เจาะประเด็น ห้างนิวเวิลด์ ย้อนประวัติ วังมัจฉา ห้างร้างกลางกรุง
หากเอ่ยถึงตึกร้างห้างนิวเวิลด์ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เคยออกมาตรการสั่งปิดพื้นที่ และห้ามประชาชนเข้าใกล้ เนื่องจากหวั่นตึกถล่มลงมาซ้ำรอยเมื่อ ปี 47
กระทั่ง ปี 54 มีชาวบ้านไปเห็นว่าพื้นที่ชั้น 1 ของอาคารมีน้ำฝนไหลมาขังกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ชาวบ้านละแวกนั้น จึงนำปลาน้อยใหญ่หลายชนิดมาปล่อยเพื่อกำจัดลูกน้ำยุง ทั้ง ปลาหางนกยูง ปลานิลดำ ปลานิลแดง ปลาทับทิม ปลาคราฟ และปลาดุกอุย ทำให้มีปลาหลากหลายชนิดในห้างนิวเวิลด์
นานวันเข้า ปรากฎปลาที่นำไปปล่อยแพร่ขยายพันธุ์รวดเร็ว ชาวบ้านละแวกนี้ รวมถึงนักท่องเที่ยว ต่างแห่ไปชมฝูงปลาในบ่อ เพื่อให้อาหาร บ้างก็ถ่ายรูป จนเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับ"อันซีน"กลางกรุงมาแล้ว
ล่าสุดผู้อำนวยการเขตพระนคร มีคำสั่งเคลียร์พื้นที่อีกครั้งเพราะโครงสร้างอาคารผิดแบบ อาจจะมีเศษเหล็ก-เศษปูน ร่วงใส่ศีรษะผู้คน ก่อให้เกิดอันตราย จึงเร่งสูบน้ำที่ขังออก และจับฝูงปลา ที่คาดว่ามีมากกว่า 3,000 ตัว ออกไปให้หมด และสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอยู่ระหว่างการพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาด
เจ้าหน้าที่บอก วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่เร่งจับปลาออกไปจากบ่อ เหตุล่าช้า เพราะน้ำในบ่อมีสีขุ่นดำคล้ำ บวกบางส่วนยังเป็นหลุมลึก ปลาจะไปหลบตรงซอกหลุม ยากค้นหา หากใช้แหจับปลาก็ไม่ได้ผลเต็มร้อย วันนี้จึงนำสวิงจับปลาช่วยอีกทาง
ปลาที่จับได้มีขนาดใหญ่มาก ปลาดุกบางตัวหนักกว่า 3 กิโลกรัม ปลานิลและปลาคราฟ หนักอยู่ที่ตัวละ 1-2 กิโลกรัม รวมแล้ววันนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับปลาขึ้นมาได้เพิ่มเติมกว่า 1 ตัน หรือประมาณ 500 ตัว ซึ่งวันนี้จะเร่งจับให้เสร็จสิ้น แล้วโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อโรคและฉีดควันไล่ยุง
ด้านชาวบ้าน นอกจากจะมายืนจับตาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้ว ยังพยายามให้อาหารปลาเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมโอดครวญรู้สึกสงสารปลาในบ่อ เพราะเข้ามาให้อาหารทุกวันจนผูกพัน ที่ผ่านมาช่วยกันสร้างกรงเหล็กทางเข้าห้างเพื่อให้อาหารปลา เปิด 8 โมงเช้า และปิด 6โมงเย็น อาหารปลาก็เรี่ยไรกันมาให้ จึงรู้สึกใจหาย
แต่ชาวบ้านบางส่วนกลับเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ เพราะอยากให้ฝูงปลาได้ไปอยู่ในที่เหมาะสม