หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คุณทองแดง

โพสท์โดย เกย์อิโชว์


      พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชดำริว่า ทองแดงเป็นสุนัขธรรมดาที่ไม่ธรรมดา มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันนับว่ากว้างขวาง มีผู้เขียนเรื่องทองแดงก็หลายเรื่อง แต่น่าเสียดายว่าเรื่องที่เล่า มักมีความคลาดเคลื่อนจากความจริง และขาดข้อมูลสำคัญบางประการ โดยเฉพาะเกี่ยวกับความกตัญญูรู้คุณของทองแดงที่มีต่อ "แม่มะลิ" ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงยกย่องว่า "ผิดกับคนอื่นที่เมื่อกลายมาเป็นคนสำคัญแล้ว มักจะลืมตัว และดูหมิ่นผู้มีพระคุณที่เป็นคนต่ำต้อย"

      ทองแดงเป็นสุนัขที่มีสัมมาคารวะ และมีกิรกยามารยาทเรียบร้อย เจียมเนื้อ เจียมตัว รู้จักที่ต่ำที่สูง เวลาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะนั่งต่ำกว่าเสมอ แม้จะทรงดึงตัวขึ้นมากอด ทองแดงก็จะทรุดตัวลงหมอบกับพื้น และทำหูลู่อย่างนอบน้อม คล้ายๆ กับแสดงว่า "ไม่อาจเอื้อม"

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      คุณสมบัติของทองแดงที่กล่าวนี้ น่าจะมาจากนิสัยของแม่แดง ซึ่งแม้จะเป็นสุนัขเร่ร่อนต่ำต้อย จนถูกเจ้าหน้าที่ กทม. จับไปรอวันตายที่ทุ่งสีกัน เมื่อโชคดีได้รับอุปการะอยู่ในบ้าน ก็ได้วางตัวเหมาะสมอย่างมหัศจรรย์ โดยเฉพาะในด้านเคารพสุนัขอาวุโส ที่แม้จะเคยรังแก แม่แดงก็ไม่เคยโต้ตอบหรือเคียดแค้น ทุกครั้งที่พบก็จะวิ่งเข้าไปหมอบคารวะผู้ใหญ่เช่นเดิม

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

    เรื่อง สุนัขสามตัวนี้ คือ แดง มะลิ และทองแดง แสดงว่า สุนัขจรจัดมีคุณสมบัติที่น่าปรารถนา สำหรับเป็นสุนัขเลี้ยงในบ้าน สุนัขจรจัดที่มีผู้เมตตารับเลี้ยงส่วนมากมักจะเจียมเนื้อเจียมตัว และมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นพิเศษเ สมือนสำนึกในบุญคุณ ทั้งยังฉลาดไม่แพ้สุนัขนอก บางตัวก็สวยงาม หรือมีความโดดเด่นสง่างาม เช่น ทองแดง เป็นต้น

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      ในประเทศไทยมีหลายแสนตัวที่จะเลือกได้ ความจริงมีล้นเหลือ แต่ถ้าหากเจ้าหน้าที่ทางราชการจะช่วย ก็จะมีผู้ที่ยินดีอย่างยิ่งในการเปิดบ้านต้อนรับสุนัขเหล่านี้ จะเป็นการช่วยแก้ปัญหาสุนัขเร่ร่อนซึ่งเป็นอันตราย นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงหรูหราราคาแพง ซึ่งทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งหันมาพัฒนาสายพันธุ์ไทย ที่ฉลาดน่ารัก และซื่อสัตย์ ที่มีอยู่มากมาย

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

  เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจิมศิลาฤกษ์ คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา และทอดพระเนตรแปลงผักบริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา ซึ่งปัจจุบันนี้คือ ร้านโกลเด้นเพลซ พระรามเก้า เขตวังทองหลาง ในการเตรียมรับเสด็จครั้งนั้น เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้มาจัดการทำความสะอาด และดูแลความเรียบร้อยในบริเวณที่จะเสด็จพระราชดำเนินผ่าน

คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา

    ในบริเวณคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา และหมู่บ้านข้างคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา มีสุนัขจรจัดอยู่หลายตัว แต่ที่ชาวบ้านเลี้ยงดูให้อาหารเป็นประจำ มีอยู่ ๔ ตัว ซึ่งมีชื่อเรียกกันตามสี และลักษณะของสุนัข คือ "ดำใหญ่ " (สุนัขเจ้าถิ่นจอมเจ้าชู้ซึ่งต่อมานำไปทำหมัน) " ดำเล็ก " (หายไปเพราะถูกดำใหญ่รังแก) "เป๋ " (สุนัขพิการ) และ "ด่าง" (สีขาวด่างน้ำตาล)

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      เมื่อเจ้าหน้าที่ กทม. มาเตรียมงาน ก็ได้จับสุนัขทั้ง ๔ ตัวไปด้วย ชาวบ้านที่เคยให้อาหารสุนัขเป็นประจำก็โวยวายขึ้น เพราะมีความผูกพันกับสุนัขเหล่านี้ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงรับสั่งให้แพทย์ที่คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนาติดต่อ กทม. ให้นำสุนัขมาคืน สร้างความสับสน และความไม่พอใจให้กับพนักงานฯ ที่มาจับสุนัขไป เพราะคนหนึ่งสั่งให้จับไป อีกคนหนึ่งให้นำมาคืน ทั้งๆที่สุนัขเดินทางไปเกือบถึงทุ่งสีกันแล้ว แต่เมื่อมีวิทยุให้มาคืน จึงนำมาคืนโดยแถมมาให้อีก ๒ ตัว ไม่มีผู้ใดทราบว่าสุนัข ๒ ตัวนี้มาจากไหน

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      ดังนั้นสุนัขทั้งหมดจึงได้กลับ "บ้าน" ที่เคยอาศัยอยู่ ในวันที่เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงเจิมศิลาฤกษ์อาคารคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทอดพระเนตรเห็น "ดำใหญ่" วิ่งอยู่ข้าง ๆ ทางเสด็จพระราชดำเนิน ดำใหญ่ ต้องไปทำหมันเ พราะบังอาจลอบไปจีบสาวโกลเด้นรีทรีเว่อร์ในหมู่บ้านไปได้ ๒ ตัว ทำให้มีลูกสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีเว่อร์ออกมาเป็นสีดำ ทั้งหมด ๑๕ ตัว (๙ + ๖) กลายเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ "ตระกูลดำใหญ่" ยังความหงุดหงิดให้แก่เจ้าของบ้านเป็นยิ่งนัก

๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ 
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

       ทองแดง มีลักษณะต่างจากพี่น้อง คือมีลักษณะเด่นที่ทำให้ทองแดงได้เข้าเฝ้า ถวายตัว คือมีสายสร้อยรอบคอครึ่งเส้น ถุงเท้าขาวทั้ง ๔ ขา หางม้วน ที่สำคัญที่สุด คือ จมูกแด่น และหางดอกสีขาว เช่นเดียวกับ "ทองดำ" สุนัขหลวง ซึ่งเกิดวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงทรงรับลูกสุนัขตัวน้อยนี้ไว้ เพื่อเป็น "แฟน" ทองดำ และพระราชทานชื่อสุนัขว่า "ทองแดง" เพราะมีสีน้ำตาล และเพื่อให้สอดคล้องกับ "ทองดำ" ซึ่งมีสีดำ "ทองแดง" ได้เข้าสวนจิตรฯ ถวายตัวเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๔๑ เมื่อมีอายุเพียง ๕ อาทิตย์ และกลายเป็น "คุณทองแดง" อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า ทองแดง จะเป็นคู่หมายของทองดำตั้งแต่ก่อนเข้าวัง แต่ในที่สุดคู่ที่แท้จริงของทองแดง ก็คือ "ทองแท้" หนุ่ม "บาเซนจิ" และมีลูกด้วยกัน ๙ ตัว เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๔๓ ทั้งนี้เพราะว่าทองแดงมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์ "บาเซนจิ"

"แดง" แม่ของ "ทองแดง" 
ประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๑
คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา

