พม่า เสียกรุง
โพสท์โดย แพงพวย
กษัตริย์องค์ใหม่มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าหม่องปู (Maung Pu) แต่รู้จักกันในนามพม่าว่า ‘สิมโป’ ฝรั่งเรียกว่า ‘ธีบอ’ ไทยเรียกว่า ‘สีป่อ’
ขึ้นครองราชสมบัติทั้งๆ ที่เป็นเจ้าฟ้าลำดับสิบกว่าๆ ไม่ติดเกณฑ์ที่จะเป็นรัชทายาทเลย แต่ก็ขึ้นครองราชย์ได้เพราะ พระนางอเลนันดอ พระมเหสีพระเจ้ามินดงกษัตริย์องค์ก่อนผู้มีอำนาจมาก เมื่อไม่มีพระราชบุตร มีแต่พระราชธิดาที่ทะเยอทะยานพอๆกัน จึงได้วางแผนกับสองขุนนางใหญ่ให้พระราชธิดาของพระนางได้เสกสมรสกับเจ้าฟ้าพระองค์ใดองค์หนึ่งที่จะเชิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ ซึ่งทั้งหมดได้เลือกเอาเจ้าฟ้าสีป่อผู้อ่อนแอ จะได้ครอบได้สะดวก (ราชวงศ์พม่าแต่งงานแบบ ไทย คือ พี่น้องพ่อเดียวกันแต่ คนระแม่แต่งงานกันได้)
ขึ้นครองราชสมบัติทั้งๆ ที่เป็นเจ้าฟ้าลำดับสิบกว่าๆ ไม่ติดเกณฑ์ที่จะเป็นรัชทายาทเลย แต่ก็ขึ้นครองราชย์ได้เพราะ พระนางอเลนันดอ พระมเหสีพระเจ้ามินดงกษัตริย์องค์ก่อนผู้มีอำนาจมาก เมื่อไม่มีพระราชบุตร มีแต่พระราชธิดาที่ทะเยอทะยานพอๆกัน จึงได้วางแผนกับสองขุนนางใหญ่ให้พระราชธิดาของพระนางได้เสกสมรสกับเจ้าฟ้าพระองค์ใดองค์หนึ่งที่จะเชิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ ซึ่งทั้งหมดได้เลือกเอาเจ้าฟ้าสีป่อผู้อ่อนแอ จะได้ครอบได้สะดวก (ราชวงศ์พม่าแต่งงานแบบ ไทย คือ พี่น้องพ่อเดียวกันแต่ คนระแม่แต่งงานกันได้)
ในภาพพระเจ้าสีป่อนั่งร่วมพระแท่นอยู่กับชายา พระนางศุภยาลัตผู้เป็นน้องมีพ่อเดียวกัน โดยมีพระนางศุภยาจิ น้ององค์เล็กมานั่งเบียดกับเค้าด้วย
พองานพระบรมศพ พระเจ้ามินดงเสร็จ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียง ๗ วัน พระนางศุภยาลัต โปรดให้จัดงานปอยหลวง ขึ้น สามวันสามคืน อย่างครึกครื้น ให้ชาวเมืองลืมความทุกข์โดยการมาเที่ยวงานให้สนุก จริงนั้นก็เพื่อจะกลบเกลื่อนกรรมพิธีที่จะเริ่มต้นการสังหารหมู่ บรรดาเจ้าพี่และเจ้าน้องของตัวเองทั้ง ๓๐ องค์ รวมถึงเจ้าจอมมารดา ขุนนาง และบริวารรวมทั้งสิ้น ๑๒๕ คนด้วย เจ้านายองค์ใดถูกปลงพระชนม์ เจ้าจอมมารดา พระภคินีขนิษฐาและบรรดาโอรสธิดาของเจ้านายองค์นั้นก็โดนประหารไปด้วย
ที่ใช้เวลาอยู่ถึงสามวันในสังหารผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด เพราะต้องลงมือฆ่า ในเวลากลางคืน เมื่อแดดร่มลมตกผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวงาน ละครเริ่มออกโรง ดนตรีปี่พาทย์บรรเลงดังที่เข้าที่แล้วก็จะช่วยกลบเสียงโหยหวลของมนุษย์ที่กำลังเผชิญกับความตาย พระเจ้าสีป่อเองก็ถูกมอมให้เสวยแต่น้ำจัณฑ์จนเมามายลืมโลก จะได้ไม่ต้องสนใจการสังหารหมู่ครั้งนั้น
