จากเด็กฝรั่งดองสุดอ้วน สู่ความไฝ่ฝันว่าสักวัน "จะต้องผอม"
สวัสดีครับผมชื่อ “Pepper” ชื่อ “Top” ชื่อฝรั่งดอง ชื่อฝรั่งน้อย, ไอ้ฝรั่ง, ไอ้คางแหลม, แขกน้อย, ไอ้อ้วน, ไอ้ยักษ์, บักเตี้ย, ไอ้คอสั้น ฯลฯ เห๊ะ! ผมเป็นคนที่มีหลายชื่อเหมือนกันแฮะ การมีหลายๆชื่อในความหมายเชิงบวกเป็นอะไรที่หลายๆคนไฝ่ฝันอยู่เช่นกันเพราะมันเท่ห์ เฟี้ยว หลายคาแร็คเตอร์ดี แต่สำหรับผมนั้นมันเยอะมากจนแทบจะรำคาญคนที่เรียก มิหนำซ้ำชื่อหลายๆอย่างที่ผมได้รับมามันล้วนแต่มีความหมายเบี่ยงไปในเชิงลบซะมากกว่าเชิญบวก ผมจะไม่พูดพร่ำทำเพลงกับผู้ที่กำลังอ่านบทความของผมอยู่ ณ ตอนนี้ เดี๋ยวจะออกเรื่องทะเลไปเสียก่อนเอ้ออ งั้นเรามาเริ่มเกริ่นประวัติคร่าวๆบวกกันกับบทความที่มีความสอดคล้องกับชื่อกระทู้ไปพร้อมกับกันเถอะ!
ปล. อาจจะยาวเหยียดอย่างประวัตินักฟิสิกส์โลกอะไรอย่างงั้น แต่ผมอยากจะแชร์ว่าผมผ่านอะไรมาบ้างทำไมถึงเป็นอย่างงั้นเป็นอย่างงี้ครับ ส่วนใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถเลื่อนดูภาพเฉยๆ ก็ได้ และผมจะเขียนสรุปไว้ตอนท้ายนะครับ
ซ้าย:พ่อ ขวา:ผม
อย่างที่กล่าวไว้ว่าผมมีหลายชื่อ แต่จริงๆแล้วชื่อเล่นของผมคือ “เปปเปอร์” หรือสั้นๆง่ายๆว่า “เปอร์”
ผมเป็นลูกครึ่ง Thai-British หรือไทย-อังกฤษนั่นเอง ปัจจุบันผมอายุ 18 ปี ย้ายมาอาศัยอยู่ที่ประเทศ Sweden เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (2009) ผมเป็นลูกคนเดียวของแม่และเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไหร่นัก พ่อกับแม่ของผมหย่ากันไปตั้งแต่ตอนผมยังแบเบาะ ปัจจุบันผมมีพ่อเลี้ยงเป็นคนสวีเดน และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ใครหลายๆ คนเลิกสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่เก่งภาษาอังกฤษเอาซะเลย
ตั้งแต่เด็กจนโตหรือตั้งแต่แรกคลอดเลยก็ว่าได้ ผมมีน้ำหนักค่อนข้างที่จะเกินมาตราฐานกว่าเด็กทั่วๆไปวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ทางฝ่ายพ่อและแม่ของผมนั่นเองเพราะญาติๆก็ค่อนข้างจ้ำมั่มกันทั้งนั้น แม่ก็อ้วนสมัยสาวๆแต่ตอนนี้ก็ผอมแล้ว พ่อของผมก็อ้วนแถมไม่สูงด้วย ผมเกิดมาในรูปร่างลักษณะที่อ้วน ตอนเด็กๆจะมีคนชอบมาหยิกเนื้อหยิกตัวหยิกแก้มมันเป็นอะไรที่เจ็บมากเลยทีเดียวฮ่าๆๆ พอผมโตมาขึ้นอนุบาลหุ่นก็ปกติขึ้นหน่อย จะมาเริ่มอ้วนมากอีกที่ก็ตอนประถมปลายๆ ชีวิตผมผ่านช่วงอ้วนผมอ้วน มา 2-3 ครั้งแล้วและจะไม่ยอมให้อ้วนแบบที่เคยเป็นมาอีก
