ที่ไหนๆ ก็น่าอยู่เมืองไทย ตอนของดีเมืองไทย
1. เรามีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ที่แสนอบอุ่น และสร้างกำลังใจให้กันและกัน
เป็นประเพณีอย่างหนึ่งของคนไทย และคนลาว ด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนเกิดมาพร้อมกับสิ่งนามธรรมอย่างหนึ่งที่เรียกกันว่า “ขวัญ” ซึ่งมีหน้าที่รักษาประคับประคองชีวิตและติดตามเจ้าของไปทุกหนแห่ง การทำพิธีสู่ขวัญจึงเป็นการเชิญขวัญที่หนีหายไปให้เข้ามาอยู่กับตัว และเชื่อว่าเป็นการส่งเสริมพลังใจให้เข้มแข็ง มีสติและไม่ประมาท
2. เรามีช้างไทยที่ อยู่กันคนได้อย่างลงตัว ซึ่งเลี้ยงไว้ใช้งานประเภทต่าง ๆ มาแต่โบราณ เช่น ใช้เป็นพาหนะ ลากซุง หรือแม้แต่ในการสงคราม โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะนับถือช้างเป็นสัตว์ชั้นสูง โดยจะปรากฏเป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ธงรูปช้าง, ตำราคชลักษณ์ เป็นต้น
ช้างถูกใช้ในประเพณีต่าง ๆ รวมทั้งเป็นราชพาหนะและสิ่งประดับบารมีของพระมหากษัตริย์ โดยเชื่อว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดที่มีช้างเผือกไว้ในครอบครอง ถือว่าเป็นกษัตริย์ที่มีบุญบารมี เฉกเช่น สมเด็จพระจักรพรรดิราชในคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท
อีกทั้งวันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น วันช้างไทย อีกด้วย จะช่วยให้ประชาชนคนไทย หันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น
3. เรามี น้ำตาลโตนดเมืองเพชร ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาไทยแล้ว ให้ผลผลิตน้ำตาลโตนดที่ดีที่สุดมาตั้งแต่สมัยโบราณตราบจนถึงปัจจุบัน จึงมีชื่อเสียงติดปากคนทั่วไปว่า “น้ำตาลเพชรบุรี” เพราะมีรสหวานหอมอร่อย มีรสชาติกลมกล่อมชวนรับประทาน จนเป็นที่มาของคำว่า “หวานเหมือนน้ำตาลเมืองเพชร”
4. เรามี ละลุ ที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
อันซีนไทยแลนด์ เกิดจากการยุบตัวและพังทลายของดิน เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติรูปร่างแปลกตาชวนพิศวง
5. เรามี ซากุระเมืองไทย ที่ขุนช่างเคี่ยน จ.ชียงใหม่
ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย สีชมพู สดจะบานสะพรั่งอวดความงามไปทั่วบริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึก อบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หมู่บ้านชาวม้ง บ้าน ขุนช่างเคี่ยนเต็มไปด้วยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน
6. เรามี ธรรมจักรศิลาทวารวดีที่สมบูร์ที่สุดในเมืองไทย “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง” ที่ตั้งอยู่ในตัวอำเภออู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
ธรรมจักรศิลาชุดนี้ เป็นศิลปะทวารวดีมีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 (1,300-1,400 ปีมาแล้ว) เป็นธรรมจักรศิลาทรงกลม ฉลุซี่ล้อโปร่ง ที่ฐานสลักลวดลายกลีบบัวบาน ขอบธรรมจักรสลักลายสี่เหลี่ยมเปียกปูนสลับวงกลมเรียงเป็นแถว มีเสาตั้งเป็นแท่งหินรูป 8 เหลี่ยม หัวเสาสลักลวดลายพวงอุบะ มีแท่นรองธรรมจักรเป็นรูป 4 เหลี่ยม นับเป็นธรรมจักรศิลาที่สวยงามสมส่วนยิ่งนัก ซึ่งธรรมจักรศิลาชุดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นธรรมจักรศิลาสมัยทวารวดีที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทย
7. เรามีหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ที่มีคนไปรวมตัวกันมามาย จนเป็นที่กล่าวขารตลอดมาช่วง 80 ปี