ที่ใช้เวลาอยู่ถึงสามวันในสังหารผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด เพราะต้องลงมือฆ่า ในเวลากลางคืน เมื่อแดดร่มลมตกผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวงาน ละครเริ่มออกโรง ดนตรีปี่พาทย์บรรเลงดังที่เข้าที่แล้วก็จะช่วยกลบเสียงโหยหวลของมนุษย์ที่กำลังเผชิญกับความตาย พระเจ้าสีป่อเองก็ถูกมอมให้เสวยแต่น้ำจัณฑ์จนเมามายลืมโลก จะได้ไม่ต้องสนใจการสังหารหมู่ครั้งนั้น
เพชฌฆาตจะใช้ท่อนไม้ไผ่ตีให้ตรงลูกกระเดือก ถ้าทีเดียวไม่ตายก็ซ้ำอีกจนกว่าจะตาย หลังจากแน่นิ่งแล้วก็เอาร่างใส่ถุงแดง โยนลงไปรวมกันทั้งหมดในหลุมขนาดใหญ่ที่ขุดไว้ เสร็จสิ้นการสังหารหมู่แล้วจึงเอาดินกลบ
ครั้นได้เวลาประมาณเจ็ดวัน ศพที่อยู่ข้างใต้ก็ขึ้นอืดเต็มที่ เกิดแกส ดันดินที่กลบหลุมอูดขึ้น ส่งกลิ่นผีเน่าตลบอบอวลไปทั่วทั้งเมือง พระนางศุภยาลัตทรงโกรธกริ้วเป็นอย่างยิ่ง ให้เอาช้างทั้งโขลงมาเดินเหยียบย่ำ ดินก็ยุบลงไปชั่วคราว พอแกสสะสมตัวได้ใหม่ก็ดันดินอูดขึ้นใหม่ กลิ่นเน่าก็ฟุ้งออกมาอีก ต้องเอาช้างมาเหยียบอัดกันอย่างนี้อยู่หลายวัน จนในที่สุดพระนางศุภยาลัตก็ทนกลิ่นไม่ได้ สั่งให้ขุดเอาทรากที่เหลือทั้งหมดนั้นใส่เกวียนไปฝังเสียยังนอกเมือง ความลับทั้งปวงก็แตก ชาวบ้านชาวเมืองรู้กันทั่วทันทีที่เกวียนออกจากประตูวังผ่านไป ข่าวรั่วออกไปถึงหูอังกฤษที่วางสปายไว้ทั่ว หลังจากนั้นไม่นานสถานทูตอังกฤษในย่างกุ้งก็ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างความชอบธรรมที่จะช่วยชาวพม่ากำจัดอธรรม และเริ่มบีบกรงเล็บทีละน้อยๆ
ครั้นได้เวลาประมาณเจ็ดวัน ศพที่อยู่ข้างใต้ก็ขึ้นอืดเต็มที่ เกิดแกส ดันดินที่กลบหลุมอูดขึ้น ส่งกลิ่นผีเน่าตลบอบอวลไปทั่วทั้งเมือง พระนางศุภยาลัตทรงโกรธกริ้วเป็นอย่างยิ่ง ให้เอาช้างทั้งโขลงมาเดินเหยียบย่ำ ดินก็ยุบลงไปชั่วคราว พอแกสสะสมตัวได้ใหม่ก็ดันดินอูดขึ้นใหม่ กลิ่นเน่าก็ฟุ้งออกมาอีก ต้องเอาช้างมาเหยียบอัดกันอย่างนี้อยู่หลายวัน จนในที่สุดพระนางศุภยาลัตก็ทนกลิ่นไม่ได้ สั่งให้ขุดเอาทรากที่เหลือทั้งหมดนั้นใส่เกวียนไปฝังเสียยังนอกเมือง ความลับทั้งปวงก็แตก ชาวบ้านชาวเมืองรู้กันทั่วทันทีที่เกวียนออกจากประตูวังผ่านไป ข่าวรั่วออกไปถึงหูอังกฤษที่วางสปายไว้ทั่ว หลังจากนั้นไม่นานสถานทูตอังกฤษในย่างกุ้งก็ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างความชอบธรรมที่จะช่วยชาวพม่ากำจัดอธรรม และเริ่มบีบกรงเล็บทีละน้อยๆ