       โดยที่ยังเด็กมากเมื่อมาอยู่ที่สวนจิตรฯ ทองแดงจึงต้องอาศัยกินนม "แม่มะลิ" หมาเทศ (ภริยาของ "สุดหล่อ" สุนัขดัลเมเชี่ยล) แม่ของ "ทองดำ" และพี่น้องทั้ง ๙ ตัว ซึ่งพึ่งเกิด วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ หลังทองแดง ๑ วัน ส่วนพี่น้องของทองแดง ชาวบ้านก็ช่วยกันรับมาเลี้ยงดูในบ้าน "แดง" จึงได้เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับลูกอีก ๒ ตัว และน้องอีกตัวหนึ่งก็ได้อยู่บ้านหลังตรงกันข้าม อีกสองตัวมีผู้มาขอไปเลี้ยงเช่นเดียวกัน ส่วนสุนัขที่เป็นตัวผู้ตัวเดียว ได้รับพระราชทานชื่อว่า "ทองเหลือง" โชคดีได้อยู่บ้านที่เจ้าของเป็นข้าราชบริพาร ดังนั้น "แดง" และลูกๆ ทั้งหมดจึงเปลี่ยนสภาพจาก "หมาเทศ" (เทศบาล) มาเป็น "หมาบ้าน" เต็มตัว

"ทองแดง" "คาลัว" "หนุน" "ทองเหลือง" 
"ละมุน" (ตัวผู้ตัวเดียว) "โกโร" และ "โกโส"
ประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๑
คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา

      วันที่ทองแดงมาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทองแดงร้องไห้ตลอดทางที่มาจากวังทองหลาง อาจเป็นเพราะคิดถึงแม่ หรือว้าเหว่เพราะยังเด็กมาก แม้ผู้นำมาจะได้ป้อนนม และขนมก็ไม่หยุดร้อง แม้อุ้มไว้บนตักหรืออุ้มเดินไปมา ทองแดงก็ยังไม่หยุดร้อง แต่น่าประหลาดที่เมื่อถวายตัวแล้ว ทองแดงก็หลับสนิทอย่างหมดกังวล คลายความหวาดกลัว และความว้าเหว่ทั้งมวล

      จากลักษณะของ ทองแดง คือมีหางที่ม้วนหนึ่งรอบครึ่ง ประกอบกับมีหางดอกสีขาว และมีรูปร่างสูงเพรียว และสง่างาม คล้ายกับสุนัขพันธุ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัฯว ทรงระลึกว่าเคยทอดพระเนตรเห็นในหนังสือเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ต่างๆ เมื่อทรงค้นในหนังสือเล่มนั้น ก็ปรากฏว่า "ทองแดง" มีลักษณะบางประการคล้ายคลึงกับสุนัขพันธุ์ "บาเซนจิ" ทำให้สนพระทัยยิ่งขึ้น และทรงค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับบาเซนจิ เพราะเป็นสุนัขที่ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในเมืองไทย ทรงหาหนังสือเกี่ยวกับบาเซนจิหลายเล่ม รวมทั้งข้อมูลจากอินเทอร์เนต เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประวัติของบาเซนจิ และทรงพบว่า ปัจจุบันถือว่า "บาเซนจิ" เป็นสุนัขพันธุ์โบราณ มีถิ่นกำเนิดบริเวณแอฟริกากลาง เดิมอยู่ประเทศคองโก ใช้งานในการล่าสัตว์ โดยมีหน้าที่ชี้ตำแหน่งสัตว์ เก็บสัตว์ที่ถูกยิงแล้ว และไล่ต้อนสัตว์ให้ไปติดตาข่าย และมีรูปสลักภายใน "พีระมิด ซาการ่า" ที่ประเทศอียิปต์มาประมาณสี่พันปีแล้ว แสดงรูปสุนัขกัดแอนติโลปตัวย่อมๆ และมีรูปหินสลักฟาโรห์ เรนู และราชินี เดเด็ต (Pharaoh Ranu and Queen Dedet) ใต้ที่ประทับของฟาโรห์ มีสุนัขพันธุ์บาเซนจิหมอบอยู่ น่าแปลกที่เมื่อทองแดง ยังตัวเล็กอยู่ เวลามาเฝ้าฯ จะหมอบอยู่ใต้ที่ประทับแบบนี้เสมอ

