อินเตอร์เน็ทเปลี่ยนความรักของมนุษย์ ( Digital Love Adapter )

ความสัมพันธ์ของคนเรา  ไม่ว่าความรัก ความเป็นเพื่อน
การเป็นกลุ่ม หรือแม้แต่การเป็นรัฐชาติ ล้วนถูกสร้างขึ้นจากการสื่อสาร

ก่อนที่คุณหรือผม จะเติบโตขึ้นและนิยามตนเองว่าเป็นอะไรนั้น เราทุกคนล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากข่าวสารที่เราได้รับ เสมอ , ในอดีต ก่อนที่ประเทศหรือแว่นแคว้นทั้งหลายจะกลายเป็นรัฐชาติแบบในปัจจุบันนั้น เราต่างอยู่กระจายกันอยู่อย่างหลวมๆ แต่แล้ววันหนึ่ง มีการเกิดขึ้นของแท่นพิมพ์ในเยอรมันนี และกระจายไปทั่วยุโรป แท่นพิมพ์ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ของโลกขึ้นมา และนวัตกรรมนั้นได้ทลายกำแพงของการแบ่งแยกบางอย่างลง นวัติกรรมนั้นได้สร้างสำนึกใหม่ของความรู้สึก และหลอมรวมสังคมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน นวัตกรรมที่ผมพูดถึงนั้นก็คือ " หนังสือพิมพ์ "

หนังสือพิมพ์ที่เราคุ้นเคยกันดีนั้น คือกระดาษที่บันทึกข่าวสารรวมทั้งเหตุการณ์ในปัจจุบัน และเผยแพร่ออกไปในคนอ่าน มันดูราวกับว่าเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่ไร้พิษส่ง , แต่ทว่าหากมองลึกไปกว่านั้นเข้าไปในอดีต หนังสือพิมพ์เป็นสื่อสิ่งเดียว ที่นำเอาเหตุการณ์ ณ จุดๆหนึ่ง หรือหลายๆจุดและประกาศออกไปทั่วดินแดน มันทำให้คนทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก รับรู้เรื่องเดียวกัน มีความ"อิน" มีความคิดร่วมกัน ราวกับเป็นครอบครัวเดียว และด้วยอานุภาพนี้ มันจึงเป็นสื่อที่สร้างสำนึกของความเป็นชาติขึ้น และมันเปลี่ยนแปลงความรู้สึกร่วมของผู้คนไปตลอดกาล

สื่อนั้นคืออำนาจ แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็น "ความจริง"
สื่อมวลชนนั้นเป็นเหมือนเสียงอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จะกล่อม ที่จะประกาศ และสร้างค่านิยม ที่จะบอกว่าคุณควรเป็นอะไร และต้องทำอย่างไรให้สังคมยอมรับ , สื่อมวลชน คือพลังขับเคลื่อนทั้งในทางที่ดีหรือร้ายต่อสังคม , สื่อมวลชนในหลายๆที่ ล้วนต้องเจอกับอิทธิพล และการกำหนดข่าวสารจากผู็มีอำนาจเหนือกว่า ที่แน่ๆก็คือกลุ่มมทุนที่กำหนดงบประมาณจากค่าโฆษณา สื่อมวลชนจึงไม่ใช่ยาวิเศษของชีวิต มันไม่ใช่เส้นทาง ไม่ใช่สัจจะ ไม่ใช่คำตอบ และไม่ใช่อารยรรม ...ไปซะทีเดียว , เราทุกคนจึงต้องมีสติให้มากครับ เวลาที่เรารับฟังสื่อต่างๆ โดยเฉพาะพวกสื่อมวลชน ที่เปล่งเสียงดังกว่าใครนี่แหละ

อินเตอร์เน็ท เสรีภาพ หรือความมั่ว ?
เมื่อเทคโนโลยีทางการสื่อสารได้พัฒนารุดหน้าไปมากขึ้น มันเกิดนวัตกรรมอีกอย่างหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนี้อีกครั้ง " สื่อออนไลน์ " อินเตอร์เน็ทเป็นสื่อใหม่ที่เปลี่ยนระบบการรับส่งข่าวสาร และเริ่มเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ของสื่อมวลชนไป โดยการเปิดโอกาสให้คนทุกคนได้สื่อสาร และตั้งประเด็นต่างๆสู่สังคม , ในยุคนี้เห็นได้ชัดครับ การสื่อสารนั้นเปลี่ยนมาอยู่กับคนธรรมดามากขึ้น ไม่ว่าการเขียน หรือเผยแพร่ข่าวผ่านเฟสบุ๊ก การตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดที่มีคนมาร่วมพูดคุยและแชร์ต่อมากๆ และการฟอร์เวิร์ดเมล์ ที่ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องหลวกหลวงแต่ก็ทำให้คนหลายคนเชื่อ

อินเตอร์เน็ทเป็นเครื่องมือ ที่ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่มันคือ"ความคิดและสำนึกใหม่"  ที่จะเปลี่ยนวิถีความสัมพันธ์ของผู้คนไปตลอดกาล, แน่นอนว่าข่าวสารจากอินเตอร์เน็ทนั้นอาจจะไม่ได้ผ่านการตรวจสอบหรือคัดกรองอย่างรัดกุม อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะมั่วได้มาก แต่นั้นเป็นราคาของเสรีภาพ มันช่วยไม่ได้เลยที่จะมีใครสักคนหรือหลายๆคน สร้างข่าวสารเท็จขึ้นมา เราต้องยอมรับมันเป็นธรรมชาติ และค่อยๆทำให้มันลดลงไป คนเราต้องยึดถือไว้เสมอว่าข่าวสารในอินเตอร์เน็ทนั้นไม่ใช่่ความจริงเสมอไป เราต้องใช้สติและเหตุผลในการเปินรับความเป็นไปได้อีกด้านของข่าวสารอยู่เสมอ , เราจงอย่าชินกับความคิดที่ว่า จะมีคนป้อนควงามจริงเข้าปากเราทุกๆวันๆ เพราะความจริงบางอย่างนั้นเราไม่สามารถหาได้จากสื่อ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

