หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องสั้นซึ้งอยากให้อ่านกัน

โพสท์โดย Oak In

 

ซึ้งมากๆๆ ลองอ่านดูแล้วกันนะเป็นเรื่องที่เกินขึ้นจริงๆ...

ตั้งแต่แรกเริ่ม ครอบครัวของหญิงสาวก็กีดกั้นไม่ให้หญิงสาวคบกับชายหนุ่ม
>บอกว่าบ้านชายหนุ่มไม่มีฐานะเทียบเท่าบ้านเธอ
>ถ้าหญิงสาวไปอยู่กับชายหนุ่มก็จะต้องทนลำบากทั้งชีวิต
>ความกดดันจากทางบ้านทำให้หญิงสาวอารมณ์ไม่ค่อยดีเสมอ
>และทะเลาะกับชายหนุ่มอยู่เรื่อย
>
>หญิงสาวนั้นรักชายหนุ่มมาก เธอถามชายหนุ่มบ่อยครั้งว่า
>"เธอรักฉันมากขนาดไหน?" แต่ชายหนุ่มเป็นคนพูดไม่เก่ง
>ทำให้หญิงสาวโกรธเขาหลายครั้ง
>บวกกับคำพูดของพ่อแม่เธอ ยิ่งทำให้หญิงสาวอารมณ์เสียมากยิ่งขึ้น
>ชายหนุ่มจึงกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอ
>เขาก็ทนยอมรับอย่างเงียบๆโดยไม่ว่าหญิงสาวเลยสักคำ
>
>หลังจากนั้น ชายหนุ่มเรียนจบมหาลัยแล้ว ตัดสินใจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
>ก่อนไป เขาเอ่ยปากขอแต่งงานกับหญิงสาว
>"ผมอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่ง ปากไม่หวาน แต่ผมรู้ว่าผมรักคุณมาก
>ถ้าคุณตกลงใจยินดี ผมก็จะดูแลปกป้องคุณตลอดชีวิต สำหรับครอบครัวคุณ
>ผมจะพยายามทำให้พวกเขายอมรับในตัวผม แต่งงานกับผมเถอะนะ ได้ไหม?"
>หญิงสาวตอบตกลงชายหนุ่ม และด้วยความพยายามของชายหนุ่ม
>พ่อแม่ของหญิงสาวก็ยอมรับเขา ในที่สุด ชายหนุ่มและหญิงสาวได้หมั้นกัน
>ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปเมืองนอกไม่นานนัก
>
>ชายหนุ่มไปเรียนหนังสืออยู่ต่างแดนเพียงลำพัง
>ส่วนหญิงสาวก็คงยังอยู่ภายในประเทศ และออกมาทำงานแล้ว
>ชายหนุ่มไม่อาจกลับมาเยี่ยมหญิงสาวได้ เพราะเขาต้องใช้เงินอย่างประหยัด
>ส่วนหญิงสาวก็ไม่มีเวลาไปหาชายหนุ่มได้
>ทั้งสองจึงได้แต่เพียงติดต่อกันผ่านโทรศัพท์และจดหมาย