 

      ทรงค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับลักษณะนิสัยใจคอของ "บาเซนจิ" อย่างถี่ถ้วนจนนับว่าทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับ "บาเซนจิ" มากที่สุดในประเทศไทย ทรงเข้าพระทัยจิตวิทยาของ "บาเซนจิ" ว่าควรจะดูแลอย่างไร เพราะถ้ำไม่เข้าใจนิสัยใจคอแล้ว จะรู้สึกว่าบาเซนจิเป็นสุนัขดื้อ จะต้องใช้ความละมุนละม่อม จึงทรงสอน และแสดงให้พี่เลี้ยง และครูฝึกที่ดูแลสุนัขที่มีเชื้อสายพันธุ์บาเซนจิว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร เช่น เมื่อเริ่มการฝึกครั้งแรกๆ ทองแดงจะตื่นกลัวเมื่อใช้สายโซ่ฝึก จนครูฝึกคิดว่าจะฝึกทองแดงไม่ได้แล้ว แต่เมื่อใช้ความละมุนละม่อมก็สามารถฝึกทองแดงได้อย่างง่ายดาย และทำได้ดีด้วย และอยู่ในระเบียบวินัยดีกว่าสุนัขที่ฝึกมาแล้วหลายตัว เมื่อครูฝึกจูงสุนัขมาตั้งแถวคอยรับเสด็จฯ ซึ่งมักจะมีจำนวนห้าตัวขึ้นไป เมื่อใกล้เวลาเสด็จฯ ทองแดงจะนั่งตรง ตาจ้องตรงไปยังจุดที่จะเสด็จลง ไม่วอกแวก ขณะที่สุนัขบางตัวลงนอนบ้าง หันซ้ายหันขวาบ้าง

๒๖ กันยายน ๒๕๔๒
ณ วังไกลกังวล

      ดังที่ทราบกันว่า ลักษณะเด่นของสุนัขพันธุ์บาเซนจิคือ "ไม่เห่า" และ "ไม่มีกลิ่นตัว" ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ มีท่วงท่าสง่างาม ราวกับม้าพันธุ์ดี ทองแดงก็มีลักษณะเช่นนั้น คือว่างสวย หลังตรง ท่าสง่า ไม่ว่าจะวิ่งแบบ "เหยาะๆ" หรือวิ่งแบบ "ควบ" ก็ตาม เวลายืน ทองแดงก็วางท่าสง่างามเช่นเดียวกัน เมื่อประทับอยู่ที่เขื่อนริมทะเลหน้าพระตำหนัก ที่วังไกลกังวล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชประสงค์ที่จะถ่ายรูปทองแดง จะรับสั่งว่า "ทองแดงขึ้นไปยืนนิ่งบนเขื่อนแล้วทำท่าโก้หน่อยจะถ่ายรูป" ทองแดงจะขึ้นไปยืนนิ่งบนเขื่อนให้ทรงถ่ายรูปโดยดี

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      ส่วนที่กรุงเทพฯ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จลงทรงพระดำเนินออกกำลังพระวรกายรอบสระ หน้าพระตำหนักจิตรลดาฯ ทองแดงก็มีหน้าที่นำเสด็จหลังจากนั้น ก็เสด็จฯ ไปทรงพักผ่อนที่สนาม และมีโอกาสทรงถ่ายรูปทองแดงในอิริยาบถต่างๆ ดังนั้น จึงมีรูปที่ทองแดงวาง "ท่าโก้" หลายรูป ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าทองแดง มีลักษณะเด่นเช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์บาเซนจิหลายประการ ดังที่กล่าวมาแล้วคือ "ไม่เห่า" "ไม่มีกลิ่นตัว" และ "ท่าทางสง่างาม" แต่เมื่อทรงเปรียบเทียบทองแดงกับบาเซนจิแล้ว ทองแดงมีขนาดตัวใหญ่กว่า,เซนจิ จึงทรงเรียกว่า "ไทยซูเปอร์บาเซนจิ" ทองแดงเป็นสุนัขที่หน้าตาเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ เมื่อมาใหม่ๆ ทองแดง มีหน้าสั้น หูตก ตาโต เหมือนลิงอเมริกาใต้ (ซาปาจู) แต่เมื่อโตขึ้นหน้าจะยาวขึ้น หูตั้ง หน้าตากลายเป็นคล้ายสุนัขตำรวจ ( แอลเซเชี่ยน) แสดงว่าทองแดงมีว่านผสมสุนัขหลายพันธุ์เช่นเดียวกับ "สุนัขพันทาง" ทั้งหลาย

๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      ทองแดงมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นเอย่างยิ่งเวลาที่เข้าเฝ้าฯ ทองแดงจะหมอบในท่าประจำ คือไขว้มือ หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงขยับพระองค์ หรือแม้แต่ทรงกระแอม ทองแดงจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างระวังระไว เมื่อมีผู้มาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทองแดงจะหมอบเฝ้าฯ อยู่ที่พระบาท ไม่วิ่งไปไหน และจะหมอบขวางอยู่ตรงกลาง ระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และผู้มาเฝ้าฯ ถ้าเฝ้าฯ อยู่นาน ทองแดงจะเงยหน้าขึ้นมองพระพักตร์และผู้มาเฝ้าฯ พร้อมกับถอนใจยาว แต่ไม่ลุกไปไหน      

๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๓
ณ วังไกลกังวล

     โดยปกติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงพระดำเนินออกกำลังพระวรกาย หรือเสด็จฯ ไปเยี่ยม "เด็กๆ" ตามที่ทรงเรียกสุนัข โดยมีสุนัขที่เข้าเวรตามเสด็จครั้งละ ๒-๓ ตัว มีบางตัว อย่างทองแดง เป็นต้น จะวิ่งลาดตระเวนไปก่อน ถ้าพบสุนัขอื่นพลัดเข้ามา ก็จะไล่ไป ทองแดงวิ่งล่วงหน้าไปแล้ว วิ่งย้อนกลับมาเป็นเส้นทางรอบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สุนัขบางตัวจะเดินขนาบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ ทองแดงจะหยุดเฝ้าฯ อยู่ใกล้ แต่จะหันหน้าไปด้านนอกเสมือนทำหน้าที่องครักษ์ มิได้มาคลอเคลียอยู่กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ส่วนสุนัขบางตัวจะกระโดดขึ้นมานั่งเคียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หรือแม้บนพระเพลา แต่ทองแดงไม่เคยขึ้นมานั่งตีเสมอเลย ยกเว้นเวลาตามเสด็จในรถพระที่นั่ง ซึ่งคงถือว่าเป็นการทำหน้าที่อย่างหนึ่ง ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประทับพักอยู่ สุนัขบางตัวมักจะวิ่งห่างออกไป เมื่อจะเสด็จฯ ต่อไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะรับสั่งเบาๆ ว่า "แถว" มิได้รับสั่งแบบออกคำสั่งกับสุนัขโดยทั่วไป ไม่นานสุนัขทั้งหลายก็จะวิ่งมาประจำที่อย่างรวดเร็ว ผู้ตามเสด็จบางคนบอกว่า ทองแดงเป็นผู้ประสานงาน "เรียกแถว" ถวาย

๓๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ณ วังไกลกังวล

      บางครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงขับรถพระที่นั่งเอง ทองแดงจะตามเสด็จ เมื่อทรงเปิดประตูรถ และรับสั่งว่า "ทองแดง ขึ้นรถ" ทองแดงก็จะกระโดดขึ้นมายืนบนเบาะข้างคนขับ รับสั่งว่า "ทองแดง นั่งลง" ทองแดงก็จะนั่งลบบนเบาะ วางท่าโก้ มองตรงไปข้างหน้า บางครั้งทองแดงจะไปยืนคอยตามเสด็จฯ ถ้ายังมีรับสั่งกับผู้ตามเสด็จอยู่ เมื่อประตูเปิด ทองแดงก็กระโดดขึ้นนั่งทันที มีครั้งหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จฯ เป็นทางการ พอประตูรถเปิดทองแดงก็กระโดดขึ้นนั่ง ต้องรับสั่งวา "ทองแดงลงมาก่อน ตอนนี้ไปทำงานเดี๋ยวกลับมา" ทองแดงรีรออยู่นิดหนึ่ง จึงลงจากรถ

