มนุษย์ไร้ขนเพชร

กาลครั้งหนึ่งในยุคอันแสนมหัศจรรย์ที่เรียกกันว่า “ยุคเอทตี้” (ทศวรรษ 1980) ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่นิยมโกนขนเพชร (ขนบริเวณอวัยวะเพศ) แต่เมื่อถึงยุค “มิลเลนเนียม” (ค.ศ.2000) ดูเหมือนสาวๆ จะนิยมให้บริเวณนั้นเกลี้ยงเกลา และการมีขนบริเวณเนินหัวหน่าวกลายเป็นแนวคิดที่ตกโลกสำหรับหลายๆ คน แม้แต่ผู้ชายเองก็เริ่ม “มีแนวโน้ม” ที่จะแปลงร่างให้กลายเป็น “มนุษย์ไร้ขนเพชร” เหมือนกับตุ๊กตาเด็กเล่นตามไปด้วย

จากนั้น แฟชั่นสนองตอบการเป็นมนุษย์ไร้ขนเพชรก็ตามมา ผู้หญิงจำนวนหนึ่งรวมทั้งคนดังอย่างดาราฮอลลีวู้ด “เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิวอิตต์” และ ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ “เอมี่ ชายด์ส” ผู้ออกแบบเครื่องประดับแนวอาร์ตๆ ด้วยตัวเอง เริ่มนำคริสตัลที่ส่งประกายแวววาวมาประดับบริเวณจุดซ่อนเร้น (มีศัพท์เฉพาะคือ “Vajazzling”) ซึ่งตามมาด้วยอันตรายอย่างคาดไม่ถึง

หนังสือพิมพ์เดลี่เมลของอังกฤษรายงานว่า การตกแต่งดังกล่าวทำให้จำนวนผู้ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากบาดเจ็บที่จุดซ่อนเร้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นแผลหรือติดเชื้อ ขณะที่การกำจัดขนด้วยวิธี Brazilian waxes ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

อันตรายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมักจะเชื่อมโยงกับความพยายามประดับปากช่องคลอดด้วยตัวเองแบบลวกๆ ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นเป็นจุดหนึ่งซึ่งจะดูดีกว่าถ้าปราศจากเครื่องประดับ แต่ถ้าคุณผู้หญิงคนไหนยังยืนยันอยากตกแต่ง ไม่ว่าจะประดับเพชรพลอยที่แวววาว ประดับด้วยวัสดุชนิดอื่น หรือตกแต่งด้วยรอยสัก ทุกครั้งควรใช้บริการของผู้เชี่ยวชายหรือมืออาชีพ

สำหรับคุณผู้ชาย ได้ยินอย่างนี้ อาจอยากดูให้เห็นกับตาสักทีว่า การตกแต่งดังกล่าวจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ที่สำคัญ ขนเพชรมีประโยชน์หลายอย่าง ดังนั้นการโกนหรือแว็กซ์จนเกลี้ยงเกลาเพื่อความสวยงามหรือไม่ให้รกตาเพียงอย่างเดียว น่าจะมีโทษตั้งแต่เริ่ม แม้จะไม่คิดเอาอะไรมาประดับให้เสี่ยงอันตรายตามมาอีก ทางที่ดี เล็มๆ บ้างก็พอ อย่าถึงกับโกนออกจนเกลี้ยงเกลา…

โดย เรเวอร์เรนด์ เจน