอด (มีคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง “แฟนฉัน” ที่สุดโด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2546 พล็อตคล้ายๆโดราเอม่อนตอนนี้เลย) ยังไงก็นับว่าโชคดีที่โดราเอม่อนมีไทม์แมชชีน โนบิตะเลยมีโอกาสกลับไปอำลานนจังและจากกันด้วยดี
โนบิตะเข้ามาอยู่ในกลุ่มไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิซุกะ ตอนเขาอายุได้ 4 ขวบ สถานที่เล่นประจำคือกองไม้ที่อยู่แถวบ้าน
คุณย่าเสียชีวิตตอนที่โนบิตะยังอยู่อนุบาล ตอนนั้นย่าป่วยหนัก คำสอนสุดท้ายของย่าที่สอนให้แก่โนบิตะคือจงทำตัวอย่างตุ๊กตาล้มลุก ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งมันก็ยังสามารถลุกขึ้นได้เสมอ…
3 ปีก่อน
โนบิตะขึ้นเรียนชั้น ป.1 ตอนนั้นเขาตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนครั้งแรกมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่การเรียนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับโนบิตะไป
1 ปีก่อน
เมื่อ 1 ปีก่อน ตัดต้นพลับที่บ้านทิ้ง
ปัจจุบัน
ใช้ชีวิตไปตามเรื่องราว มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง

จากไทม์ไลน์ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าแท้จริงแล้วโนบิตะใช้ชีวิตอยู่บนโลกเกิน 10 ปี แถมไม่พอยังมีเรื่องในอนาคตที่ต้องดูกันต่ออีก
อนาคต อีก 3 ปีข้างหน้า
โนบิตะตอนอยู่ ม.ต้น มักกลับมาหาโนบิตะคนปัจจุบัน เพื่อเคี่ยวเข็ญให้ตั้งใจเรียน ตัวเขาในอนาคตจะได้ฉลาดๆ แต่ก็มักถูกโนบิตะตอน ม.ปลายลากกลับไป
โนบิตะฟลุ๊คจบ ม.ปลายได้ แต่เอ็นท์ไม่ติด
ลูกพลับที่ปลูกไว้ในสวนตอนปัจจุบันแทนต้นเก่า ออกลูกกินได้แล้ว โนบิตะตอน ม.ปลาย ต้องคอยไล่โนบิตะคนปัจจุบันที่นั่งไทม์แมชชีนมาขโมยกินลูกพลับ
อนาคต อีก 9 ปีข้างหน้า
ปีนี้โนบิตะเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะมีคนสละสิทธิ์ที่นึง
อนาคต ไม่ทราบปี
โนบิตะและครอบครัวย้ายไปอยู่แมนชั่น ส่วนบ้านปัจจุบันกลายเป็นส้วมสาธารณะ
ไม่แน่ใจว่าโดราเอม่อนกลับไปโลกอนาคตตอนไหน แต่โนบิตะตอนโตไม่มีโดราเอม่อนอยู่ด้วยแล้ว
อนาคต อีก 14 ปีข้างหน้า
ชิซุกะไปปีนเขาเล่นสกีกับเพื่อนๆ (ชวนโนบิตะไม่ยอมไปเลยต้องไปกับเพื่อนแทน) แต่หมอกลงหนาจนพลัดหลงกับเพื่อนคนอื่นๆ โนบิตะวัย 24 ไข้ขึ้นนอนซมอยู่บนเตียง โนบิตะคนปัจจุบันจึงใช้ผ้าคลุมกาลเวลาทำให้ตัวเองโตขึ้นแล้วนั่งไทม์แมชชีนไปหาชิซุกะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมยังโชว์ความไม่เอาไหนเข้าไปอีก ชิซุกะติดต่อเรียกคนมาช่วยจนทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย
อนาคต อีก 15 ปีข้างหน้า