มันมีจุดเริ่มต้นจากร้านหมูกะทะสมัย ป.2 ผมเห็นญาติผมนั่งย่างมันหมูกินก็เลยลองทำตาม หลังจากนั้นก็ติดใจเอาเข้ามากไปกินทีไรเป็นต้องตักมันหมูมาไว้ก่อนเลย ความต้องการอยากอาหารเริ่มเพิ่มขึ้นทุกวันหยุดไม่ได้ฉุดไม่อยู่(กินสนุก มันส์ปากว่างั้น) ช็อกโกแล็ตฟอเรโร่จากญาติที่ฮ่องกงแพ็คใหญ่ไม่ถึง 2 วันหมด ไอศกรีม, ขนมหวานลอดช่อง, ทับทิมกรอบ, ชาไข่มุก, บวชฟักทอง, น้ำแข็งใสและของหวานกะทิตอนเย็นเป็นต้องซัดทุกวัน ทุกวันจริงๆ หน้าทีวีซื้อเลย์มายัด อร่อยมาก ผมยอมรับว่าฟินเป็นที่สุดและไม่มีอะไรให้ความสุขกับผมได้มากไปกว่าการที่ได้ลิ้มรสชาติอาหารและขนมหวานมันไปอีกแล้ว และแล้วฉายาของผมที่ผมได้กล่าวไว้ช่วงต้นๆ ก็เริ่มผุดขึ้นมาทีละชื่อ ทีละชื่อ
ไอ้คอสั้น!!! ชื่อนี้มาจากการที่ผมอ้วนจนคอเป็นคาง 2 ชั้น ไขมันมันบดบังส่วนกราม คอ และโครงหน้าของผมไปจนทำให้ดูเหมือนคอไม่มี (ปี 2008)
ไอ้ฝรั่งเตี้ย!!! ที่มาของมันก็เพราะผมเป็นลูกครึ่งตอนเด็กจะหน้าฝรั่ง(เขาว่ากัน) ผสมผสานกับหุ่นที่ลงตัว ถรุ้ยย!! ผสมกับหุ่นที่อ้วนพีทำให้ดูเหมือนเตียกลมกว่าเด็กในวัยเดียวกันต่างหาก เนื่องจากผมเป็นคนอินดี้มาตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันนี้ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ผมชอบใส่ชุดอะไรที่มันสบายๆ การแต่งตัวคือไม่มีอะไรเลยสลับกันไปหมดขอแค่สบายบุคลิกภาพไม่สน ญาติๆป้าๆแม่ๆก็เลยพยายามบังคับผมใส่ชุดยีนส์บ้าง รองเท้าหนังบ้างเสริมหล่อ แต่ หึ ไม่เอาเพราะไม่ชอบ คนอินดี้ งอแงอยากจะใส่แบบที่ตัวเองสบายใจ5555 ไม่รู้มีใครเป็นแบบผมไหม เดี๋ยวเรื่องอินดี้จะมาต่ออีกที
ผมขอเปลี่ยนคำแทนตัวเองจาก “ผม” เป็น “เปอร์” แล้วกันนะครับมันคุ้นปากมากกว่า…
