หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จุดแดงที่แต้มกลางหน้าผากสตรีอินเดีย

โพสท์โดย ขนมปังขิง

 

บินดิ (Bindi) จุดแดงที่แต้มกลางหน้าผากสตรีอินเดีย


เรามักพบเห็นสตรีอินเดียนิยมแต้มจุดสีแดงที่กลางหน้าผาก ซึ่งเป็นสิ่งตกแต่งตามธรรมเนียมของชาวฮินดู ที่รู้จักกันในชื่อต่างๆ เช่น บินดิ (bindi) พอตตู (Pottu) อันนี้เป็นภาษาเรียกของทมิฬ, ติลากัม (Tilakam) และติกะ (Tika) บางครั้งก็เห็นใช้กันทั้งหญิงและชาย นิยมแต้มเป็นจุด เครื่องหมาย หรือเส้น โดยใช้สีแดง สีดำ หรือสีเทาที่กลางหน้าผาก แต่เครื่องหมายที่แต้มบนหน้าผากสตรีส่วนใหญ่มักเรียก บินดิ (bindi) ส่วนที่แต้มอยู่บนหน้าผากผู้ชายฮินดูบางคนเรียกว่า ติกกะ (Tikka) หรือ ติกะ (Tika)

 


บินดิ ตามธรรมเนียมฮินดูดั้งเดิมนั้นเป็นเครื่องหมายมงคล เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เป็นศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Bindu ซึ่งแปลว่า “จุด” ซึ่งมักจะเป็นจุดสีแดง ทำมาจากผงสีแดง ใช้แต้มที่กลางหน้าผาก ระหว่างหัวคิ้ว เป็นตำแหน่งที่ตั้งของภูมิปัญญาที่แฝงเร้นอยู่ของคนเรา
โดยทั่วไปจุดสีแดงนี้จะทำจากมูลวัวที่นำมาเผาและบดจนละเอียดแล้วผสมกับสีแดงชาดที่ได้จากรากไม้ มูลวัวไม่ถือว่าเป็นของสกปรกเพราะวัวเป็นพาหนะของพระเจ้า และกินพืชเป็นอาหารผงสีนี้เรียกว่า "ผงวิภูติ" มีจำหน่ายตามร้านค้า ผงนี้อาจมีการนำไปทำพิธีก่อนนำมาใช้ก็ได้  

 

 
 
แต่เดิมอินเดียตอนเหนือนั้นจะเป็นที่เข้าใจกันว่า "บินดิ" เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะทางสังคมว่าหญิงผู้นี้ได้ผ่านพิธีการมงคลสมรสแล้ว แต่ทางอินเดียใต้นั้น ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะแต้มบินดิทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะแต่งงาน เจ้าบ่าวจะแต่งตัวไม่สมบูรณ์ถ้าขาดติลักษณ์  ติลักษณ์นี้จะถูกทำสัญลักณ์บริเวณหน้าผากของเจ้าบ่าว ขณะอยู่ในพิธีแต่งงาน เพราะผู้นับถือฮินดูอย่างเคร่งครัดจะมีความเชื่อว่า จะไม่มีประเพณีใดหรือการบูชาใดที่สมบูรณ์ ถ้าขาด "ติลักษณ์" และ "ซินดูร์สีแดง" ถูกเลือกเพราะว่าเป็นสีที่นำมาซึ่งความโชคดี เมื่อได้รับเจ้าสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน บ้านนั้นจะมีแต่ความโชคดี เพราะเชื่อว่าบินดีที่อยู่ระหว่างคิ้วเจ้าสาวนั้นมีพลังแห่งศักติช่วยคุ้มครองครอบครัว ช่วยคุ้มครองผู้เป็นสามี

สตรีอินเดียถือสามีเสมือนเทพ จะให้ความรักความเคารพอย่างสูงการเจิมหน้าผากจะทำในวันแต่งงาน เมื่อคู่บ่าวสาวเดินรอบกองไฟแล้วพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีวิวาห์ หรือผู้เป็นเจ้าบ่าวจะเจิมหน้าผากให้เจ้าสาวเป็นการประกาศว่าหญิงผู้นั้นเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณีสตรีชาวอินเดียจะต้องมีจุดนี้อยู่ตราบที่สามียังมีชีวิตอยู่ และจะต้องลบออกเมื่อสามีเสียชีวิต

