การทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน
ต่าง คนต่างมีฝันเป็นของตนเอง ซึ่งการอยากมีบ้านสักหลังก็เป็นความใฝ่ฝันของทุกคน แต่การซื้อบ้านสักหลังก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสมัยนี้บ้าน และที่อยู่อาศัยสมัยนี้มีราคาสูง และมีความยุ่งยาก มีหลากหลายขั้นตอนที่เราควรรู้ก่อนที่ คิดจะทำสัญญาจะซื้อจะขาย
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ คนที่ผ่านมาในอดีตก็คือ การวางเงินจองซื้อบ้านไว้แล้ว แต่ไม่ได้บ้านตามที่จอง เพราะผู้ขายไม่สามารถโอนขายบ้านให้ได้ หรือไม่สามารถมาทำสัญญาจะซื้อจะขายกันได้ ซึ่งโดยหลักการแล้ว เงินที่วางจองไว้ (เงินมัดจำ) หากผู้รับจองไม่สามารถโอนขายบ้านให้ได้ตามสัญญา ก็จะต้องคืนเงินมัดจำดังกล่าวให้แก่ผู้จอง แต่หากผู้จองไม่เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายภายในเวลาที่กำหนด ก็จะต้องสูญเสียเงินจอง (ริบเงินมัดจำ) ไป แบบนี้ก็ตรงไปตรงมาดี ใครผิดสัญญาคนนั้นก็ควรต้องรับผิดไป
แต่มีสัญญาจองบางอย่างที่มักจะมีข้อ ความเอาเปรียบผู้จองอย่างมาก เช่น ถ้าไม่ได้บ้านไม่ว่าเหตุใด ๆ ก็จะไม่มีการคืนเงินมัดจำ (ถือเป็นการเอาเปรียบกันอย่างมาก) ซึ่งในขณะนั้นคนจองส่วนมากก็ไม่ได้สนใจ เพราะอารมณ์อยากได้บ้านมีมากกว่า ในเวลานั้นถึงยังไงก็จะลงชื่อในใบจองอย่างเดียว
การจะจองซื้อบ้านแต่ละครั้งควรตรวจสอบสาระสำคัญในสัญญาจองดังนี้ก่อน
1.วันที่และสถานที่ทำสัญญาจอง (ต้องไม่ลืมดูวันที่ทำสัญญา)
2.ชื่อผู้จองและผู้รับจอง (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่) ต้องถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่ต้องมามีปัญหามาขอแก้ภายหลัง
3.รายการทรัพย์สินที่จะจอง เช่น ถ้าจองบ้านและที่ดิน ก็ให้ดูว่ามีข้อความครบถ้วนหรือไม่ ที่ดินโฉนดเลขที่เท่าไหร่ ควรจะระบุให้ชัดเจนด้วยนะครับ
4.ราคาทรัพย์สิน จำนวนเงินที่ต้องชำระ และวิธีการชำระเงิน (ต้องดูว่าตรงตามที่คุย หรือต่อรองกันไว้)
5.กำหนดวันทำสัญญาจะซื้อจะขาย และดูว่ามีข้อความว่าผู้จองได้อ่านสัญญาแล้วหรือยัง หากมีข้อความดังกล่าว ผู้จองก็ควรที่จะต้องอ่านสัญญาจะซื้อจะขายนั้นแล้วจริง ๆ หากยังไม่ได้อ่านก็ให้ขอมาอ่านก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการวางเงินมัดจำ เพื่อเข้าทำสัญญาที่เราไม่รู้จัก อาจมีการเขียนข้อความอะไรบางอย่างที่เราไม่ทราบ และไม่ได้ตกลงไว้ แบบนี้ไม่ดีแน่ แต่ถ้าหากว่าไม่มีสัญญาจะซื้อจะขายให้อ่าน ก็อย่าเพิ่งจองนะครับ
6.เงื่อนไขแปลกประหลาดอื่น ๆ ที่ผู้รับจองกำหนดขึ้นมา เช่น ไม่คืนเงินมัดจำไม่ว่ากรณีใด ๆ อะไรทำนองนี้ หากอ่านแล้วมีข้อสงสัย ก็ให้สอบถาม และขอให้แก้ไขเป็นข้อความที่เข้าใจง่ายจะดีกว่าครับ
ลองทำตามที่กล่าว จะได้เกิดความสบาย ใจในการเข้าทำสัญญาต่าง ๆ ไม่ว่าสัญญาอะไรก็ตามมักเกิดจากความตกลงของคู่สัญญาที่คิดเห็นตรงกัน หากว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งรับไม่ได้กับเงื่อนไข ก็ไม่ต้องไปเซ็นครับ เพราะหากมีการเซ็นแล้วเราก็ต้องรับผิดชอบตามข้อความของสัญญานั้น ๆ นะครับ