อินเตอร์เน็ท , สัมผัสรัก และมิตรภาพใหม่
อินเตอร์เน็ทนั้นเติบโตจากสัญชาติญาณแรกเริ่มของมนุษย์ นั่นก็คือเสรีภาพ นั่นคือ เสรีภาพในการที่จะสงสัย อยากรู้ อยากสัมผัส และอยากค้นหาความจริง , เสรีภาพนั้นยังรวมถึงเรื่องความรัก และความสัมพันธ์ที่มนุษย์เราต้องการใกล้เข้าไปอีกสักนิด มนุษย์เราเป็นเช่นนั้นเสมอมา และจะเป็ฯตลอดไป , การพัฒนาของสื่อ จะสร้างสัมผัสใหม่ๆ ที่ทำให้เราเข้าใกล้ข้อมูล เข้าใกล้ความบันเทิง และเข้าใกล้ความรัก 

ความสัมพันธ์บนโลกอินเตอร์เน็ท ในมุมหนึ่งนั้น มันก็ไม่ได้ต่างจากการสัมผัสทางร่างก่าย อินเตอร์เน็ทก็คือสารสื่อประสาท มันสามารถรับ และส่งความรู้สึกได้ เพียงแค่มันไม่ใช่รูปแบบเดิมๆที่เราคุ้ยเคย , และในบางครั้งอินเตอร์ก็มีข้อดีในการส่งผ่ายความจริง มากกว่าโลกภายนอก , เพราะด้วยอินเตอร์เน็ท ผู้คนได้ก้าวข้ามขอบเขตทางมารยาทและวัฒนธรรม  และสามารถสื่อสารสิ่งที่พวกเขาคิด หรือรู้สึกจริงๆ ต่างกับเวลาที่เราอยู่ที่โลกภายนอกที่ต้องระวังคำพูดหรือการแสดงออก , ในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่ติดต่อหรือสัมผัสกับคนรักและเพื่อนบนอินเตอร์เน็ท ได้แก่ โซเซี่ยลมีเดีย และการแชทออนไลน์ มากกว่าการมีปฏิสัมพันธ์กันในโลกจริงเสียอีก

การหาคู่บนโลกอินเตอร์เนท
อินเตอร์เน็ททำลายสำนึกเรื่องอาณาเขต
- คณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ของสหรัฐฯสำรวจพบว่า พวกผู้ชายทุกวันนี้ ได้หันมาหาคู่ทางออนไลน์มาก ที่สุด มากเป็นอันดับ 2 รองจากการชักนำของเพื่อนฝูงหัวหน้านักวิจัยกล่าวว่า “การหาคู่ทางออนไลน์ นับเป็นความเปลี่ยนแปลงในการหาคู่ที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากอันหนึ่ง อินเตอร์เน็ตได้ช่วยทำให้เกิดความหวังกับคนหนุ่มสาว สร้างความรักความพิศวาส ผลการวิเคราะห์ระบุว่า คุณประโยชน์ของเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ ช่วยให้พวกคนโสด มีโอกาสเจอเข้ากับกลุ่มผู้อาจจะมาเป็นเนื้อคู่ ได้กลุ่มใหญ่

การหาคู่ของมนุษย์นั้นเปลี่ยนไป เมื่อมีการพัฒนาของการสื่อสาร ,ในอดีต คนเราจะหาคู่ได้ก็เฉพาะคนที่ใกล้ตัวและมีการลงหลักปักฐานใกล้ๆกัน แต่ในปัจจุบัน อินเตอร์เน็ทได้ให้เสรีภาพในความโลดโผนของชีวิต ,มันเป็นยุคปฏิวัติความสัมพันธ์อย่างแท้จริง เมื่อนึกถึงว่าคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันที่ไม่ได้รู้จักใกล้ชิดกันมาก่อน สามารถรู้จัก และมีปฏิสัมพันธ์ได้ข้ามโลก โดยในปจจุบันอาจเป็นเพียงภาพและเสียง และในอนาคตเชื่อว่าจะมีการพัฒนาให้ยิ่งขึ้นไปกว่านั้นแน่ๆ และมนุษย์ก็จะเอาชนะข้อจำกัดของระยะทางได้

The Matrix , Inception

อนาคต และชีวิตในโลกเสมือนจริง

อินเตอร์เน็ทในยุคนนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น ในอนาคตอันไกลออกไป อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าโลกอินเตอร์เน็ทจะเชื่อมต่อกับระบบประสาท และพามนุษย์ไปสู่ความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ เช่นโลกเสมือนจริงที่เห็นในหนัง The Matrix ที่มนุษย์สามารถมีอำนาจได้เหนือโลก เหาะเหินเดินดิน ใช่ตัวเองในการเล่นเกมแอ็คชั่นที่อลังการ และเกินจนตนาการในปัจจุบันได้ ,

 ที่มา : \http://flexmedia.co.th/main/2014/06/09/digital-adapter/