ในกรณีที่เลิกร้างกัน สตรีผู้นั้นจะลบจุดออกได้ต่อเมื่อเป็นการเลิกร้างโดยคำสั่งของศาล
หากสตรีผู้นั้นลบจุดบินดิออกโดยที่สามียังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ได้เลิกกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จะถือว่าเป็นการกระทำสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ

 

พระแม่ปารวาตี

 

นอกจากนั้น "บินดิ" ยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของ "พระแม่ปารวาตี" (Parvati) ที่เชื่อว่าใช้ปกป้องสตรีที่แต่งงานแล้วและสามีของตน ทั้งยังเชื่อว่าใช้ปกป้องสตรีเหล่านี้จากสายตาริษยาของคนทั่วไปด้วย จึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน เพราะเครื่องหมายนี้จะแต่งแต้มบนหน้าผากของสตรีที่แต่งงานแล้วเป็นหลัก ซึ่งบินดินี้ใช้กันในประเทศต่างๆ ของเอเชียใต้ ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ เนปาล ศรีลังกา และปากีสถาน

 

 


แต่ในระยะหลังการทำสัญลักษณ์บินดิ กลายเป็นแฟชั่น มีรูปแบบและสีสันหลากหลายขึ้น ลักษณะของจุดบินดิมีหลายแบบ เดิมนิยมจุดกลม คนที่ยังสาวจะนิยมจุดเล็กเพราะสวยงามกว่าแต่พออายุมากขึ้นอาจแต้มจุดให้ใหญ่ขึ้น ปัจจุบันมีรูปแบบจุดอื่น ๆ เช่น รูปคล้ายหยดน้ำ หรือเป็นวงกลมและมีรัศมีโดยรอบเหมือนดวงอาทิตย์ ปัจจุบันบินดิพัฒนารูปแบบไปมากทั้งรูปทรงและสีสัน มีขายทั้งแบบจุดแดงสำเร็จรูป และแบบเครื่องประดับวุ้งวิ้ง บางทีก็ทำเป็นสติกเกอร์เพื่อสะดวกในการใช้ สาวๆ อินเดียนิยมแต้มในชีวิตประจำวัน

มีข้อสังเกตว่า ในบางครั้งบินดิอาจไม่ใช่สัญลักษณ์ของสตรีที่แต่งงานเพียงอย่างเดียว
"บินดิ" หรือ "ติกะ" ถือว่าเป็นสิ่งมงคล ชาวอินเดียบางกลุ่มจะใช้ในโอกาสอื่น ๆ เช่นเวลาไหว้พระ พราหมณ์จะให้ผงวิภูติ ผู้รับจะนำมาเจิมเพื่อเป็นสิริมงคล แต่ก็เป็นการเจิมเพียงชั่วคราวเท่านั้น

 

บินดิแบบต่างๆในปัจจุบัน มีลวดลายต่างๆมากมาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

รูปประกอบจาก : อินเทอร์เน็ต

 
 
 
ซ้ำขออภัยค่ะ

ที่มา: indiaindream.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ขนมปังขิง's profile


โพสท์โดย: ขนมปังขิง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
64 VOTES (4/5 จาก 16 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกเขมรคือต้นกำเนิด วัฒนธรรมของการกิน 'สุนัข' ?อดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนีโลกกลัวว่าหุ่นยนต์สุนัขพ่นไฟ จะกลายเป็น " อาวุธชนิดใหม่ "สิ่งที่คนญี่ปุ่นเรียนรู้ เมื่อมาเมืองไทยเฉลยแล้ว เหตุผลที่ผู้ประกาศข่าวอินเดียหมดสติในห้องส่งชาวเน็ตฮือฮา! ขายที่ดินพร้อมบ้าน 200 ล้าน ติดวิวสภาสัปปายะสภาสถานสาวร้องสายไหมต้องรอด คลีนิกทำ "จิ๊มิไหม้" แล้วไม่รับผิดชอบเมื่อสาวเจอความทรงจำที่หายไป..มาอยู่ที่ใต้สะพานลอย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รู้ยังค่าเทอม "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ค่าธรรมเนียมการศึกษา ปี 2567ช้าหน่อยนะครับ!! เมื่อเจ้าของร้านไล่พนักงานออกยกเซต 8 คน เพราะขโมยเงิน งานนี้ต้องกลับมาทำทุกอย่างเองทั้งหมด 😌อดีตพระเอกดัง เตรียมตัวย้ายประเทศไปเยอรมนีไทยกินชานมไข่มุก แก้วเรียงกัน " สูงกว่าตึกไทเป 101 ถึง 27 เท่า "
ตั้งกระทู้ใหม่