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางวงเวียนระหว่างถนนราชดำเนินกลางกับถนนดินสอ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นผลงานการออกแบบของหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล อันเป็นแบบที่ชนะการประกวดการออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้
ในทางด้านคมนาคม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยใช้นับเป็นหลักกิโลเมตรที่ 0 ของทางหลวงสายประธานในประเทศไทย ยกเว้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 เริ่มนับกิโลเมตรที่ 0 ที่ อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี นอกจากนั้น อนุสาวรีย์แห่งนี้ยังใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการวัดระยะทางไปยังจังหวัด อำเภอ หรือสถานที่ต่าง ๆ จากกรุงเทพมหานครอีกด้วย
8. เรามี นมตำเลีย
เป็นหนึ่งในพืชสกุลโฮย่า เป็นไม้เถาว์เลื้อยขนาดเล็ก สามารถพบได้ในป่าทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมไปถึงบางเกาะกลางทะเลในเขตประเทศไทย และมีความหลากหลายของขนาดและรูปร่างใบ สีสันของดอก รูปทรงของมงกุฏ ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาว
9. เรามี ภูทอก เป็นที่ตั้งของ วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก)” อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ที่ต้องเดินขึ้นรอบภู แบบ360 องศา
จะมีทั้งหมด 7 ชั้น ทุกชั้นจะโดดเด่นด้วยบันไดที่ทำจาไม้จะเป็นบันไดเวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 องศา กว่าจะขึ้นถึงชั้น 7 ได้ก็เหนื่อยเอาการเพราะต้องไต่ขึ้นสะพานไม้ให้ไปถึงยอด ที่มีหน้าผาสูงชัน ซึ่งวัดโดยรอบประมาณ 800 เมตร แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นสิ่งที่ทุกคนที่เดินทางไปในครั้งนี้รู้สึกคุ้มค่ามาก ระหว่างทางเดินขึ้นก็มีแต่คำถามในใจตลอดว่า “ทำได้อย่างไร” ด้วยเจตนารมณ์ของพระอาจาย์จวนท่านต้องการให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนใช้เป็นแหล่งปฏิบัติธรรม ปฏิบัติศาสนกิจของชุมชน กับธรรมชาติที่เงียบสงบ ร่มรื่น ภูทอก นั้นเริ่มก่อสร้างบันไดไม้สำหรับไต่ขึ้น ไปในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม บันไดทั้ง 7 ชั้น
10. เรามีทะเลแหวก อันซีนไทยเลินด์ จ. กระบี่
ทะเลแหวกเกิดจากอะไร? อันที่จริงแล้วก็เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจาก อิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลงนั่นเอง เมื่อน้ำลดลงคราใด ทำให้สันทรายของเกาะทั้ง 3 คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ปรากฏขึ้นกลายเป็นหาดทรายขาว เชื่อมยาวต่อกันก่อเกิดเป็นทัศนียภาพอันสวยงามโดดเด่นกลางทะเลอันดามันโดยจะเกิดเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ทำให้สามารถเดินเล่น ไป - มา ได้ระหว่างเกาะ ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวคือช่วงเดือน ธันวาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ด้วยหาดทรายที่ขาวสะอาด ทอดยาว ความสวยงามทะเลแหวก แห่งจ.กระบี่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
บอกแล้วนิ ชีวิตและจิตใจคุณหลงรักใจละลาย เพราะอาจจะติดใจจนไม่อยากไปไหนกันเลยทีเดียว
อยากจะอยู่ที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยก็ได้นะ ยังมีอีกมากมาย รอชม ตอนที่ 3 นะครับ