หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บทละครประวัติศาสตร์ เรื่อง ท้าวสุรนารีวีรสตรแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

โพสท์โดย นายสุวิทย์

บทละครประวัติศาสตร์เรื่อง  ท้าวสุรนารี  วีรสตรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

บทพากย์ที่ 1

กราบเรียนท่านคณะกรรมการ และแขกท่านผู้มีเกรียติที่เคารพรักทุกท่าน  โรงเรียนบ้านโคกพลวง  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2  ภายใต้การบริหารงานของ              ท่านผู้อำนวยการสุเทพ  แสงสุระ  ขอถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ผ่านบทละคร  ในวันนี้จะนำเสนอในเรื่อง  ท้าวสุรนารี วีรสตรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์  ขอเชิญทุกท่านรับชมได้  ณ  บัดนี้

บทพากย์ที่ 2

นครราชสีมา แผ่นดินแห่งนี้เป็นแหล่งอารยธรรมของมนุษย์มาแต่ก่อนประวัติศาสตร์ กว่าสองพันถึงสามพันปี  สืบเนื่องจากอาณาจักรเจนระ ทวารวดี ศรีวิชัย  และอาณาจักรโยนก เชียงแสน เรืองอำนาจ  แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งราชสีมานครได้หล่อเลียงผู้คน และสืบทอดวัฒนธรรมความเจริญจากยุคสมัยหนึ่งถึงยุคสมัยหนึ่ง ดังปรากฏในปราสาทหินพิมาย ที่สืบทอดมาจากยุคขอมโบราณ (เพลงโคราช+การแสดงของตัวละคร 6 ตัว กล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองโคราช)

บทพากย์ที่ 3

ล่วงถึงต้นรัตนโกสินทร์ ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมืองนครราชสีมา ได้รับสถานะเป็นหัวเมืองเอก  ซึ่งเป็นเมืองหลักของสยาม  ทำหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบชายขอบของพระราชอาณาเขต  มีพระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย  นามเดิมทองคำ ดำรงตำแหน่งปลัดเมือง  มีภรรยาชื่อ คุณหญิงโม

บทพากย์ที่ 4

ในสมัยรัชกาลที่3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  ได้ทรงโปรดจัดพระราชพิธีถวายพระเพลิง  พระบรมศพของพระราชบิดา คือ รัชกาลที่2  ซึ่งบรรดาเจ้าเมืองประเทศราช หรือผู้แทนจะต้องเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ  เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ

ในครั้งนั้นเจ้าอนุรุทธราช หรือเจ้าอนุวงศ์ ผู้ครองนครเวียงจันทร์  ได้เดินทางมาถวายพระเพลิงพระบรมศพด้วยตนเอง  พร้อมผู้ติดตามอีกมากมาย ซึ่งขณะที่พำนักอยู่ที่กรุงเทพมหานครนั้น  พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงขอแรงให้ไพร่พลของเจ้าอนุวงศ์ ไปช่วยตัดไม้ต้นตาลที่สุพรรณบุรี ไม่จำกัดจำนวน  เพื่อถางที่สร้างเมือง และเมื่อตัดต้นไม้เสร็จแล้วก็ลากเข็นมาที่จังหวัดสมุทรปราการ  ทั้งนี้เจ้าอนุวงศ์ได้ให้น้องชายทำงานที่ได้รับมอบหมาย  ซึ่งผลออกมาปรากฏว่าเป็นที่พอใจแก่องค์รัชกาลที่ 3 มาก 

บทพากย์ที่ 5

จนทำให้เจ้าอนุวงศ์ทะนงตนว่าเป็นคนโปรดของพระเจ้าอยู่หัว กรอปกับเคยช่วยทำศึกกับพม่าที่เมืองเชียงแสน ในปีพุทธศักราช 2362 มาแล้วถึง 2 ครั้ง  นอกจากนั้นยังเคยช่วยไทยทำศึกกับทัพเมืองจำปาสัก  เมื่อสำคัญตัวว่าทำคุณให้องค์รัชกาลที่ 3 ดังนั้นตอนทูลลากลับจากงานถวายพระเพลิง  ณ  หน้าพระที่นั่ง  เจ้าอนุวงศ์ได้ทูลขอครอบครัวชาวลาวที่เป็นเชลยมาตั้งแต่สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีกลับเวียงจันทร์ไปด้วย

 

บทพากย์ที่ 6

แต่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงไม่อนุญาต  เพราะกลัวลาวจะแข็งเมืองในอนาคต  การตัดสินใจของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้น สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าอนุวงศ์เป็นอย่างมาก

