นร. ม.ปลายญี่ปุ่นนิยมอาชีพ "มิโกะซัง" สาวผู้ทำงานเป็นสื่อกลางให้พระเจ้า
ยังมีอาชีพอาชีพหนึ่งที่ผมรู้จักสมัยไปญี่ปุ่น
ทุกครั้งที่ผมแวะไปที่ศาลเจ้าผมจะเจอสาวกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
อยู่ตรงสถานที่ขายเครื่องราง ใส่กิโมโนสีขาว กระโปรงสีแดง
ไม่ใส่ตุ้มหู ทุกคนผมดำ และผูกผมไปข้างหลังเท่านั้น
นี่คืออาชีพ "มิโกะซัง" หรือ
สาวผู้ทำงานให้พระเจ้า ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ให้ศาสนาชินโต
เพราะมิโกะซังเป็นถึงสื่อกลางของพระเจ้า
บุคลิกลักษณะภายนอกจึงเป็นเรื่องสำคัญสุดๆ
แต่คุณจะรู้มั้ยว่าอาชีพนี้ไม่ได้ทำกันง่ายๆ อย่างที่คิด
ในช่วงปีใหม่จะเป็นช่วงที่เปิดรับสาวๆ ทั่วไปเข้ามาทำงานพิเศษ
เพราะเป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นนิยมไปวัดและศาลเจ้า และสาวมิโกะซังก็ไม่เพียงพอ
ด้วยความที่เป็นงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมีนักเรียน ม.ปลายสาวจำนวนมากที่คาดหวังจะได้ประสบการณ์ทำงานพิเศษอันนี้ครั้งนึงในชีวิต บางคนถึงกับหลงใหลในอาชีพนี้จนอยากทำเป็นอาชีพหลักด้วยซ้ำ
แต่คุณลองจินตนาการดูนะครับว่า..
ฤดูหนาวของญี่ปุ่นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม จะหนาวแค่ไหน และงานนี้คืองานยืนขายเครื่องราง ต้องยืนยิ้มแย้มกับลูกค้าตลอดคืน
ภาพถ่ายจากศาลเจ้าเมจิ จินกุย่านฮาราจูกุ
ผมได้อ่านเรื่องจากคนที่มีประสบการณ์สมัครงานในช่วงนั้น
เธอเล่าว่า.. ช่วงปีใหม่เป็นช่วงที่ต้องแข่งขันกับคนอื่นๆอีกเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้งาน
หลังจากสมัครงานไปด้วยเรียงความบอกสาเหตุที่อยากเข้าทำงานแล้ว ก็ต้องเข้ารับการอบรมพื้นฐานการเป็นมิโกะซัง
ซึ่งมิโกะซังตัวจริงจะเข้ามาอธิบายว่า ต้องเตรียมตัวอะไร มีข้อควรระวังอะไรบ้าง เช่น ห้ามย้อมสีผม (วันจริงต้องผมดำเท่านั้น) ห้ามใส่ตุ้มหู ห้ามทาเล็บ ถ้ามีผมยาวให้มัดผมไว้ข้างหลังเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด
ส่วนเรื่องการแต่งตัว โดยทั่วไปแล้วต้องแต่งตัวเอง ดังนั้นก็ต้องจดจำวิธีการแต่งตัวในวันที่ได้รับการอบรมไว้ให้ดี ถ้าวันจริงมีปัญหาก็ให้สอบถามผู้มีประสบการณ์
งานพิเศษในช่วงปีใหม่นี้
เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธันวาคม จนถึงช่วงวันที่ 5 มกราคม คืนข้ามปี ถือเป็นกะกลางคืนจะได้รับพิเศษ ประมาณ 10,000 Yen
ส่วนกะกลางวัน (7:00-17:00) จะได้ประมาณ 8,000 Yen