โนบิตะแต่งงานกับชิซุกะที่โรงแรม Prince Melon Hotel ชั้น 38 เมื่อเขาอายุได้ 25 ปี แต่ไม่มีการระบุวันที่แต่งงานไว้ โนบิตะจำวันแต่งงานผิดไปหนึ่งวัน เลยมาถึงโรงแรมก่อนกำหนด วันนี้ไจแอนท์ ซูเนโอะ และเดคิซุงิ เพื่อนสมัยเรียนประถมนัดโนบิตะไปเลี้ยงสละโสดด้วย ขณะที่โนบิตะกำลังเฮฮา ทางด้านชิซุกะกลับคิดลังเลใจว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะไม่อยากทิ้งพ่อไป เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เคยทำอะไรตอบแทนคุณพ่อเลย แต่พ่อก็บอกกับชิซุกะว่าการที่ชิซุกะเกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่และได้มอบความทรงจำมากมายให้กับพวกเขานั่นแหละ คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด
“ของขวัญชิ้นแรกก็คือเรื่องที่หนูเกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ ราวตีสามเห็นจะได้… เสียงร้องแรกเกิดของลูกนั้นราวกับเสียงแตรจากสวรรค์ มันเป็นเสียงอันแสนไพเราะที่พ่อกับแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ฟ้าทางทิศตะวันออกก็เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่เบื้องบนยังเต็มไปด้วยหมู่ดาว เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อได้กำเนิดขึ้นในจักรวาลอันแสนยิ่งใหญ่นี้แล้ว พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็ซึ้งใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นวันที่แสนมีความสุข ความทรงจำของวันเหล่านั้นต่างหากล่ะ คือของขวัญที่วิเศษที่สุดจากลูก แม้จะเหงาแต่ความทรงจำก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกอบอุ่น เพราะงั้นลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”
และนี่คือคำพูดที่ประทับใจที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ครับ ไม่อยากเชื่อว่ามันจะมาจากตัวละครที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวให้เห็นเพียงแค่สองครั้ง อ.ฟูจิโมโตะเองก็มีลูกสาว ผมว่าบางครั้งแกก็เขียนการ์ตูนด้วยความรู้สึกของผู้เป็นพ่อจริงๆน่ะ คุณพ่อบอกกับชิซุกะว่าเลือกคนได้ถูกแล้ว เพราะโนบิตะนั้นเป็นคนที่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข และเศร้ากับความทุกข์ของผู้อื่น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ เขาเชื่อว่า โนบิตะจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักคนนี้มีความสุขได้อย่างแน่นอนตอนที่สุดแสนประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชันความยาว 27 นาที ในปี 1999 ชื่อตอน “คืนก่อนวันแต่งงานของโนบิตะ” ด้วยอนาคต อีก 25 ปีข้างหน้า
โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนมาพบตัวเองในวัย 35 (ตอนนี้โนบิซุเกะ 10 ขวบ) เพื่อดูตัวเองในอนาคตบ้าง มาบ่นเรื่องโนบิซุเกะบ้าง ฯลฯ โนบิตะตอนนี้ผ่าตัดตาทำให้สายตาปกติ ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว เขาอยู่กับชิซุกะและโนบิซุเกะเป็นครอบครัว 3 คน พอเริ่มโตเขาก็เข้าใจหลายๆอย่างที่พ่อแม่ตัวเองทำมากขึ้น เขาเข้มงวดกับโนบิซุเกะ เพราะไม่อยากให้ขี้เกียจแล้วลำบากแบบตัวเองเมื่อก่อน
อนาคต อีก 45 ปีข้างหน้า
