หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทศชาติชาดก : ชาติที่ 8 นารทชาดก ( อุเบกขาบารมี )

โพสท์โดย TORzKrub

พระนารทชาดก

 

     พระราชาองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า อังคติราช ครองเมืองมิถิลา เป็นผู้ที่ตั้งมั่นในทศพิธราชธรรม พระธิดาของพระเจ้าอังคติราชมีพระนามว่า 

รุจาราชกุมารี มีรูปโฉมงดงาม พระราชาทรง รักใคร่พระธิดา อย่างยิ่ง คืนวันหนึ่งเป็นเทศกาลมหรสพ ประชาชนพากัน ตกแต่งเคหสถาน
อย่างงดงาม พระเจ้าอังคติราช ประทับอยู่ท่ามกลางเหล่าอำมาตย์ในปราสาทใหญ่ ประดับประดาอย่างวิจิตรตระการ พระจันทร์กำลัง 
ทรงกลด เด่นอยู่กลางท้องฟ้า พระราชาทรงปรารภ กับหมู่อำมาตย์ว่า 

"ราตรีเช่นนี้น่ารื่นรมย์นัก เราจะทำอะไรให้ เพลิดเพลินดีหนอ" 

อลาตอำมาตย์ทูลว่า 

"ขอเดชะ ควรจะเตรียมกองทัพใหญ่ยกออกไปกวาดต้อนดินแดนน้อยใหญ่ ให้เข้า มาอยู่ในพระราชอำนาจพระเจ้าข้า" 

สุนามอำมาตย์ทูลว่า 

"ทุกประเทศใหญ่น้อยก็มาสวามิภักดิ์อยู่ในพระราชอำนาจหมดแล้ว ควรที่จะ จัดการเลี้ยงดู ดื่มอวยชัยให้สำราญ และหาความเพลิดเพลินจากระบำรำฟ้อนเถิดพระเจ้าข้า" 

วิชัยอำมาตย์ทูลว่า 

"ข้าแต่พระองค์ เรื่องการระบำ ดนตรีฟ้อนร้องนั้น เป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทอด พระเนตรอยู่แล้วเป็นนิตย์ ในราตรีอันผุดผ่องเช่นนี้ ควรไป
หาสมณพราหมณ์ผู้รู้ธรรม แล้วนิมนต์ ท่านแสดง ธรรมะจะเป็นการควรกว่าพระเจ้าค่ะ" 

พระราชาพอพระทัยคำทูลของวิชัยอำมาตย์ จึงตรัสถามว่า 

"เออ แล้วเราจะไปหาใครเล่าที่เป็น ผู้รู้ธรรม" 

อลาตอำมาตย์แนะขึ้นว่า 

"มีชีเปลือย รูปหนึ่ง อยู่ในมิคทายวัน เป็นพหูสูตร พูดจาน่าฟัง ท่านคงจะช่วยขจัดข้อสงสัยของเราทั้งหลายได้ ท่านมีชื่อว่า คุณาชีวก" 

พระเจ้าอังคติราชได้ทรงฟังก็ยินดี สั่งให้เตรียม กระบวน เสด็จไปหาชีเปลือยชื่อคุณาชีวกนั้น

  เมื่อไปถึงที่ ก็ทรงเข้าไปหาคุณาชีวก ตรัสถาม ปัญหาธรรมที่พระองค์สงสัยอยู่ว่า บุคคลพึงประพฤติธรรมกับบิดา มารดา อาจารย์ บุตร 
ภรรยาอย่างไร เหตุใดชนบางพวกจึงไม่ตั้งอยู่ในธรรม ฯลฯ คำถามเหล่านี้เป็น ปัญหาธรรมขั้นสูงอันยากจะตอบได้ ยิ่งคุณาชีวกเป็นมิจฉา 
ทิฏฐิผู้โง่เขลาเบาปัญญาด้วยแล้ว ไม่มีทางจะ เข้าใจได้ คุณาชีวกจึงแกล้งทูลไปเสียทางอื่นว่า 

"พระองค์จะสนพระทัยเรื่องเหล่านี้ไปทำไม ไม่มี ประโยชน์อันใดเลยพระเจ้าข้า โปรดฟังข้าพเจ้าเถิด ในโลกนี้ บุญไม่มี บาปไม่มี ปรโลก
ไม่มี ไม่มีบิดา มารดาปู่ย่า ตายาย สัตว์ทั้งหลายเกิดมาเสมอกัน หมด จะได้ดีได้ชั่วก็ได้เอง ทานไม่มี ผลแห่งทาน ก็ไม่มี ร่างกายที่ประ
กอบกันขึ้นมานี้ เมื่อตายไป แล้วก็สูญสลายแยกออกจากกันไป สุขทุกข์ก็สิ้นไป ใครจะฆ่า จะทำร้าย ทำอันตราย ก็ไม่เป็นบาป เพราะบาป
ไม่มี สัตว์ทุกจำพวก เมื่อเกิดมาครบ 84 กัปป์ก็จะบริสุทธิ์พ้นทุกข์ ไปเอง ถ้ายังไม่ครบ ถึงจะทำบุญทำกุศลเท่าไร ก็ไม่อาจบริสุทธิ์ไปได้ 
แต่ถ้าถึงกำหนด 84 กัปป์ แม้จะทำบาปมากมาย ก็จะบริสุทธิ์ไปเอง" 