ปีที่ ๗ ของรัชกาล ตรงกับพ.ศ.2428 หลังจากบีบจนดิ้นไม่หลุด อังกฤษก็เริ่มส่งข้อเรียกร้องชนิดที่พม่าจะยอมก็ไม่ได้ เช่น ขอให้อังกฤษเป็นคนควบคุมการเดินเรือเพื่อการพาณิชย์ของพม่าในแม่น้ำทุกสายเป็นต้น ฯลฯ
พระนางศุภยาลัตประกาศท้ารบกับอังกฤษด้วยความยะโสโอหัง เพ้อพกกับอดีตของพม่าที่เคยยิ่งใหญ่ เคยรบชนะศึกมาแล้วแม้กระทั่งจีน พระเจ้าสีป่อก็ตามพระทัยมเหสีอยู่แล้วก็ตรัสสั่งให้เตรียมพลออกรบ อังกฤษรู้ดังนั้นก็ให้นายพลแฮร์รี เพนเดอร์กาส นำทหารฝรั่งและอินเดียเคลื่อนพลด้วยเรือกลไฟหลายลำ จากย่างกุ้งขึ้นทวนแม่น้ำน้ำอิรวะดีมุ่งหน้าสู่มัณฑะเลย์อย่างสบายๆ รบรุกไปเรื่อยๆใช้เวลาแค่ 14 วันก็ยึดเมืองหลวงได้
เมื่อจวนตัวพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัตก็จำเป็นต้องรักษาชีวิตรอดโดยการยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
พระนางศุภยาลัตประกาศท้ารบกับอังกฤษด้วยความยะโสโอหัง เพ้อพกกับอดีตของพม่าที่เคยยิ่งใหญ่ เคยรบชนะศึกมาแล้วแม้กระทั่งจีน พระเจ้าสีป่อก็ตามพระทัยมเหสีอยู่แล้วก็ตรัสสั่งให้เตรียมพลออกรบ อังกฤษรู้ดังนั้นก็ให้นายพลแฮร์รี เพนเดอร์กาส นำทหารฝรั่งและอินเดียเคลื่อนพลด้วยเรือกลไฟหลายลำ จากย่างกุ้งขึ้นทวนแม่น้ำน้ำอิรวะดีมุ่งหน้าสู่มัณฑะเลย์อย่างสบายๆ รบรุกไปเรื่อยๆใช้เวลาแค่ 14 วันก็ยึดเมืองหลวงได้
เมื่อจวนตัวพระเจ้าสีป่อและพระนางศุภยาลัตก็จำเป็นต้องรักษาชีวิตรอดโดยการยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ภาพที่เสด็จออกรับแม่ทัพอังกฤษหน้าพระที่นั่งกลางสวนในพระราชวังมัณฑะเลย์ ทรงต่อรองได้แค่ขอเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะเก็บของส่วนพระองค์ก่อนที่จะต้องไปกับผู้ชนะในฐานะเชลย
นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า แม้ว่าอาวุธของอังกฤษจะดีกว่ากองทัพพม่าอย่างเทียบไม่ติดก็ตาม แต่เหตุผลที่อังกฤษชนะง่ายดายเกินคาดก็คือ ราษฎรพม่าไม่คิดว่า อังกฤษเป็นศัตรูที่จะต้องร่วมกับทหารจับอาวุธเข้าต่อสู้อริราชศัตรู เพราะไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไร เนื่องจากสถาบันกษัตริย์ไม่เป็นที่รักของประชาชน รัฐบาลของพระเจ้าสีป่อโดยพระนางศุภยาลัตก็กดขี่ประชาชนเยี่ยงทาสมาโดยตลอด บ้านเมืองจึงไร้เอกภาพและความสามัคคี
ภาพเหล่ากองทหารอังกฤษ ยืนเข้าแถวหน้าตำหนักทองคำ พระราชวังมัณฑเล
ภาพ เหล่ากองทหารระดับสูง ของอังกฤษ ถ่ายรูปร่วมกันในเรือ ในวันจับพระเจ้าพระเจ้าสีป่อ
จับพระเจ้าสีป่อลงเรือกลไฟ เป็นบรรยากาศท่าเรือขณะจับกุมตัวกษัตริย์พม่า ซึ่งถ้าเป็นดังนี้จริง สภาพเรือก็ไม่สมพระเกียรติยศ