นี่คือโนบิตะที่แก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏตัวในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วครับ วันนี้ลูกชายของเขา โนบิซุเกะวัย 30 ปี ได้นั่งกระสวยอวกาศไปฮันนี่มูนที่ดวงจันทร์แล้ว โนบิตะวัย 55 ปี คิดถึงวันคืนเก่าๆ จึงติดต่อโดราเอม่อนในปัจจุบัน ให้พาตัวเขากลับไปในโลกอดีต แล้วสลับร่างกับโนบิตะ เพื่อใช้ชีวิตอันแสนสนุกสนานในวัย 10 ขวบอีกครั้ง
แม้จะมีอุปกรณ์วิเศษเกี่ยวกับเวลาหลายอย่าง แต่โนบิตะไม่ค่อยกล้าดูอนาคตของตัวเอง สุดท้ายแล้วอนาคตของโนบิตะก็ถูกสรุปออกมาง่ายๆผ่านคำบอกเล่าของโนบิตะวัย 55 ปีคนนี้ครับ
“นับจากนี้ไปนายจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกหลายหน แต่ทุกครั้งก็จะสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้พร้อมความเข้มแข็ง”

ทั้งนี้หากโดเรม่อนไม่เข้ามาจัดการชีวิตของโนบิตะ เส้นทางชีวิตของเขาก็จะออกมาเน่าประมาณนี้…
ไทม์ไลน์ทางเลือกกรณีโดราเอม่อนไม่มาช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตเป็นแบบนี้ครับ:
อีก 8 ปีข้างหน้า – สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่บ้านต้องพาไปเลี้ยงปลอบใจ
อีก 17 ปีข้างหน้า – หางานไม่ได้เลยตั้งบริษัทขึ้นเองกับพ่อ
อีก 19 ปีข้างหน้า – แต่งงานกับไจโกะ
อีก 22 ปีข้างหน้า – ไฟไหม้บริษัท
อีก 24 ปีข้างหน้า – บริษัทล้มละลาย
แต่สุดท้ายเมื่อเรื่องดำเนินมาอย่างนาวนาน โนบิตะก็ได้ค้นพบว่าความทรงจำในวัยเด็กนั้นคือสิ่งที่ล้ำค่าอย่างหาใดเปรียบไม่ได้แล้ว อีกทั้งเมื่อย้อนเวลากลับมาพบแม่ของตนตอนยังเด็ก เขาก็สำนึกแล้วว่าคำสอนของเธอมี “คุณค่าเพียงใด”
สุดท้ายนี้หากใครติดตามตลอดจนจบซีรี่ย์ ก็จะพบว่าโดราเอม่อนไม่ใช่เพียงแค่การ์ตูนธรรมดาฮาๆ หากแต่มันคือชีวิตของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแววแล้วแทบจะเอาดีไม่ได้ แต่สุดท้ายเขาก็ฝ่าฟันชีวิต วิกฤติ จนกลายเป็นคนที่มีจุดยืนในสังคมได้ในท้ายที่สุด ซึ่งหมีขาวก็หวังว่าสิ่งที่โนบิตะได้ทำให้โลกเห็นจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อ่านไปตลอดกาล
ที่มา: Bloggang
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ถามหาพี่เวย์ พี่เวย์ก็มา ในไลฟ์ของชีนานาเมื่อคืน นอกจากมาช่วยขายบัตรคอนแปปนึงแล้ว ก็มาถือเค้กแฮปปี้เบิร์ดเดย์ชีนานาด้วย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
Amazing! สาวหูขาดได้รับการปลูกถ่ายหูใหม่บนหลังเท้า
Amazing! สาวหูขาดได้รับการปลูกถ่ายหูใหม่บนหลังเท้า
ถามหาพี่เวย์ พี่เวย์ก็มา ในไลฟ์ของชีนานาเมื่อคืน นอกจากมาช่วยขายบัตรคอนแปปนึงแล้ว ก็มาถือเค้กแฮปปี้เบิร์ดเดย์ชีนานาด้วย
"เจนสุดา" ฟาดแรง! "นานา" อย่าเอาเด็กมาเรียกความสงสาร..น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ตำรวจเรียกสอบเพื่อนสนิทที่อยู่ในเหตุการณ์คืนที่ "นัทปง" เสียชีวิต
สยอง! งูยักษ์ 5 เมตรหนัก 60 กิโลฯ พังเพดานห้องน้ำ จู่โจมบ้านชาวมาเลเซีย




