ญาติๆ ป้าๆและแม่ๆของเปอร์ต่างก็หาวิธีจำกัดการกินของเปอร์อยู่เรื่ิอยๆ ห้ามไม่ให้กินนู่นบ้างหละ นี่บ้างหละ หนักสุดคือแค่ซูชิตอนไปห้างเปอร์ซื้อมาแล้วจะกินไม่ยอมให้กินเพราะมันดึก เปอร์งอแงจะกินแต่ก็ไม่ได้กิน เสียน้ำตาไปเป็นแกนลอนไม่ได้ชวยอะไรขึ้ยมาเลย พวกเค้าเป็ห่วงมากเพราะกลัวโรคแทรกซ้อนจะตามมาตอนโตมาฮึฮึ คุณคิดว่ายังไง? มันได้ผลไหม? คำตอบคือ หึ! ไม่เลยเพราะยิ่งห้ามเปอร์ก็ยิ่งอยากจะเอามันยัดปากเต็มทน แค่ครั้งซูชิครั้งเดียวเท่านั้นแหละที่ทำอะไรเปอร์ได้ ถ้าไม่ได้ยัดนะจะอารมณ์เสียและอยู่ไม่เป็นสุขเลย
และแล้วเปอร์ก็เริ่มโตขึ้น ปริมาณการกินก็เพิ่มขึ้นทวีคูณ (รูปข้างบนนี้ตอน ป6) มีช่วงหนึ่งที่แอบอยากผอมเพราะในห้องมีแต่เพื่อนหุ่นผอมๆกันทั้งนั้นอีกเหตุผลคือตัวเองก็ดันแอบชอบคนๆนึงในห้องด้วยอิอิ หัวหน้าห้องอย่างเราจั้มมั่มวิ่งไม่ทันเพื่อนก็อายเค้า5555 พละดีนะยังได้เกรดกลางๆ คำดูถูกสบประหม่าสนุกปากของคนรอบกายบางคนก็จุดประกายให้เปอร์อยากลองผอมลงบ้าง และตอนนี้ความคิดอยากผอมก็เข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกเปอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นเปอร์น้ำหนัก 67 กก. สูง 150-160ซม. น่าจะได้ ก็เริ่มจากการกระโดดตบ 100 ครั้ง แบ่งเป็น 2 เซ็ตที่บ้าน อิอิคุณคิดว่าเปอร์ทำได้สักกี่วันเชียว หูยยยตั้ง 4 วันแหนะ เจริญพร! 55555555+ แล้วก็เฮ้ย! เลิกๆเหนื่อยๆ เติมพลังๆ ก็ไปซื้อช็อกกี้ขนมช็อกโกแล็ตแท่งโชกี้ละบาทมากิน 10-20 แท่ง ยิ่งแช่ตู้เย็นนะเว่ย หู้ยยยอร่อยย ปิดท้ายด้วยเต้าหู้นมสดซดระหว่างดึก ดูซิ! มันจะผอมให้แกมั้ยเปอร์เอ้ยยย!! จนกระทั่งเปอร์ย้ายมาที่สวีเดนเมื่อตอนอายุ 13 ปี จุดเปลี่ยนของชีวิตก็ได้เกิดขึ้น
ผมจบ ป.6 พอดีอายุ 13 ข้างบนเป็นรูป นร ชั้น ป 6 รูปสุดท้ายของผมที่ได้ใส่ชุด นร ไทย…
เค้าว่ากันว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศจะเจริญอาหารเพราะ ชีส นม เนย ช็อกโกแล็ต มันถูกต้องแล้วครับแต่… 1 ในนั้นไม่ใช่ผมแน่นอน ผมกินหมดชีสเชิสขนมมันนมเนย แต่สุดท้ายก็หยุดไปเพราะไม่ไหวกับมัน เบื่อมากเลย และแล้วเปอร์อยู่ในช่วงที่กำลังเจริญพันธุ์ (อั้ยยะ) เปลี่ยนๆคำทุเรศ 18+ ไป เอิ่มมเจริญวัยน่าจะเหมาะกว่า… เปอร์นึกอะไรขึ้นมาได้ว่า...