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ณ วังไกลกังวล

      มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จไปทรงทำพระทนต์ที่รถทันตกรรมเคลื่อนที่ ทองแดงนั่งคอยอยู่นอกรถ จ้องเขม็งไม่ยอมไปไหน ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ต่อมาเมื่อเสด็จฯ ทรงทำพระทนต์อีกคราวหนึ่ง ทองแดงได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปตรวจดูรถ (แค่ประตูห้องทำฟัน) เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รับสั่งว่า "ทองแดง ลงไปได้แล้ว" ทองแดงก็เดินลงจากรถโดยดี ทำให้ทันตแพทย์รู้สึกทึ่งในความฉลาดและความจงรักภักดีของทองแดง

๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      ทองแดงมีความจงรักภักดีและผูกพันต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อย่างยิ่ง ปกติเมื่อเสด็จพระราชดำเนินจากหัวหินมาประทับ ณ สวนจิตรลดาฯ หรือจากสวนจิตรลดาฯ ไปหัวหิน เพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ จะมีการผลัดเวรสุนัขที่จะตามเสด็จ มีครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงงานที่สวนจิตรฯ นานไปหน่อย และทองแดงไม่ได้ตามเสด็จฯ ระหว่างนั้นทองแดงก็ป่วย น้ำหนักลดมาก จนต้องส่งเข้าไปโรงพยาบาล นายสัตวแพทย์ผู้ดูแล ตรวจร่างกายทองแดงอย่างละเอียด ไมพบว่ามีโรคอะไร คุณหมอจึงสรุปว่า ทองแดงเป็นโรค "เครียด" เหตุที่ "คิดถึง" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คุณหมอบอกว่า ทองแดงเป็นสุนัขเงียบ ไม่ค่อยแสดงออก ดังนั้น ความเครียดจึงมีผลมากต่อร่างกาย จากนั้นมา ทองแดงจึงได้ตามเสด็จเสมอ

๕ สิงหาคม ๒๕๔๓
ณ วังไกลกังวล

      ข้างถนนริมทะเลหน้าพระตำหนักที่ประทับที่วังไกลกังวล หัวหิน มีต้นมะพร้าวสองแถว แถวหนึ่งต้นสูง อีกแถวต้นเตี้ย เมื่อต้นมะพร้าวมีผล เจ้าหน้าที่จะสอยลูกมะพร้าวของต้นสูงลง เกรงว่าจะหล่นลงโดนคนที่เดินข้างใต้ ส่วนลูกมะพร้าวของต้นเตี้ยที่ห้อยย้อยค่อนข้างต่ำ ก็ไม่ต้องสอยลงมา มีความสูงขนาดที่ทองแดงสามารถปีนถึง ทองแดงชอบเก็บมะพร้าว เวลาเก็บมะพร้าว ทองแดงจะยืนสองขาใช้ขาหน้าทั้งสองจับลูกมะพร้าว แล้วหมุนๆ แบบเดียวกับลิงเก็บมะพร้าว เมื่อลูกมะพร้าวหล่นจากขั้วแล้ว ทองแดงจะใช้ขาหน้าข้างหนึ่งเหยียบลูกมะพร้าวไว้ แล้วใช้หันฉีกเปลือกมะพร้าวทีละชิ้นๆ ทองแดงจะกัดตรงขั้วแล้วฉีกถึงกะลา แล้วเจาะที่ตามะพร้าวจนถึงน้ำ และเลียน้ำมะพร้าว การปอกมะพร้าวต้องใช้ความเพียร และความอดทนอย่างยิ่ง เพราะกว่าจะสำเร็จจะใช้เวลานาน บางครั้งจะมีเลือดออกมาติดอยู่กับลูกมะพร้าว ทองแดงไม่สงวนลิขสิทธิ์การปอกมะพร้าว แล้วยังสอนลูกๆ หรือน้องๆ ที่อยู่ด้วย จะเห็นภาพสุนัขหลายตัวแทะมะพร้าวได้มากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่มีใครอดทนและมุ่งมั่นอย่างทองแดง จึงเลิกสนใจเสียกลางคัน