พระราชาได้ฟังดังนั้นจึงตรัสว่า 

"ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้านี้โง่เขลาจริงๆ ข้าพเจ้ามัวหลงเชื่อว่า ทำความดี แล้วจะไปสู่สุคติ อุตส่าห์พากเพียร บำเพ็ญกุศลกรรม บัดนี้ข้าพเจ้า
ทราบแล้วว่า บุญไม่มี บาปไม่มี ผลกรรมใดๆ ไม่มีทั้งสิ้น บุคคลจะบริสุทธิ์เองเมื่อถึงกำหนดเวลา แม้แต่ การฟังธรรมจากท่านอาจารย์ก็ หา
มีประโยชน์ อันใดไม่ ข้าพเจ้าขอลาไปก่อนละ"

  เมื่อเสด็จกลับมาถึงพระราชวัง พระเจ้าอังคติราชก็มีพระราชโองการว่า ต่อไปนี้พระองค์ จะไม่ปฏิบัติราชกิจใดๆทั้งสิ้น เพราะการทั้งปวง 
ไม่มีประโยชน์ ไม่มีผลอันใด พระองค์จะแสวงหาความเพลิดเพลินในชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว ไม่อาทรร้อนใจกับผลบุญผลกรรมใด ๆ
ทั้งสิ้น จากนั้นก็เกิดเสียงเล่าลือไปทั้งพระนครว่า พระราชากลายเป็นมิจฉาทิฐิ คือ หลงผิด เชื่อคำของชีเปลือยคุณาชีวก บ้านเมืองย่อม
จะถึงความเสื่อม หากพระราชาทรงมีพระดำริดังนั้น ความนี้ทราบไปถึงเจ้าหญิง รุจาราชกุมารี ทรงร้อนพระทัยเมื่อทราบว่า พระบิดาให้รื้อ

โรงทานทั้งสี่มุมเมือง จะไม่บริจาคทานอีกต่อไป ทั้งยังได้กระทำการข่มเหงน้ำใจชาวเมืองมากมายหลายประการ ด้วยความที่ทรงเชื่อว่า 
บุญไม่มี บาปไม่มี บุคคลไปสู่สุคติเองเมื่อถึงเวลา เจ้าหญิงรุจาราชกุมารีจึงเข้าเฝ้าพระบิดา ทูลขอพระราชทานทรัพย์หนึ่งพัน เพื่อจะเอา
ไปทรงทำทาน พระบิดาเตือนว่า 

"ลูกรัก ทานไม่มีประโยชน์ดอก ปรโลกไม่มี เจ้าจะไม่ได้ผลอะไรตอบแทน หากเจ้า ยังถือศีลอดอาหารวันอุโบสถอยู่ ก็จงเลิกเสียเถิด ไม่มีผลดอกลูกรัก" 

รุจาราชกุมารีพยายามกราบทูลเตือนสติพระบิดา ว่า

"ข้าแต่พระชนก บุคคลกระทำบาปสั่งสมไว้ ถึงวัน หนึ่งเมื่อผลบาปเพียบเข้า บุคคลนั้นก็จะต้องรับผล แห่งบาปที่ก่อ เหมือนเรือที่บรรทุก
แม้ทีละน้อย เมื่อเต็มเพียบเข้า ก็จะจมในที่สุดเหมือนกัน ธรรมดาใบไม้ นั้นหากเอาไปหุ้มห่อของเน่าเหม็น ใบไม้นั้นก็จะ เหม็นไปด้วย หาก
ห่อของหอมใบไม้ นั้นก็จะหอม ปราชญ์จึงเลือกคบแต่คนดี หากคบคนชั่วก็จะพลอยแปดเปื้อน เหมือนลูกศรอาบยาพิษ ย่อมทำให้แล่ง
ศรแปดเปื้อนไปด้วย" 

