เรื่องโคมไฟในมือของสาวตาบอด สอนอะไรคุณบ้าง
กาลครั้งหนึ่งมีหญิงสาวคนงานตาบอดคนหนึ่งเลิกงานตอนดึกมากแล้วจะกลับบ้าน เจ้านายก็เลยนำเอาไฟนำทางมาให้เพื่อให้เธอส่องทาง แต่หญิงสาวกลับพูดว่า
“ดิฉันตาบอดจะเอาโคมไฟไปทำอะไร”
เจ้านายก็ตอบว่า “ที่ให้ถือโคมไฟ ก็เพื่อให้คนอื่นที่เดินผ่านไปมามองเห็นตัวเธอไง จะได้ไม่เดินมาชนไงล่ะ”
พนักงานสาวตาบอดฟังแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงรับโคมไฟมาถือ จากนั้นก็เดินคลำทางไปเรื่อยๆ เพื่อกลับบ้านพอเดินถึงครึ่งทาง เธอก็ได้เดินชนกับคนคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
“นี่ ไม่มีตาหรือไง ไม่เห็นโคมไฟที่ฉันถือมาหรือไง สงสัยตาจะบอดนะ” หญิงสาวต่อว่าด้วยความโกรธ
“เธอน่ะสิที่ตาบอด โคมไฟไม่เห็นจะมีไฟเลย” ชายคนนั้นตอกกลับอย่างโกรธๆ เช่นกัน
อ่านจบแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ
ปกติคนเรามักจะรู้เรื่องของตนเองแบบไม่ค่อยจริงจังซักเท่าไร แต่ชอบทำตนเป็นผู้รู้ดีในเรื่องของคนอื่น ชอบที่จะว่ากล่าวตักเตือนคนอื่นๆ ไปทั่ว แต่ลืมที่จะมองกลับมาที่ตัวเองว่า จริงๆ แล้วเราเองรู้จริงๆ หรือไม่จริงกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นยังชอบที่จะมองว่าคนอื่นนั้นโง่กว่าตนอีกด้วย