โอเคนะ ฉันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้วงั้นกินเท่าเดิมดีกว่าปล่อยมันสูงไปจะได้ดูผอม 5555 ไม่รู้มีใครคิดแบบเรารึเปล่า และส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นจริงๆ เว้ยพี่น้อง แต่น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลงเลยทั้งๆ ที่ไม่ออกกำลังกาย (แต่พุงยังอยู่เพราะไม่ยอมออกกำลังกายกระชับ) หน้าผมเริ่มซูบซีด เหนื่อยมากทรมานจริงๆ กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองในช่วงเดือนแรกๆ ก็มีแอบกินเยอะบ้าง คุณอาจจะคิดว่าเด็กอ้วนโตมาก็ผอมได้โดยไม่ต้องทำอะไรอันนี้เปอร์ค้านตายเลยเพราะเด็กๆ ที่รู้จักหลายคนยิ่งตอนเด็กอ้วนโตมายิ่งอ้วนกันเป็นแถบ
ปี 2011 เปอร์กลับไปประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังจากที่มาสวีเดน เปอร์ตื่นเต้นมากดีใจที่จะได้กินของอร่อยๆ(สันดารเก่ามันยังอยู่) ผมอยู่บ้านที่ กทม ก่อนหลังจากนั้นก็กลับอุดรเลย นาทีแรกที่ก้าวออกมาจากประตูก็มีญาติๆยืนรอ พวกเค้ามองหาเปอร์ เปอร์เดินไปแล้วยิ้มก็ส่งยิ้มหวานๆให้ แต่สายตาที่ได้รับจากพวกเค้าเหล่านั้นทำให้เปอร์รู้สึกว่าเปอร์คือวิญญาณ ตาพวกเค้าลอยไปไกลเหมือนกำลังชะโงกหาหลานตัวเองอยู่ทั้งๆที่เปอร์อยู่ห่างจากพวกเค้าเพียงแค่ไม่กี่เมตร ทันทีที่ได้รู้ว่าเด็กชายที่เดินมานั้นคือหลานของพวกเค้า เสียงตะโกนหวีดร้องด้วยความประหลาดใจก็ดังขึ้นทันทีในสนามบิน เปอร์อายคนมากแต่ในใจก็รู้สึกดีใจว่า เฮ้ยยเราลบคำสบประหม่าของพวกเค้าออกไปได้แล้วและเปอร์ก็โดนกอดและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ประมาณว่า โอ้ยยทำได้แล้ว!!
รูปข้างล่างนี้คือตอนกลับไปแล้วไปแวะเยี่ยมบ้านญาติขามา ใส่แว่นเพราะเปอร์เป็นคนสายตาสั้น ปัจจุบันสั้น 475 ทั้งสองข้างเลย
แล้วก็กลับมาสวีเดนอีกครั้งเนื่องจากกลับไปไทยเปอร์ได้ไปเห็นคนเค้าแต่งตัวดูดีกันจังเลย มีแฟชั่นในหัวกันทุกคน
ก็เลยตัดสินใจปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่หล่วง อันดับแรกเอาลุคเฉิ่มๆออก
- เปลี่ยนจากแว่นเป็นคอนแทคเลนส์เพราะรอยแว่นกดร่องจมูกน่ากลัวมาก
- ตัดผมบ่อยขึ้น ลองทรงผมใหม่ๆ แอบหัดเซ็ตบ้าง แต่พัง!