ราชกุมารีกราบทูลต่อว่า 

"หม่อมฉันรำลึกได้ว่าในชาติก่อนได้เคยเกิดเป็นบุตรช่างทาง ได้คบหามิตรกับ คนชั่ว ก็พลอยกระทำแต่สิ่งที่ชั่วร้าย ครั้นชาติต่อมาเกิดใน
ตระกูลเศรษฐี มีมิตรดีจึงได้พลอย บำเพ็ญบุญบ้าง เมื่อตายไปผลกรรมก็ตามมาทัน หม่อมฉันต้องไปทนทุกข์ทรมาณในนรกอยู่เป็นเวลา 
หลายชาติ หลายภพ ครั้นได้เกิดเป็นมนุษย์ก็ต้องทน ทุกข์ลำเค็ญมากมาย กว่าจะใช้หนี้กรรมนั้นหมด และผลบุญเริ่มส่งผล จึงได้มาเกิด
ในที่ดีขึ้นเป็นลำดับ อันผลบุญผลบาปย่อมติดตามเราไปทุกๆ ชาติ ไม่มีหยุด ย่อมได้รับผลตามกรรมที่ก่อไว้ทุกประการ ขอพระบิดาจงฟัง
คำหม่อมฉันเถิด"

  พระราชามิได้เชื่อคำรุจาราชกุมารี ยังคงยึดมั่นตามที่ได้ฟังมาจากคุณาชีวก เจ้าหญิงทรงเป็นทุกข์ถึงผลที่พระบิดาจะได้รับเมื่อสิ้นพระชนม์ 
จึงทรงตั้งจิตธิษฐานว่า 

"หากเทพยดาฟ้าดินมีอยู่ ขอได้โปรดมาช่วยเปลื้องความเห็นผิดของ พระบิดาด้วยเถิด จะได้บังเกิดสุขแก่ปวงชน" 

ขณะนั้น มีพรหมเทพองค์หนึ่งชื่อ นารท เป็นผู้มีความกรุณาในสรรพสัตว์ มักอุปการะเกื้อกูลผู้อื่นอยู่เสมอ นารทพรหมเล็งเห็นความทุกข์
ของ รุจาราชกุมารี และเล็งเห็นความเดือดร้อนอันจะเกิด แก่ประชาชน หากพระราชาทรงเป็นมิจฉาทิฏฐิ จึงเสด็จจากเทวโลกแปลงเป็นบรรพ
ชิต เอาภาชนะทองใส่สาแหรกข้างหนึ่ง คนโทแก้วใส่สาแหรกอีกข้างหนึ่ง ใส่คานทาน วางบนบ่าเหาะมาสู่ปราสาท พระเจ้า อิงคติราช มาลอย
อยู่ตรงหน้าพระพักตร์ พระราชาทรงตกตะลึงตรัสถามว่า 

"ข้าแต่ท่าน ผู้มีวรรณะงามราวจันทร์เพ็ญ ท่านมาจากไหน" 

นารทพรหมตอบว่า 

"อาตมาภาพมากจากเทวโลก มีนามว่า นารท" 

พระราชาตรัสถามว่า 

"เหตุใดท่าน จึงมีฤทธิ์ลอยอยู่ในอากาศได้เช่นนั้น น่าอัศจรรย์"

"อาตมาภาพบำเพ็ญคุณธรรม 4 ประการ ในชาติก่อนคือ สัจจะ ธรรมะ ทมะ และจาคะ จึงมีฤทธิ์เดช ไปไหนได้ตามใจปรารถนา"

"ผลบุญมีด้วยหรือ ถ้าผลบุญมีจริงอย่างที่ท่านว่า ได้โปรดอธิบายให้ข้าพเจ้าทราบด้วยเถิด"

พระนารทพรหมจึงอธิบายว่า 

"ผลบุญมีจริง ผลบาปก็มีจริง มีเทวดา มีบิดามารดา มีปรโลก มีทุกสิ่งทุกอย่างทั้งนั้น แต่เหล่าผู้งมงายหาได้รู้ไม่" 

พระราชาตรัสว่า 

"ถ้าปรโลกมีจริง ขอยืมเงินข้าพเจ้าสักห้าร้อยเถิด ข้าพเจ้าจะใช้ให้ท่าน ในโลกหน้า" 

พระนารทตอบว่า 

"ถ้าท่านเป็นผู้ประพฤติธรรม มากกว่าห้าร้อยเราก็ให้ท่านยืมได้ เพราะเรารู้ว่าผู้อยู่ในศีลธรรม ผู้ประพฤติกรรมดี เมื่อเสร็จจากธุระแล้วก็ย่อม
นำเงินมาใช้คืนให้เอง แต่อย่างท่านนี้ตายไปแล้วก็จะต้องไปเกิดในนรก ใครเล่าจะตามไปทวงทรัพย์คืนจากท่านได้"