บทพากย์ที่ 7

โดยเจ้าลาวหวังกลับไปเมืองเวียงจันทร์เพื่อรวบรวมไพร่พล  แล้วกลับมายึดกรุงเทพ แต่ระหว่างทางกลับต้องผ่านเมืองโคราชเสียก่อน (พูดถึงเรื่องบริบทของเมืองโคราช และความอุดมสมบูรณ์)

บทพากย์ที่ 8

ตอนนั้นที่เมืองนครราชสีมา พระยาปลัดทองคำ สามีของคุณหญิงโม และเจ้าเมืองไม่อยู่  เนื่องจากไปราชการที่เมืองขุขัน  คุณหญิงโมอยู่ที่เมืองโคราช กับนางสาวบุญเหลือ  จึงต้องรับศึกกับเจ้าอนุวงศ์และทหารลาวประมาณ 500 นาย  ด้วยความที่เมืองโคราชขณะนั้นไม่ได้มีทหารประจำการ  ดังนั้นทั้งคุณหญิงโม และชาวเมืองจึงถูกจับเป็นเชลยอย่างง่ายดาย

บทพากย์ที่ 9

ทั้งหมดถูกบังคับให้เดินเท้าไปยังนครเวียงจันทร์  เมื่อเดินทางไปถึงทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369  ตอนหัวค่ำคุณหญิงโมและสตรีผู้ติดตามแกล้งล้มป่วย จนทหารลาวยอมให้พัก ย่าโมวางแผนให้ผู้หญิงผู้ชายชาวเมืองโคราชยอมจำนนแก่ทหารลาว  โดยสตรีเพศต้องเข้าไปปรนนิบัติพัดวีข้าศึกอย่างสุดความสามารถ โดยหวังมอมเหล้าข้าศึก ขณะที่บุรุษก็ต้องทำทีขอมีดดาบจากทหารลาว โดยอ้างว่าจะนำไปตัดไม้มาทำฟืน  ทำให้ทหารลาวตายใจประมาทชาวเมืองโคราช  ส่วนหนึ่งก็ลุ่มหลงในสตรีเมามายไร้สติ  อีกส่วนหนึ่งก็มอบมีดมอบดาบให้ชาวเมือง  ซึ่งชาวเมืองก็นำมีดดาบนั้นไปเหลาไม้ไผ่เพื่อทำเป็นอาวุธและแอบซ่อนไว้

 

บทพากย์ที่ 10

กระทั่งสบโอกาสเหมาะ เมื่อเห็นทหารลาวไม่พร้อมสู้รบ คุณหญิงโมนางสาวบุญเหลือ และชาวบ้านจึงตั้งแถว โดยให้ผู้ชายเป็นทัพหน้า สตรีอยู่ด้านหลัง เด็กและคนชราเป็นกำลังสนับสนุน  คว้าอาวุธที่ตระเตรียมเข้าทำศึกกับทหารลาวอย่างไม่กลัวตาย  ทั้งที่เป็นเพียงแค่ชาวบ้านที่เคยแต่จับจอบจับเสียม (แสดงการสู้รบ ระหว่างชาวเมืองโคราชกับกองทัพลาว) 

บทพากย์ที่ 11

การต่อสู้เป็นไปอย่างชุลมุน  สุดท้ายก็สามารถเอาชนะฝ่ายทหารลาวได้  แต่คุณหญิงโมก็ต้องเสียนางสาวบุญเหลือและชาวเมืองโคราชไปบ้าง (ฉากนี้นางสาวบุญเหลือเสียชีวิต)

 

บทพากย์ที่ 12

หลังจากนั้นทหารลาวก็ทิ้งให้เชลยทั้งหมดเป็นอิสระเพื่อหนีกลับเมืองเวียงจันทร์  แต่ก็หนีได้ไม่ไกลก็ถูกทหารไทยจับตัวได้ สำหรับทหารลาวนั้นถูกสำเร็จโทษจนสิ้นทันทีที่จับตัวได้  ด้านเจ้าอนุวงศ์โดนจับไปสำเร็จโทษด้วยขังคุกจนตรอมใจตายที่กรุงเทพ (ฉากนี้ชาวเมืองโคราชดีใจที่ได้รับชัยชนะ และจับทหารลาวให้กับทหารไทย +  เหมือนฉากที่ 1  แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองโคราช)

บทพากย์ที่ 13

เมื่อวีรกรรมของคุณหญิงโมทราบไปถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาคุณหญิงโมขึ้นเป็น ท้าวสุรนารี  และพระราชทานเครื่องยศทองคำประดับเกียรติ  ท้าวสุรนารีถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปีพุทธศักราช 2395  อายุได้ 81 ปี (ฉากถวายเครื่องยศ + นักแสดงทุกคนรวมกันที่หน้าเวที)