- ซื้อน้ำหอมมาฉีด
- เอาจริงๆเรื่องคิ้วนะเพื่อนๆที่นี่มันถามว่าทำไมปล่อยไว้ เปอร์มันคนที่คิ้วหน้ามากและดูรุงรัง เพื่อนมันบอกมันรกจัดทรงสิ เปอร์ก็ ห้ะ หน้าก็จะเป็นเหมือน ผญ ไปเลยดิ๊ คนที่นี่เค้าก็ทำกัน สุดท้ายใช้เวลาทำใจไปเป็นเดือนๆกว่าจะตัดสินใจทำมัน T_T แต่ผลที่ได้ออกมาคือ เฮ้ยย รูปหน้าชัดขึ้น ดูเข้มขึ้น คมขึ้น มาก! เพราะคิ้วนี่เอง อย่ามองข้ามมันโดยเด็ดขาดไม่ว่าผู้ชานหรือผู้หญิง แต่555 อย่าเผลอหละ
ปล. เปอร์ใช้วิธีการถอนเด้เอาส่วนล่างๆ ที่มันเกินๆ ออกก็เท่านั้น ไม่ได้มากมายเด่วพัง กลัวๆ
คราวนี้เพื่อนๆชวนเล่นยิม วิ่งคาร์ดิโอ้ กินโปรตีน เปอร์เล่นๆบ้างไม่เล่นบ้าง เล่นประมาณ 4-6 เดือน อาหารที่ทานก็มีประโยชน์มากขึ้น รู้สึกว่าภูมิใจมากที่วิ่งทุกครั้งเกิน 30 นาทีได้ ดีใจมากที่เล่นเวททุกครั้งจนแขนขาลากดินเดินกลับบ้านแทบไม่ไหวเพราะใช้แรงไปหมดจดจริงๆ ผลออกมาก็รู้สึกสุขภาพดี กระชับ ไม่เหนื่อยระหว่างวัน หลับเร็วขึ้น เปอร์รู้สึกว่าแน่นขึ้นแต่หลังจากนั้นได้ไม่นานก็เลิกเลินเพราะมีปัจจัยหลายๆอย่างที่เข้ามา.
เมนูของเปอร์จะไม่เหมือนชาวบ้านเนื่องจากเป็นคนอินดี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะแปลกตากับอาหารของเปอร์เพราะเปอร์เป็นคนคิดสูตร(สด) ขึ้นมาระหว่างทำเลย
- อกไก่อบ ไม่หนัง ไม่ก้น ไม่มัน
- คีนัวดำแทนคาร์โบไฮเดรทบ้างเพราะเป็นธัญพืชที่ให้ไฟเบอร์ค่อนข้างสูง
- ผักเขียว ซุปเห็ดหอม
- ธัญาพืชบดรวมทำเป็นเหมือนอาหารเสริมเนสวีต้า ใส่กลิ่นวนิลาบ้าง น้ำตาลบ้างว่ากันไป
- วิตามินซีบ้าง แคลเซียมบ้าง น้ำมันปลา น้ำมันตับปลา นม(หลังๆเปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลือเพราะได้ความรู้ใหม่มาว่าผลิตภัณฑ์จากวัวเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ เปอร์จะมารีวิวรักษาสิวอีกทีเดี๋ยวจะพูดถึงนะครับ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรักษา)
*จงจำไว้ว่า ทุกอย่างมีทั้งประโนชน์และก็โทษ ห้ามทานมากเกินไป พวกวิตามินเยอะไปทำให้ร่างกายผิดปกติได้ครับ ไม่ใช่ทานเยอะแล้วจะเห็นผลเร็ว มันมีค่าปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน RDI ลองหาดูนะ)
ใกล้จะถึงเวลากลับไทยรอบที่ 2 หลังจากที่มาอยู่แล้ว เพราะเปอร์กลับไทยทุกๆ 2 ปี
