ผลการศึกษา “Motherese” หรือ ภาษาสำหรับการคุยกับทารก ช่วยให้ทารกเรียนรู้คำศัพท์
When we use babytalk with babies, what does that do to their future language learning? Lawren Lu, via flickr
เรามาดูการทดลองที่พบเห็นได้ตามปกติกันดีกว่า… ไม่ว่าคุณจะนำคนที่เป็นศาสตราจารย์ หรือคนทั่วไป มาช่วยเลี้ยงเด็กทารกที่กำลังร้องไห้งอแงงอยู่ พวกเขาเหล่านั้นจะทิ้งภาษายากๆ ที่เคยร่ำเรียนมา และจะใช้ภาษาที่พวกเขาพยายามจะสื่อสารกับทารกแทน
การพูดคุยด้วยภาษาทารก หรือตามตำราเรียกกันว่า Motherese หรือ Parentese (ภาษาเฉกเช่นแม่) นั้นปรากฎอยู่ในทุกๆ วัฒนธรรมทั่วโลก โดยเป็นภาษาชนิดเดียวกับที่พูดคุยกับสัตว์เลี้ยง ด้วยการออกเสียงช้าๆ มีการใช้เสียงสูง และต่ำปะปนกันไป เช่น หวาดดีจ้าาาาา โอ๋เอ๋ โสมชาาาาาาย กินแนนแนนม้ายค้าาาาาาาา ดูสิ้ (เสียงสูง) ร้องห้าาาาย หญ่าาาย เยยยยยยยยย (ทำหน้าตาบ้องแบ๊ว)
ถึงแม้ว่า Motherese จะช่วยให้ทารกได้ฝึกการเรียนรู้การใช้ภาษาได้บ้าง แต่นักวิจัยบางท่านบอกว่ามันทำร้ายพัฒนาการทางคำศัพท์ของทารกในระยะยาว เพราะเมื่อพ่อแม่บอกว่า ดูมูมู่วิ่งสิลูก แทนคำว่า ดูวัววิ่งสิลูก เด็กก็จะไม่ได้เรียนรู้คำว่า “วัว” นั่นเอง
Christina Royster จบการศึกษาจาก University of Maryland ได้ทำการวิจัยเรื่อง Motherest อย่างใกล้ชิด โดยนำทารกจำนวน 30 คน (อายุ 7 เดือน , 10 เดือน และ 11 เดือน) มาเล่นในห้องแล็บกับคุณพ่อและแม่ โดยให้พ่อแม่ฟังเสียง และดูสื่อต่างๆ จากนั้นก็ทำตามคำสั่งที่สื่อเหล่านั้นบอก ต่อมาเมื่อเด็กอายุครบ 2 ขวบ เด็กเหล่านี้ก็จะถูกทดสอบเรื่องการใช้คำศัพท์ของพวกเขา
ผลก็ออกมาน่าประหลาดใจ เพราะเด็กที่พ่อแม่ใช้เสียงเอฟเฟค (Baby Talk) และ Motherese บ่อยๆ จะมีพัฒนาการทางคำศัพท์ที่ดีขึ้นเมื่ออายุ 2 ขวบ โดยเด็กทารกอายุ 10 และ 11 เดือนนั้น รับผลจากเสียงเอฟเฟคได้ดีที่สุด (โหลดผลการวิจัยได้ ที่นี่) Royster อธิบายว่าการใช้เสียงเอฟเฟคแทนคำศัพท์ (เช่น ใช้ ชู่ แทน เงียบ) เรียกร้องความสนใจจากเด็กได้ดีกว่า และเด็กก็ยังคงได้ยินคำศัพท์ที่แท้จริงต่อจากการใช้เสียงเอฟเฟคด้วย ส่วนการออกเสียงจากทารก เป็นคำสั้นๆ เรียกว่า Happy Talk
ที่มา KinderLab, popsci
โพสท์โดย: I sea u