วันที่อังกฤษเอา กษัตริย์และราชินีพม่าใส่เกวียนบรรทุกของ ให้วัวลากออกจากวังไปขึ้นเรือกลไฟอย่างหลู่พระเกียรติอย่างสุดๆนั้น ชาวพม่าที่เห็นเหตุการณ์ก็คงจะไร้ความรู้สึก อาจจะเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยมั้ง ที่ราษฏรทั้งหมดเหล่านั้นได้มีโอกาสเห็นพระเจ้าอยู่หัวของตน
ภายหลังแพ้สงครามครั้งแรก ต้องเสียดินแดนทางตอนใต้ปลายแหลมให้อังกฤษครับ ทั้งทวาย มะริด ตะนาวศรี เมาะตะมะ ก่อนที่ต่อมาก็เสียอำนาจในแคว้นยะไข่
สีชมพู คือ จักรภพอังกฤษ สีเขียวแก่ คือดินแดนที่พม่าดูแลโดยตรง สีเขียวอ่อน คือดินแดนในสวามิภักดิ์ของพม่า
สีชมพู คือ จักรภพอังกฤษ สีเขียวแก่ คือดินแดนที่พม่าดูแลโดยตรง สีเขียวอ่อน คือดินแดนในสวามิภักดิ์ของพม่า
หลังแพ้ในสงครามครั้งที่สอง เสียหัวเมืองมอญริมทะเลทั้งหมด
ภายหลังแพ้สงครามครั้งที่ 3 อังกฤษก็ยึดพม่าเอาไว้ทั้งหมด รวมทั้งรวบเอาหัวเมืองไทใหญ่ในรัฐฉานมาไว้เป็นรัฐอารักขา ก่อนจะได้ดินแดนติ่งสีเหลืองๆไปจากไทย
พม่าเสียเมืองตรงกับรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อดเปรียบเทียบเขาและเรามิได้ คิดคราวใดสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยก็เอ่อล้นหัวใจขึ้นมาทุกครั้ง
ใครที่คิดว่า ไทยถ้าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษก็คงจะดีกว่านี้ ก็ขอให้ดูพม่าเถิด ป่านนี้บ้านเมืองยังไม่มีเสรีภาพ ราษฎรถูกปิดหูปิดตาปิดปากเหมือนถูกกะลาครอบ การเมืองก็ยังเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชที่ปกครองโดยกษัตริย์นอกรูปแบบนั่นเอง
ใครที่คิดว่า ไทยถ้าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษก็คงจะดีกว่านี้ ก็ขอให้ดูพม่าเถิด ป่านนี้บ้านเมืองยังไม่มีเสรีภาพ ราษฎรถูกปิดหูปิดตาปิดปากเหมือนถูกกะลาครอบ การเมืองก็ยังเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชที่ปกครองโดยกษัตริย์นอกรูปแบบนั่นเอง
พระเจ้าสีป่อและ พระนางศุภยลัต ถูกเนรเทศให้ไปอยู่เมืองรัตนคีรีในประเทศอินเดียโดยอังกฤษจัดให้อยู่ในวังแห่งใหม่นี้
ไม่มีใครเอาใจใส่อดีตกษัตริย์และราชินีที่มาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่ แม้วังนี้รัฐบาลอินเดียจะยังอนุรักษ์ไว้ แต่ก็นานๆทีจึงจะมีผู้ไปเยือน
พระเจ้าสีป่อประทับอย่างไม่มีสง่าราศี อย่าว่าแต่ของกษัตริย์เลย ของลูกผู้ชายก็แทบจะไม่เหลือ ในตำหนักที่อินเดีย พระนางยังจัดให้หมู่ข้าเฝ้ารักษาพระราชเพณีของราชสำนักคองบองอยู่ วันสำคัญๆ เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษา บริวารทั้งหลายที่ตามไปเป็นข้ารับใช้ก่อนที่จะทอดทิ้งพระองค์ไปแบบไม่จากเป็นก็จากตาย ยังต้องงัดเครื่องแบบเต็มยศมาสวมใส่ในงานด้วย
