ผมไปงานศพของคนแปลกหน้าที่ต่อมารู้ว่าเขาเคยเลี้ยงผมตอนเป็นทารก
วันนี้เป็นวันเผาศพของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่ผ่านมาผมเพียงคุ้นหน้า รู้ว่าเป็นผู้ใหญ่แถวบ้านที่ไม่ได้สนิทอะไร เกือบจะเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วยซ้ำ
จนกระทั่งไม่นานมานี้ จึงรู้ว่าท่านคือคนที่ช่วยเลี้ยงผมตอนที่ยังเป็นทารก ตอนนั้นแม่ของผมยังเป็นมือใหม่ ท่านจึงมาช่วยอาบน้ำ ป้อนข้าว เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ผม จนกระทั่งแม่ตั้งหลักได้
ผมจำเหตุการณ์เหล่านั้นตอนเด็กไม่ได้หรอก แม่เพิ่งเล่าให้ฟังทีหลัง วันหนึ่งท่านจากไปเงียบๆ รู้ข่าวอีกทีก็ถึงวันฌาปนกิจ
ผมได้ตระหนักถึงความหมายของชีวิตบางประการ ชีวิตที่เติบโตและอยู่รอดมาเป็นเราทุกวันนี้ได้ ล้วนแล้วแต่อิงอาศัยความกรุณาจากคนอื่นทั้งสิ้น ส่งต่อความรักและความปรารถนาดีมาเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง วันต่อวัน มื้อต่อมื้อ หากความกรุณานี้ขาดลงแม้เพียงสักสามสี่วัน ชีวิตก็หาตั้งอยู่ได้ไม่
ความกรุณาเหล่านั้นไม่ได้มาจากพ่อแม่ บุพการีของเราเท่านั้น แต่รวมถึงญาติคนอื่นๆ พี่น้อง ครูอาจารย์ เพื่อน ลูกน้อง คนให้บริการรับใช้ หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่เราไม่รู้จัก คนที่เราเบื่อหน่ายหรือแม้แต่เกลียดชัง แต่เมื่อพิจารณาดีๆ เขาเหล่านี้คือผู้มีพระคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ผู้มีพระคุณเหล่านั้น ส่วนใหญ่เราไม่รู้จักเขาหรอก หลายคนได้จากไปอย่างเงียบๆ ทุกคนต่างก็ทิ้งมรดกอันมีค่า ฝากให้เราส่งต่อไปจนสิ้นสุดกาล......" มรดกจากคนแปลกหน้า "