ณ ช่วงหนึ่งในปี 2013 ก่อนจะปิดเทอม 3 เดือนก็ได้เลิกเล่นยิมไปเลยเพราะมีอะไรหลายอย่างมากและภาพช่วงราวๆวาระสุดท้ายในยิมของเปอร์ก็คือภาพข้างล่างนี้ ::: มันดูเอิ่มมก็โอเคนะ วิ่งทุกครั้งเกิน 30นาที เฉลี่ยนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง + ยกเวทมา อย่างมั่วบ้างมีพี่ๆฝรั่งมาช่วยบ้างก็เอิ่มม อย่างน้อยชีวิตนี้ก็เคยมี Six-packs ultra mini กับคนอื่นเขาบ้างหละวะ 55555 สั่นเด้!! ข้ามๆๆๆๆอาย 555 คราวนี้ก็เลยเลิกลา เหลือไว้เพียงภาพนี้ภาพเดียว ปัจจุบันนี้หุ่นไม่เป็นอย่างงี้แล้วเพราะไม่ได้เล่น เรียนสายวิทย์ค่อนข้างจะหนักงานก็เยอะมากเลยครับซิกซ์แพ็คเกิดการรวมร่างกันเป็นหนึ่งเดียวใจเดียวบังเกิดเป็น One-pack ไร้เทียมทานไปแล้ว คุณสบัติยืดหยุ่นใช้ดึ๋งศัตรูรอบๆกายให้กระเด็นออกไปได้ 5555 บ้า
กลับมาแล้วสันดารเก่ายังไม่หาย แก้ไม่ได้เพราะมันคือสันดาร 55555555555555
พฤติกรรมตอบสนองต่อของกินของเปอร์มันทำงานทันทีที่ก้าวขาเหยียบกระเบื้องของสนามบินสุวรรณภูมิ จัดไปกาแฟครีม ขนมไทย โอ้ยย เป็นคนที่ชอบขนมไทยมาก เม็ดขนุน ฝอยทอง ลูกชุบ ลอดช่อง แล้วก็อาหารข้างทางพวกปลาหมึกสดย่าง น้ำมะพร้าวเผา ลูกชิ้นปิ้ง และที่สำคัญส้มตำ ขาดไม่ได้ คนอุดรขาดตำบักหุ่งบ่ดั้ยยยิ่งมีหอยนะอะหืมมหอยดำๆอะ อร่อยฝุดๆ กลับไปพ่อจะซัดให้เกลี้ยงแผง/// ส่วนอาหารหรูๆซิสเลอร์ KFC เอาไปไกลๆอย่ามายุ่งง สังเกตจากภาพช่วงกลับไทยได้ว่าไม่ได้ออกกำลังกาย + ซัดของกินเยอะ + แล้วนอน + สันหาที่กิน + หน้าเริ่มออกเปอร์รู้สึกอึดอัด แขน ขา มันขัดกันไปหมด
นสุดท้าย!! ท้ายสุด เปอร์ก็กลับมาเป็นหุ่นที่ ปกติ มีพุงบ้างแต่มองเผินๆไม่ได้อ้วน แถมดูผอมไปด้วยซ้ำเหมือนคนขาดสารอาหาร
ณ ปัจจุบันเปอร์ก็ยังนับแคเลอรี่ ไม่ทานไอศครีม ของหวาน คุ้กกี้เป็นเรื่องเป็นราว แต่จะหันมาทานเนื้อ ผัก และผลไม้แทน
จากเด็กที่อ้วน อายกล้อง ไม่กล้าถ่ายรูปกับใครเลย ต้องแก้ปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนตัวเองซะใหม่ อิอิ มันเป็นส่วนนึงที่น่าภูมิใจสำหรับเปอร์มากเลยนะที่ผ่านอะไรแบบนั้นมาได้ // แต่ก่อนไป รร หมวกไม่ให้หลุดจากหัว ผมต้องบังหน้าตลอด ปัจจุบันรำคาญผมมาก อยากตัดมันออกไป อยากเสยมันขึ้น อิอิ
ณ ตอนนี้ทำอะไรบ้าง
- ไม่ได้ออกกำลังกาย
- ควบคุมอาหาร
- ไม่กินจุกจิก ไม่แตะขนมหรือเบเกอรี่ทุกชนิด ยกเว้นโอกาสงานเลี้ยงงานสังสรรค์ ช่วงธรรมดาทานเฉลี่ยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