คำพูดกับลูกค้าก็ต้องจดจำพิเศษ เพราะใช้คำศัพท์เฉพาะ รวมถึงต้องจำราคาเครื่องรางทุกอย่างให้ได้
กะดึกในคืนข้ามปีจะเป็นคืนที่ทั้งเหนื่อย ทั้งหนาว ต้องทนทานต่อความเข้มงวดของมิโกะซังตัวจริง
นี่แหละครับประสบการณ์ของคนทำงานพิเศษเป็นมิโกะซัง
มิโกะซังต้องเป็นสาวที่ยังไม่แต่งงาน (แต่มีแฟนมีคนรักได้ครับ) อายุส่วนใหญ่ 18 - 30 ปี
ถ้าอายุเกินนั้นจะไม่สามารถเป็นมิโกะได้แล้วครับ แต่สามารถเป็นพระชินโต(神職)ได้แทน
ซึ่งทั้งชายและหญิงจะมีเลเวลลำดับขั้น และจะต้องผ่านการอบรม ได้ใบประกาศก่อนตามเลเวลนั้นๆ
สังเกตุง่ายสุดคือสีของฮะกะมะครับ
ประเภทฮะกะมะของมิโกะและพระชินโตทั้งหญิงและชาย
จะเรียกโดยรวมว่า ซาชิโกะฮะกะมะ(差袴)ครับ ซึ่งจะเรียกแบ่งย่อยออกไปอีก
ฮะกะมะสีแดงที่มิโกะสวมนั้น เรียกว่า ฮิบะกะมะ (緋袴)
ฮะกะมะทุกประเภทจะมีสองแบบคือสวมใส่แบบกระโปรง (อันดงฮะกะมะ 行灯袴)
กับแบบมีเส้นผ่ากลางแบบกางเกง (อุมะโนริ 馬乗り แบบนี้จะเข้าห้องน้ำลำบาก)
หลายอาจสงสัยว่าทำไมต้องสงวนตำแหน่งมิโกะนี้ไว้ที่หญิงสาวเท่านั้น
เนื่องจากในศาสนาชินโตนั้น เป็นพัฒนาจากศาสนาโบราณที่นับถือผู้หญิง
คามิ (เทพเจ้า) ที่สำคัญที่สุด (อะมะเทะระสึ 天照大御神 สุริยะเทวิ) เป็นเพศหญิงครับ
ทำให้เป็นแนวคิดที่ว่าผู้หญิงมีความสำคัญมาก เพราะผู้หญิงเท่านั้นที่ให้กำเนิดชีวิต
ชินโตเชื่อว่าทุกอย่างมีพลังงาน (ทั้งบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์)
ผู้หญิงเป็นเพศที่มีพลังของการชำระล้าง การเปลี่ยนผ่านพลังงานจากมลทินไปสู่ความสะอาด
ในสัญลักษณ์ของการมีประจำเดือน
งานร่ายรำ งานพิธีการต่างๆจะต้องมีมิโกะอยู่เสมอ
เป็นผู้ประสานงานให้ผู้คนให้ได้ใกล้ชิดกับคามิมากขึ้น
แต่ชินโตไม่เชื่อเรื่องการเข้าทรงนะครับ
เชื่อว่าร่างกายมนุษย์นั้นไม่บริสุทธิ์พอที่คามิจะมาอยู่
ซึ่งเราสามารถเข้าถึงคามิได้ด้วยวิธีการอื่นครับ
อาจจะเห็นผู้หญิงทรง (ยุตะ ユタ หรือ โนะโระ ノロ) ที่โอกินาว่าอยู่บ้าง
แบบนี้เป็นความเชื่อของท้องถิ่นเดิม ไม่ใช่ชินโตกระแสหลักครับ
มิโกะพาร์ทไทม์นั้นจะรับแค่หน้าที่ขายของ ช่วยทำความสะอาดศาลเจ้า ประชาสัมพันธ์ต่างๆครับ
ถ้างานร่ายรำ งานบนแท่นพิธี งานพิธีการต่างๆ นั้นจะต้องฝึกและอบรมหนักเพิ่มขึ้น
ไม่สามารถสมัครแล้วเป็นเลยภายในระยะเวลาอันสั้นครับ
ถึงงานจะดูเหนื่อยหนัก
แต่สาวญี่ปุ่นยังแข่งขันเพื่อจะได้ทำงานพิเศษในช่วงปีใหม่
ไม่ใช่อะไร..แต่เพราะประสบการณ์นี้หาไม่ได้ง่ายๆ
และอยากลองซักครั้งหนึ่งในชีวิต เรื่องแค่นี้เธอยอมแลก!
เครดิต JapanSalaryman และ Naxx