พม่าสูญสิ้นความเป็นชาติอยู่ร่วมร้อยปีเพราะอังกฤษปกครองเป็นเพียงแคว้นๆหนึ่งของอินเดีย ทรัพยากรของชาติพูดให้ถูกก็คือของประชาชนพม่าถูกอังกฤษปล้นไปบำเรอความรุ่มรวยของตนอย่างมากมายมหาศาลประเมินค่ามิได้ กว่าจะกลับเป็นประเทศเอกราช มีธงชาติกับเขาอีกครั้งก็หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ต่อมา พระนางได้กลับมาสู่พม่าที่เมืองย่างกุ้ง ก็ยังทำหยิ่งทำศักดิ์ไม่คบหาสมาคมกับใคร ใครไปหาต้องหมอบกราบ เคียดแค้นขุนนางพม่าที่ไปเข้ากับอังกฤษ มีฝรั่งเขียนเกี่ยวกับพระนางไว้ว่า เมื่อพระนางแก่ตัวเข้าและรู้สำนึกในชีวิตแล้ว ทรงสงบเสงี่ยม สุภาพ น่าสงสาร ทรงเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อน และเสียพระทันต์ทั้งหมด พระนางอยู่ในตำหนักที่อังกฤษจัดถวายให้ในเมืองย่างกุ้ง 10 ปี จึงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระชนมายุ 65 พรรษา
การจัดการพระศพก็เป็นไปตามยถากรรม ไม่ได้มีพิธีรีตองมากมายไม่ต่างจากคนทั่วไป ไม่เหลือเค้าโครงใดๆให้เห็นว่าครั้งหนึ่งนางเคยเป็นพระราชินีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของพม่า ปัจจุบันยังมีที่ฝังพระศพอยู่ในย่างกุ้ง โดยรัฐบาลอังกฤษจัดการพระศพให้ตามธรรมเนียม แต่ไม่อนุญาตให้เชิญพระศพขึ้นไปที่ราชธานีกรุงมัณฑะเลย์ คงอนุญาตเพียงแต่ทำเป็นมณฑปบรรจุพระอัฐิเท่านั้น ปัจจุบันนี้อยู่ที่ถนนเจดีย์ชเวดากอง (Shwe Dagon Pagoda Rd.) ห่างจากบันไดด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ชเวดากองมาประมาณ 200 เมตร สร้างเป็นกู่ทรงมณฑปยอดปราสาทแบบพม่า ก่ออิฐฉาบปูนขาว รูปทรงคล้ายที่ฝังพระศพของพระเจ้ามินดงในกรุงมัณฑะเลย์ ที่ฐานล่างมีแผ่นจารึกแผ่นเล็กของตอปยากะเล (Taw Payar Kalay) หรือออง ซาย (Aung Zay) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาองค์สุดท้ายของพระเจ้าสีป่อ ที่เสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 2006 และนำอัฐิมาฝังไว้ในกู่เดียวกับพระนางศุภยาลัต โดยพระนางมีศักดิ์เป็น "พระอัยยิกา" ของนัดดาองค์นี้[8]
กู่ทรงมณฑปบรรจุอัฐิพระนางศุภยาลัต อยู่ห่างจากบันไดด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ชเวดากองมาประมาณ ๒๐๐ เมตร
พระเจ้าสีป่อมีโอรส ๒ พระองค์ ธิดา ๖ พระองค์
โอรส ๑ พระองค์ เกิดจากกนิษฐาของ พระนางศุภยาลัต
อีก ๗ เกิดจากพระนางศุภยาลัต
โอรสองค์โตและพระธิดา ๒ องค์แรกของพระนางศุภยาลัตสิ้นแต่เด็กด้วยไข้ทรพิษ
ส่วนโอรสที่เกิดจากพระนางศุภยากาเล (น้องสาวของพระนางศุภยาลัต) ก็สิ้นแต่ยังทรงพระเยาว์
(ลองเดาสาเหตุกันเองนะ เพราะผมก็ไม่ทราบความจริง ^^)
พระธิดาทั้ง ๔ พระองค์นั้น มีแต่องค์ที่ ๓ ที่สมรสได้อย่างเหมาะสมเป็นที่พอพระทัยของพระราชบิดามารดา