- เวลาหิวดึกและทนไม่ไหวจริงๆจะดื่มนมถั่วเหลืองชนิดไขมันต่ำมาก 0.8% และไม่มีน้ำตาล 1 แก้ว 70kCal เอง เทียบกับแบบมีน้ำตาล 1 แก้วปาเข้าไป 100kCal หรือทานแอปเปิ้ล 1 ผล = 40-60 kCal
- เน้นอาหารที่ให้โปรตีน เช่นเนื้อเป็นต้น
- ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตเช่นข้าว แป้งออกจากมื้ออาหารและสมทบด้วยโปรตีน+ผักแทนส่วนที่เอาออกไป
- การประกอบอาหารชนิดผัดจะใส่น้ำมัน 1/2 ช้อนโต๊ะเท่านั้น ไม่ว่าจะผัดเยอะผัดน้อยก็ตาม
- ทานเนยถั่วตอนเช้า 1/2 ช้อนโต๊ะกันหิวระหว่างอาหารเที่ยง เพราะมันมีส่วนช่วยทำให้รู้สึกอิ่มถึงจะเป้นไขมันก็เถอะ คอนเฟิร์ม
- วิตามินอย่าเยอะไม่ดี
- ห้ามอดอาหาร เพราะร่างกายจะเข้าสู่ Save mode การทำงานและระบบการเผาผลาญจะรวน เพราะร่างกายจะตอบสนองอัตโนมัติว่าอาหารไม่ตกถึงต้องจึงเปลี่ยนเข้าสู่โหมดกักเก็บพลังงาน ยิ่งกินยิ่งเก็บสะสมเอาไว้ในรูปแบบไขมัน เพราะร่างกายกลัวว่าจะไม่มีอะไรมาตกลงท้องอีกจึงเอาแต่เก็บแล้วก็เก็บสะสม ----> ทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายทำงานด้อยลง ----> กินไปก็มีแต่จะเก็บและอ้วนภายในที่สุด ดังนั้น...
- หันมาทานจาก 3 มื้อ ให้เป็น 6-7 มื่อ โดยระหว่างมื้อใหญ่ให้กินผลไม้ 1ผล หรือนม 1 แก้ว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญอยู่ตลอดเวลา ร่างกายคนเวลาอะไรตกถึงท้องก็จะเผาผลาญอัตโนมัติ อันนี้ผมทำตลอด
- การลดน้ำหนักที่ถูกต้องห้ามอดอาหาร ฟันธง!! คุณผู้อ่านเคยอดอาหารแล้วไปช่างน้ำหนักไหม? น้ำหนักลดจริงๆใช่มั้ยครับ? ใช่! แต่สงสัยมั้ยว่าทำไมกลับมากินอีกถึงน้ำหนักกลับมาเท่าเดิม?? ก็เพราะว่าน้ำหนักที่หายไปคือ น้ำ และ กล้ามเนื้อครับ เวลาเราไม่ทานอะไรเลยร่างกายจะดึงและกัดกินกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทนอาหารที่ควรตกลงท้อง และส่วนสุดท้ายที่ร่างกายจะนำออกมาใช้เป็นท่าไม้ตายเมื่อไม่มีกล้ามเนื้อหลงเหลืออยู่แล้วก็คือไขมัน ฉะนั้นมวลของไขมันไม่ได้ลดแต่อย่างไรจากการอดอาหาร ต้องเบิร์นออกอย่างเดียว ;)
รูปหลายๆ รูปสังเกตได้ว่า คนที่ผอมโดยไม่ออกกำลังกายแก้มจะยุ้ยครับ ดูเปอร์เวลายิ้มแล้วจะบานเลย (ไม่ชอบ) 555+
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นกำลังใจให้กับใครอีกหลายๆ คนที่อยากลดน้ำหนักลงนะครับ เปอร์อ้วนๆ ผอมๆจนชินแล้ว รู้ว่าจะห้ามตัวเองยังไง โปรว่างั้น 55555 แต่หากมีโอกาสจะกลับไปเล่นยิมแน่นอนจะเอาให้กล้ามแตกเลยทีเดียว 5555 โชคดีนะครับฝันดีนาา