บทพากย์สุดท้าย

ไทยยังคงเอกลักษณ์เอกราช                              ความเป็นชาติปลึกแผ่นที่แหนหวง

บรรพชนของไทยใจทุกดวง                              ท่านทั้งปวงป้องไทยให้งดงาม

แม้เสียเลือดเสียเนื้อเพื่อไทยแล้ว                      ท่านแน่แน่วพลีชีพให้ไม่เกรงขาม

ถ้าศรัตรูหน้าไหนในเขตคาม                            มาเหยียดหยามคนไทยได้เห็นกัน

แล้วก็ไทยไยเล่ามาแบ่งแยก                               ไทยมาแตกสามัคคีนี่ไฉน

ไม่รักกันหันหลังชังกันไย                                 พรรคพวกใครต่างคิดคดหมดสามัคคี

อยากเห็นท่านรักกันเรามั่นหมาย                    ยุวชนหญิงชายไม่กังขา

เป็นแบบอย่างสามัคคีเสียทีนา                          เชิญเถิดเรามากล่าวขอบคุณ

โรงเรียนบ้านโคกพลวง  ตำบลหลุ่งประดู่  อำเภอห้วยแถลง  จังหวัดนครราชสีมา  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2  ขอขอบคุณค่ะ

 

รายชื่อนักแสดงและครูผู้ฝึกสอน

ที่

ชื่อ - สกุล

รับบทเป็น

หมายเหตุ

1

ด.ช.อภิสิทธ์  โคตรสมบัติ

ทหารลาว

ป.6

2

ด.ช.นพรัตน์  เมืองแสน

น้องชายเจ้าอนุวงศ์

ป.6

3

ด.ช.พิพัฒพงษ์  ติตานัง

ทหารลาว

ป.6

4

ประกาศิต  กลิ้งสวัสดิ์

เจ้าอนุวงศ์

ป.6

5

ด.ช.อัมรินทร์  เนียดไธสงค์

เพี้ยรามพิชัย

ป.6

6

ด.ญ.อารยา  ปินะเต

คุณหญิงโม

ป.6

7

ด.ช.พีรณัฐ  แสงสุระ

พระยาปลัดทองคำ

ป.6

8

ด.ญ.เกวลิน  ได้งาน

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

9

ด.ช.จิตรกร  พรดี

ทหารลาว

ป.5

10

ด.ช.คุณากร  กลิ้งสวัสดิ์

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

11

ด.ญ.ศิริรัตน์  ขวัญทอง

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

12

ด.ญ.สุพัตรา  พุ่มมาลา

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

13

ด.ญ.สุทธิดา  พุ่มมาลา

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

14

ด.ญ.พฤกษา  รักษาไพร

แม่บุญเหลือ

ป.5

15

ด.ญ.สุภัทรชา  รุ่งเป้า

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

16

ด.ญ.มุทิตา  จันทีนอก

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

17

ด.ช.ปฏิภาน  ทองปอ

พระยาพลภักดี

ป.5

18

ด.ญ.นภัสกร  ไก่แก้ว

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

19

ด.ญ.จิรายุ  เบ้าทอง

ผู้พากย์

ป.5

20

ด.ช.ณัฐวุฒิ  ชฎามนต์

ชาวเมืองนครราชสีมา

ป.5

 

ครูผู้ฝึกสอน

1.นายสุวิทย์  สุภารีย์

ที่มา:
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
นายสุวิทย์'s profile


โพสท์โดย: นายสุวิทย์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
8 VOTES (4/5 จาก 2 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจรู้จัก "มาเฟีย" สาวไทยในปอยเปต..กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ธรรมดาสูตรคำนวณงวด 2/1/69นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33โยชิ..อัพเดทชีวิตหลังโสดมานาน 4 ปี“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้านBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกเขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคตกัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมพ่อนอกใจเป็นชู้ กับแฟนสาวของลูกชายกัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73ทำไมคนยุคนี้ถึงชอบดูคลิป “ชีวิตช้า ๆ” (Slow Living) มากขึ้น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายโยชิ..อัพเดทชีวิตหลังโสดมานาน 4 ปีวิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวทำไมคนยุคนี้ถึงชอบดูคลิป “ชีวิตช้า ๆ” (Slow Living) มากขึ้นรู้ไหมว่า QR Code ที่เราใช้ในปัจจุบันมีเจ้าของลิขสิทธิ์?
ตั้งกระทู้ใหม่