เหตุใด แปดเทพอสูรมังกรฟ้าถึงเป็นยอดนิยายอันดับหนึ่งของกิมย้ง ?

บ่ายวันหนึ่งที่ร้านกาแฟอากวง

"แปดเทพอสูรมังกรฟ้าเป็นนิยายที่โดดเด่นที่สุดในผลงานของกิมย้งหากเปรียบเทียบในฐานะนิยาย

กำลังภายในสมควรถูกจัดอยู่ในอันดับหนึ่ง ในส่วนผลงานกิมย้ง ข้าพเจ้าจัดให้อยู่อันดับสอง"

มาโนชอ่านคำวิจารณ์ของเหงยคังก่อนพูดต่อ

"อาเจ่กคิดว่าอย่างไร ??"

"อุ้ยเสี่ยวป้อ เป็นนิยายที่เหงยคัง(มือทองที่เขียนบทภาพยนต์บู๊ลิ้ม ผู้เขียน) ชอบเป็นอันดับหนึ่ง"

อาเม้งเสริม

"ต้องได้งี้สิอาเม้ง สมัยก่อนพวกเรา เฮียกวง เฮียเม้ง ต่างเป็นคอเช่าอ่านนนิยายกำลังภายใน .."

หยุดก่อนพูดต่อ

"อุ้ยเสี่ยวป้อจะว่าไปไม่เชิงเป็นนิยายกำลังภายในแต่พล็อตเรื่องถือเป็นการปลดปล่อยแนวเขียน

ของกิมย้งจากนิยายกำลังภายใน เจ่กเองก็เห็นด้วยกับเหงยคัง หากพูดถึงนิยายกำลังภายใน

แปดเทพอสูรมังกรฟ้าถือเป็นนิยายกำลังภายในที่เยี่ยมเป็นอันดับหนึ่ง ของกิมย้งแล้ว หล่ะ"

"เฮียเล้งก็เช่านิยายอ่านพร้อมๆอั้ว มีเหตผลใดว่ามา เอาดาบมังกรหยกไปไว้ที่ไหนเสียหล่ะอั้วะไม่ยอม"

อากวงแซว

"อ้อมีเหตุผลแน่นอน เฮียกวง" ข้าพเจ้าสำทับยิ้มๆ

ดาบมังกรหยกถือเป็นงานเขียนแนวที่ยากมาก กิมย้งได้แรงบันดาลใจจากสามก๊ก และ ผู้ยิ่งใหญ่

แห่งเขาเหลียงซาน 水浒传 จุ้ยโข่วตึ้ง กิมย้งติดในวังวนของตัวละครที่มีมากเกิน "แจกแจงตัวละคร"

ก่อนเรียงร้อยรวบทีหลังโครงสร้างแบบนี้ทำให้ดาบมังกรหยกมีคนบ่นว่าตัวละครเยอะไป ดีที่กิมย้ง

มีฝีมือในการขมวดปมร้อยเรื่องราวได้ยอดเยี่ยมจึงเป็นนิยายที่คนอีกหลายคนชื่นชอบ

แต่มังกรหยกก็เหมือนนิยายสองเรื่องร้อยเข้าหากันคือเรื่องราวของเตีบชุ่ยซัวผู้พ่อ

กับเรื่องราวของเตียบ่อกี้ รุ่นลูก

ต้วนอื้อ เฮงงื่อเอียงและ แม่นาง เจ็งเล้งฉบับ ทีวีบี อมตะสุดสุดใน ยุค 80

---

ปูมคติความเชื่อจากพุทธศาสนา

เรื่องแปดเทพอสูร กิมย้งจึงเหมือนขอแก้มือ เขาได้ศึกษาเรื่องราวทางพุทธศาสนาและได้หยิบธรรมะ

และคติความเชื่อมาเป็นโครงเรื่องอย่างน่าสนใจ แปดเทพอสูรกำหนดตัวละครหลักน้อยลงโดยเป็นเรื่อง

ราวชีวิตของผู้คนที่เวียนว่ายตามกระแสกรรมที่แต่ละคนเลือก เปรียบได้ดั่งเหล่าเทพสมมุติทั้งแปดตาม