๓ กรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ วังไกลกังวล

     ทองแดงเป็นสุนัขที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ ไม่เคยลามปามสุนัขตัวอื่นเช่นลูกๆ ของทองแดง เมื่อเข้าเฝ้าฯ ก็จะแสดงความดีใจ โดยกระโดดขึ้นนั่งบนพระเพลาแล้วเลียพระพักตร์ ทองแดงไม่เคยทำเช่นนั้นเลย เวลาเฝ้าฯ จะนั่งอยู่ต่ำกว่าเสมอ แม้จะทรงดึงตัวขึ้นมากอด ทองแดงก็จะหมอบลงกับพื้น และทำหูลู่อย่างนอบน้อม เจียมเนื้อเจียมตัว คล้ายๆ กับแสดงว่า "ไม่อาจเอื้อม" เมื่อจะแสดงความจงรักภักดี ทองแดงจะเลียพระพักตร์อย่างหนักหน่วงและเนิ่นนาน แบบที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเรียกว่า "เลียอย่างเป็นกิจการ" คือเอาจริงเอาจัง

๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕
ณ วังไกลกังวล

      ท่าหมอบเฝ้าฯ ประจำของทองแดงแบบประสานมือไว้ข้างหน้า เป็นที่คุ้นเคยดีสำหรับผู้ที่เคยพบเห็น มีข้าราชบริพารผู้หนึ่งกล่าวว่า ถ้าจะดูการหมอบเข้าเฝ้าฯ อย่างถูกต้อง ให้ดูทองแดง

๓ มิถุนายน ๒๕๔๓
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

      การที่ทองแดงเป็นที่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ได้ทำให้ทองแดงผยองหรือเบ่ง ตรงกันข้าม ทองแดงกลับมีสัมมาคารวะ ไม่คุกคามผู้ใด คนที่เคยเห็นทองแดงเมื่อเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครั้งแรกจะกลัวทองแดง เพราะหน้าตาดุ แต่แท้จริงแล้ว ทองแดงไม่ดุ นิสัยดี เป็นมิตรกับใครจะแสดงออกโดยการเลียมือ ดังนั้นเป็นที่เอ็นดูของผู้คนในวัง และผู้อื่นที่เคยได้พบ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เกย์อิโชว์'s profile


โพสท์โดย: เกย์อิโชว์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
240 VOTES (4/5 จาก 60 คน)
VOTED: หุ่นเชิดสังหาร, cutiebarbie, จีจี, Lay
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลิซ่าเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะฮ่องกงเตือนภัยพายุระดับสีแดง หลังฝนตกน้ำท่วมหนักภาพที่เห็นไม่ใช้เส้นมาม่า..แต่มันคือต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่า! ทำให้เห็นระบบลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของต้นไม้จากรากสู่ใบพายุลูกเห็บถล่ม ไก่ตาย 2 หมื่นตัว สูญเงิน 3 ล้านตำรวจหญิงชาวจีนเป็นไวรัล เนื่องจากสวยหนักมาก!!วิธีต้มไข่แบบประหยัดไฟและน้ำ"ฉบับญี่ปุ่น"ดราม่า โง่หรือฉลาดที่ไปฟัง "เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์"ทำไม BTS สถานีชิดลม บนชานชาลา ถึงมีกำแพงรั้วมาปิดกั้น?เกิดเหตุกราดยิงที่ฝรั่งเศส
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คอนเสิร์ต AREA 52 "แบมแบม" สุดยิ่งใหญ่ ราชมังแตกเลยจ้าดราม่า โง่หรือฉลาดที่ไปฟัง "เดี่ยว สเปเชียล ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์"ลดน้ำหนัก จนสร้างสถิติลงบันทึกในกินเนสส์พายุลูกเห็บถล่ม ไก่ตาย 2 หมื่นตัว สูญเงิน 3 ล้าน
ตั้งกระทู้ใหม่