  พระราชาไม่อาจตอบได้ จึงนิ่งอั้นอยู่ นารทพรหม ทูลว่า 

"หากพระองค์ยังทรงมีมิจฉาทิฏฐิอยู่ เมื่อสิ้นพระชนม์ ก็ต้องไปสู่นรก ทนทุกขเวทนาสาหัส ในโลกหน้าพระองค์ก็จะต้องชดใช้ผลบาปที่
ได้ก่อไว้ ในชาตินี้" 

พระนารทได้โอกาสพรรณนาความทุกข์ ทรมานต่างๆ ในนรกให้พระราชาเกิดความสะพรึงกลัว เกิดความสยดสยองต่อบาป พระราชา
ได้ฟังคำพรรณนา ก็สลดพระทัยยิ่งนัก รู้พระองค์ว่าได้ดำเนินทางผิด จึงตรัสว่า 

"ได้โปรดเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าด้วยเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าเกิดความกลัวภัยในนรก ขอท่านจง เป็นแสงสว่างส่องทางให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด โปรด 
สอนธรรมะให้แก่ข้าพเจ้าผู้ได้หลงไปในทางผิด ขอจง บอกหนทางที่ถูกต้องแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด" 

พระนารทพรหมฤษีจึงได้โอกาสตรัสสอนธรรมะ แก่พระราชาอังคติราช ทรงสอนให้พระราชาตั้งมั่น ในทานในศีลอันเป็นหนทางไปสู่สวรรค์
เทวโลก แล้วจึงแสดงธรรมเปรียบร่างกายกับรถ เพื่อให้พระราชาทรงเห็นว่า รถที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนอันดี อันถูกต้องแล่นไปในทางที่ราบ
ลื่น มีสติเป็นประดุจปฏัก มีความเพียรเป็นบังเ...ยน และมีปัญญาเป็นห้ามล้อ รถอันประกอบด้วยชิ้นส่วนอันดีนั้นก็จะแล่นไปในทางที่ถูก
ต้อง โดยปราศจากภัยอันตราย พระราชาอังคติราชทรงละมิจฉาทิฏฐิคือความเห็นผิดละหนทางบาป นารถพรหมฤษีจึงถวายโอวาทว่า 

"ขอพระองค์จงละ บาปมิต คบแต่กัลยาณมิตร อย่าได้ทรงประมาทเลย" 

ในระหว่างนั้น พระนารทพรหมฤษีได้อันตรธานหายไป พระราชาก็ทรงตั้งมั่นในศีล ในธรรม ทรงเริ่มทำบุญทำทาน ทรงเลือกคบแต่ผู้ที่จะ 
นำไปในทางที่ถูกที่ควร เมื่อพระราชาทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม ประชาชนก็มีความสุข บ้านเมืองสงบ ร่มเย็น สมดังที่พระนารทพรหมฤษี
ทรงกล่าวว่า

" จงละบาปมิตร จงคบกัลยาณมิตร จงทำบุญละจากบาป ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเถิด "

คติธรรม : บำเพ็ญอุเบกขาบารมี

"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีย่อมได้ดี ทำผิดบาปย่อมได้ชั่วช้าสามานย์เป็นผลตอบ และการคบมิตรสหายนั้นก็จะส่งผลดีเลวแก่ตัว
บุคคลนั้นด้วย"

 

ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านครับ _/\_

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
TORzKrub's profile


โพสท์โดย: TORzKrub
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
48 VOTES (4/5 จาก 12 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มอินโดช็อก!! แต่งงานไป 12 วัน เพิ่งรู้ว่าเมียเป็นผู้ชาย3 ราศีที่ชีวิตไม่ขาดแคลนเงินดวงมี..แต่แขนสั้นไปหน่อย ?🤤😲รัสเซียออกหมายจับผู้นำยูเครนแล้ว!!ที่มาของชื่อ "หาดใหญ่" เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้นางเอก Doctor X เผย "ฉันป่วยหนักมา 5 ปีแล้ว"อย่าล้อเล่นกับแดดเมืองไทย..สาวไปซื้อไข่ไก่ ตอกมาเป็นไข่ลวกยกแผงเกือบโดนทัวร์ลงมั๊ยละ ลุงนั่งหลับคาพวงมาลัย..แต่พอได้ดูจบแล้ว คดีพลิกทันทีหนุ่มจีนกลั้นใจใต้น้ำก่อนดับสลด โดยมีไลฟ์การ์ดยืนหัวเราะลั่น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวเน็ตญี่ปุ่นไปพักโรงแรม แล้วรู้สึกหลอนมาเมื่อเห็นห้องพักดวงมี..แต่แขนสั้นไปหน่อย ?🤤😲ลิซ่าก็แค่มาโบกธงที่ F1อย่าล้อเล่นกับแดดเมืองไทย..สาวไปซื้อไข่ไก่ ตอกมาเป็นไข่ลวกยกแผงประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากที่สุด
ตั้งกระทู้ใหม่