คติความเชื่อของพุทธมหายาน ได้แก่ เทพ (ฟ้า) มังกร ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินร มโหราค

(กึ่งคนกึ่งงู) ซึ่งพอเทียบเคียงกับ "หลายชีวิต" ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ที่มีตัวละครหลักสิบเอ็ดคน

มีเจ้า(ท่านชายเล็ก) พระ (หลวงพ่อเสม) พระเอกลิเก (นายผล) เจ้าลอยโจรร้าย หมอ แม้แต่หญิง

โสเภณี ที่ร่วมชะตากรรมเรือโดยสารจมเสียชีวิต ก็พอจะเปรียบให้เห็นโครงสร้างหลักของนิยายได้

วีรกรรมของเตียบ่อกี้ ที่ยอดเขากวงเม้ง ฉากยิ่งใหญ่ในดาบมังกรหยก

---

 

ว่าด้วยฉากความยิ่งใหญ่ในมังกรหยก

ฉากการสงครามระหว่างมองโกลและกิมก๊ก ในมังกรหยกภาคแรก หรือ ฉากการปกป้องเมืองและปะทะ

กับทัพมองโกล ในมังกรหยกตอน จอมยุทธอินทรี ฉากเซียวฮงบุกฝ่ากองทัพเหลียวเข้าจับตัวพระปิตุลา

ถือเป็นฉากสงครามที่ยิ่งใหญ่ ไม่ยิ่งหย่อนกัน แต่หากเป็นฉากการศึกบนยอดเขากวงเม้ง 光明頂 ในดาบ

มังกรหยก จังอางู้ เด็กหนุ่มหน้าตามอมแมมแต่สามารถเอาชนะใจเหล่ายอดฝีมือหกสำนักใหญ่ไกลเกลี่ย

ความบาดหมางต่อพรรคเม้งก่าได้ ถือเป็นฉากบู๊ ที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่สุดๆแล้วแม้แต่ฉาก ทรนงยืนระหว่าง

ฟากมารและธรรมะในกระบี่เย้ยยุทธจักร ก็ถือว่ายังวนเวียนไม่อาจหลุดจากกรอบของดาบมังกรหยกได้

ฉากหลวงจีนฮือเต็กหาญปะทะ คิวม่อตี้ ราชครูแห่งโท่วฮวง

---

 

ฉากที่ทำให้แปดเทพอสูรกลายเป็นนิยายกำลังภายในอันดับหนึ่งของกิมย้ง

ในแปดเทพอสูรมังกรฟ้าฉากการต่อสู้ที่วัดเส้าหลินกิมย้งรจนาไว้ได้อย่างยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมมากที่สุด

เริ่มจากหลวงจีนฮื้อเต็กหลวงจีนน้อยๆรุ่นสามหาญสู้สยบราชครู(ก๊กซือ)คิวม่อตี่ แห่งโท่วฮวงต่อหน้า

บรรดาพระผู้ใหญ่วัดเสี้ยวลิ้มถือว่ายิ่งใหญ่แล้วต่อมาเซียวฮงที่นำทหารม้าผู้กล้าแคว้นเหลียวสิบแปดคน

ลุยฝ่าวงล้อมเหล่าชาวยุทธทุกสำนัก ที่ลานวัดเสี้ยวลิ้มดูจะยิ่งใหญ่กว่า

สามพี่น้องกราบฟ้าดินร่วมสาบานท่ามกลางสมรภูมิยุทธระอุ แต่น้ำใจอุ่นระอุกว่า

---

ตามาด้วยฉากสามพี่น้องตัวเอกของเรื่องได้พบกันครบเป็นครั้งแรก เซียวฮง ฮื้อเต็ก ต้วนอื้อ

กราบฟ้าดินสาบานเป็นพี่น้องร่วมเป็นตาย ท่ามกลางเหล่าจอมยุทธ ดูฮึกเหิมโอ่อ่าจนคนอ่านระอุในใจ

"ข้าจะตายอยู่แล้วเจ้ายังกล้ามาเรียกพี่น้อง นับว่าเป็นลูกผู้ชายใจเด็ด วันนี้ได้เป็นพี่น้องกับเจ้าถือว่า