คือแต่งกับหลานพระมหาอุปราชาองค์สุดท้าย และมีพระธิดาองค์เดียว
องค์โตแย่สุด หนีไปแต่งกับคนเฝ้าประวังตำหนักชาวอินเดีย ต้องไปใช้ชีวิตอย่างยากจน
ทายาทที่เหลืออยู่กลายเป็นอินเดีย ใช้ชีวิตข้างถนน
องค์ที่ ๒ แต่งกับเลขาส่วนพระองค์ของพระเจ้าธีบอ ซึ่งมีเชื้อผู้ดีเก่าเป็นลูกชายขุนนางระดับเจ้าเมืองเก่า ไม่ได้กลับพม่าและไม่มีทายาท
องค์สุดท้องแต่งกับทิด (ไม่รู้ว่าบวชนานแค่ไหน) มีลูกชาย ๔ ลูกสาว ๒
ธิดาองค์นี้ต้องไปอยู่เมาะลำเลิง เพราะไม่เป็นที่พอพระทัยของพระราชมารดาเช่นเดียวกัน
โดยลูกชายคนที่ ๒ ของธิดาองค์ที่ ๔ นั้น แต่งกับพระธิดาองค์เดียวของ เจ้าชาย Kadaw จี กับพระราชธิดาพระเจ้าสีป่อองค์ที่ ๓ (ที่กล่าวไว้ข้างต้น)
มีลูกชาย ๕ ลูกสาว ๒ ถือเป็นสายตรงที่สืบมาจากพระเจ้าธีบอ
ชั้นลูกชายของพระธิดาองค์ที่ ๔ นั้น มีบทบาททางการเมืองอยู่พอสมควร
แต่ในปัจจุบันทายาทที่เหลือก็อยู่อย่างธรรมดาไม่มีฐานะอะไร
พระธิดาทั้ง ๔ พระองค์นั้น มีแต่องค์ที่ ๓ ที่สมรสได้อย่างเหมาะสมเป็นที่พอพระทัยของพระราชบิดามารดา
คือแต่งกับหลานพระมหาอุปราชาองค์สุดท้าย และมีพระธิดาองค์เดียว
องค์โตแย่สุด หนีไปแต่งกับคนเฝ้าประวังตำหนักชาวอินเดีย ต้องไปใช้ชีวิตอย่างยากจน
ทายาทที่เหลืออยู่กลายเป็นอินเดีย ใช้ชีวิตข้างถนน
องค์ที่ ๒ แต่งกับเลขาส่วนพระองค์ของพระเจ้าธีบอ ซึ่งมีเชื้อผู้ดีเก่าเป็นลูกชายขุนนางระดับเจ้าเมืองเก่า ไม่ได้กลับพม่าและไม่มีทายาท
องค์สุดท้องแต่งกับทิด (ไม่รู้ว่าบวชนานแค่ไหน) มีลูกชาย ๔ ลูกสาว ๒
ธิดาองค์นี้ต้องไปอยู่เมาะลำเลิง เพราะไม่เป็นที่พอพระทัยของพระราชมารดาเช่นเดียวกัน
โดยลูกชายคนที่ ๒ ของธิดาองค์ที่ ๔ นั้น แต่งกับพระธิดาองค์เดียวของ เจ้าชาย Kadaw จี กับพระราชธิดาพระเจ้าสีป่อองค์ที่ ๓ (ที่กล่าวไว้ข้างต้น)
มีลูกชาย ๕ ลูกสาว ๒ ถือเป็นสายตรงที่สืบมาจากพระเจ้าธีบอ
ชั้นลูกชายของพระธิดาองค์ที่ ๔ นั้น มีบทบาททางการเมืองอยู่พอสมควร
แต่ในปัจจุบันทายาทที่เหลือก็อยู่อย่างธรรมดาไม่มีฐานะอะไร
ที่มา:
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
88 VOTES (4/5 จาก 22 คน)
VOTED: zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กองกำลังพิเศษ BHQ ทรยศฮุนเซน แอบไปซบ อก สมรังสี
"ตระกูลฮุน" ถึงคราวอวสาน! คนในชิ่งหนีปิดฮุยวัน-ปชช.หมดตัวเงินในบัญชีถอนไม่ได้
เหนือความเชื่อ! "ซูเปอร์ฟูลมูน" เรื่องที่เราอาจไม่เคยรู้...
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
น้องแร็คคูนบุกร้านค้า ดื่มจัดหนัก จนเมาค้าง เห็นแล้วนึกถึงคนเหมือนกันนะเนี่ย (ฮา)