โชคดีนัก ข้าเซียวฮงได้รู้จักผู้กล้าเช่นเจ้าถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ !! "

ร่ำสุราขาวที่หมักในถุงหนัง สาบานเป็นพี่น้องขอตายวันเดียวเดือนเดียวกัน

---

 

ยิ่งการต่อสู้ระหว่างสามพี่น้อง กับสามยอดฝีมือ อิ่วถันจื้อ ม้อย้งฮก และ เต็งชุงชิว ถือได้ว่ายิ่งใหญ่

ต่อเนื่องจนคนอ่านนึกไม่ถึงแล้ว การปรากฎตัวของปมปริศนา เซียวเอี้ยงซัว พ่อของเซียวฮงและ

ม้อย้งผัก สองยอดฝีมือที่แอบฝึก 72 ยอดวิชาวัดเส้าหลินมานานเป็นสิบปี ถือว่าล้ำกว่าเซียวฮงเสียอีก

เรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือ ปะทะกันทีเดียว พอผู้อ่านๆถึงตรงนี้คงคิดว่านี่คือที่สุดของที่สุด

อย่างต่อเนื่องแล้ว แต่กิมย้งยังมีฉากสุดท้ายที่สุดเพริศเกินบรรยายตามมาอีก

เปล่งประกายสุดยอดอย่างไร้ขอบเขต

กิมย้งนำศรัทธาในพุทธศาสนาผ่านตัวละคร หลวงจีนชรา ในวัดเส้าหลินที่จู่ๆโผล่มากวาดลานวัด

แม้แต่นามก็ไม่ปรากฎ มอซอดูต้อยต่ำเหมือนพระแก่ๆที่ดูแลหอคัมภีร์แต่กลับกลายเป็นผู้มีวิชา

"ลึกซึ้งสุดหยั่ง"ท่านสยบเซียวฮง เซียวเอี้ยงซัว ม้อย้งผัก ม้อย้งฮก อย่างง่ายดาย แต่อาวุธสำคัญที่สุด

จริงๆที่ท่านใช้คือ "พลัง ปัญญาและเมตตา" ที่ทำให้ความแค้นในใจของเซียวเอี้ยงซัวและ แอกกู้ชาติบน

บ่าของม้อย้งฮก สลายลงได้

สลายความแค้นด้วยธรรม..

ธรรมะ ไร้ขอบเขต....

---

 

ฉากการนั่งลงเทศนาธรรมของหลวงจีนชราซอมซอๆ กลับมีรังสีแห่งธรรมแผ่กระจายคลุมครอบ

วัดเสี้ยวลิ้มที่วุ่นมาอย่างต่อเนื่องพลันสงบเย็นและทำให้คู่แค้นกลับมีดวงตาเห็นธรรม อีกเหล่าพระสูง

ศักด์ของเส้าหลินต่างไร้ทิฐิลงนั่งฟังธรรมกับพื้นถือเป็นการใช้พลังธรรม พลังที่ยิ่งใหญ่

ที่สุด เหนือพลังยุทธทั้งปวง เรียกได้ว่า ฉากลานวัดเส้าหลิน กิมย้งผูกเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เรียงร้อยขมวด

ปิดม่านฉากที่ยิ่งใหญ่นี้ ได้เหนือกว่านิยายเรื่องใดใดที่เขาเคยประพันธ์เลยทีเดียว ด้วยเหตผลนี้

เองอาเจ่กจึงเห็นด้วยกับการพูดของเหงยคังที่ว่าแปดเทพอสูรมังกรฟ้าถือเป็นยอดนิยาย

กำลังภายในลำดับหนึ่งของกิมย้ง เพราะอุ้ยเสี่ยวป้อไม่ถือเป็นนิยายกำลังภายในนั้นเอง"

ข้าพเจ้าขมวดปมเฉลย ก่อนยกโอวเลี้ยงขึ้นดื่มช้าๆ

ยอดโฉมงาม"เฮ้งงื่อเอียง" ในฉบับ2013 แสดงโดย จางเมิ่ง