>แต่ถึงกระนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็คงยังมั่นคงมิได้เปลี่ยนแปลงสักนิด
>
>วันหนึ่ง หญิงสาวออกจากบ้านไปทำงานตามปกติ
>ระหว่างทางที่เดินไปสู่ป้ายรถเมลล์
>มีรถคันหนึ่งได้พุ่งตรงเข้าหาเธอ............
>
>เมื่อหญิงสาวฟื้นขึ้นมา เธอเห็นพ่อแม่อยู่ข้างเตียง
>ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุและบาดเจ็บสาหัส
>โชคยังดีที่ว่าไม่ถึงกับชีวิต หญิงสาวเห็นพ่อแม่เธอร้องไห้โศกเศร้าไม่หยุด
>จึงเอ่ยปากคิดจะปลอบโยนพวกเขา แต่เธอได้พบว่า...
>เธอพูดอะไรออกมาไม่ได้เลยสักคำ
>เธอพยายามที่จะเปล่งเสียงออกมาให้ได้
>แต่ก็ทำได้แค่มีเสียงคล้ายเสียงหอบเท่านั้น
>หญิงสาวกลายเป็นใบ้ไปเสียแล้ว...
>
>หมอบอกว่าเพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ หญิงสาวนอกจากบาดเจ็บที่ขาแล้ว
>สมองยังถูกกระทบกระเทือน
>เพราะฉะนั้นหญิงสาวจะพูดอะไรไม่ได้อีกเลยชั่วชีวิต
>หญิงสาวได้แต่รับฟังคำปลอบโยนของพ่อแม่เธอ
>แต่เธอไม่สามารถที่จะตอบอะไรได้เลย หญิงสาวสิ้นหวังแล้ว...
>หญิงสาวได้แต่ร้องไห้ไม่หยุดทั้งวันทั้งคืน...
>
>หลังจากนั้น หญิงสาวออกจากโรงพยาบาลและพักอยู่ที่บ้าน
>ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังเป็นเช่นเดิม มีแต่เพียงเสียงโทรศัพท์ในห้องเธอ
>กลายเป็นฝันร้ายที่มาทรมานเธอ
>แต่ละครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดัง เป็นเหมือนดังมีดคมทิ่มแทงเข้าไปในใจเธอ
>ความทรมานที่เธอต้องทนรับก็ไม่อาจจะบอกให้ชายหนุ่มรู้ได้
>เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเขา
>จึงเขียนจดหมายบอกชายหนุ่มว่าเธอไม่อยากจะรอเขาอีกต่อไป
>เธอกับเขาจบสิ้นกันแล้ว และเธอก็ส่งแหวนหมั้นกลับไปให้เขาด้วย
>
>หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไรได้กับจดหมายและโทรศัพท์ของชายหนุ่มที่มีมาไม่ขาด
>เธอได้แต่น้ำตาไหลรินเต็มหน้าทุกวัน
>พ่อของหญิงสาวไม่อาจทนเห็นเธอต้องทนทรมานเช่นนี้อีกต่อไป
>จึงตัดสินใจย้ายบ้าน
>หวังอยากให้หญิงสาวลืมความทุกข์นั้นและอยู่อย่างมีความสุขมากกว่านี้
>เมื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแล้ว หญิงสาวก็ดีขึ้นหน่อย
>เธอค่อยๆหัดเรียนใช้ภาษามือแทนคำพูด ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มต้นใหม่
>เธอบอกกับตัวเองเสมอว่าให้ลืมชายหนุ่มเสีย
>
>วันหนึ่ง เพื่อนสนิทของหญิงสาวบอกกับเธอว่า ชายหนุ่มกลับมาแล้ว
>และออกตามหาเธอไปทั่ว หญิงสาวขอร้องเพื่อนเธอว่า
>อย่าบอกเรื่องของเธอให้ชายหนุ่มรู้ เรียกให้เขาลืมเธอเสีย
>หลังจากนั้น เธอก็ไม่ได้รับรู้ข่าวคราวของชายหนุ่มอีกเลย
>เวลาผ่านไปได้ปีกว่า เพื่อนของหญิงสาวมาบอกกับเธออีกว่า
>ชายหนุ่มจะแต่งงานแล้วและขอร้องให้เธอเอาการ์ดแต่งงานมาให้หญิงสาว
>
>หญิงสาวได้รับฟังแล้วก็เศร้าใจมาก เธอเปิดการ์ดนั้นด้วยมือสั่น
>แต่กลับเห็นชื่อเธอเ องบนการ์ดใบนั้น
>เมื่อหญิงสาวกำลังจะถามเพื่อน ชายหนุ่มก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเธอ
>ใช้ภาษามือที่แข็งกระด้างบอกกับหญิงสาวว่า "ผมใช้เวลาปีกว่าที่ผ่านมา
>บังคับให้ตัวเองหัดใช้ภาษามือให้ได้ เพื่อที่จะบอกกับคุณว่า
>ผมไม่เคยได้ลืมสัญญาระหว่างเราสองคนเลย
>โปรดให้โอกาสผมได้เป็นเสียงให้แทนคุณ ผม-รัก-คุณ"
.................................................................................................................................................................
 
 
 
วันหนึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่งพึ่งรักกันทั้งคู่รักกันมาก ผู้ชายให้สัญญากับผู้หญิงว่า 
ผมจะรักคุนตลอดไป ผู้หญิงจึงบอกกลับว่า ฉันเชื่อคุน และจะรักคุนอย่างที่รักฉัน 
ให้ดีที่สุด ทั้ง 2 คบกันไปชั่วในระยะเวลาหนึ่ง ในระหว่างที่ 2 คนได้เดินจับมือ 
กันอยู่ในสวนสาธารณะนั้น ได้มี นางฟ้าคนหนึ่ง ปรากฎกายลงมา พร้อมกับบอกว่า 
"ท่านทั้ง 2 มีความรัก บริสุทธิ์ต่อกัน เราอยากจะให้ท่าน ได้เห็นอนาคตของท่านทั้ง 2" 
ชาย หญิงคู่นั้น จับมือกันไว้แน่นและรุสึกดีใจที่ความรักของเค้าและเธอ ถึงขนาดนางฟ้ามาให้พร 
นางฟ้าจึงพูดขึ้นว่า "ท่านจะดูอนาคตของท่านทั้ง 2 นับตั้งแต่นี้หรือไม่" ชายและหญิงคู่รักมองตากัน 
แล้วตอบพร้อมกันว่า "เราทั้ง 2 ไม่กลัวอนาคตเรามั่นใจในกันและกัน" นางฟ้าได้ยินดังนั้น จึง 
เสก ของออกมาเป็นซีดี 2 แผ่นให้ทั้งคู่ไปดูอนาคต....................... 
ที่บ้านของหญิงสาว หญิงสาวค่อยๆควักแผ่นซีดีที่ได้จากนางฟ้า ใส่ลงในเครื่องเล่นซีดี 
ในภาพ เห็น ในภาพแรกเธอและแฟนของเธอแต่งงานกัน เธอยิ้มแก้มปริมีความสุขอย่าง 
บอกไม่ถูก ในภาพหลังๆ หญิงสาวได้เห็นว่า มีรูปของแฟนเธอคบชู้ เธอนั่งร้องไห้ เสียใจ 
ทันใดนั้น มีเสียงประตูเคาะขึ้นที่ห้องของเธอ เธอรีบปิดเครื่องวีซีดี และซับน้ามตา 
รีบไปเปิดประตู ปรากฏว่าเป็นแฟนของเธอเอง แฟนเธอยิ้ม แต่เธอโมโหจึงตบหน้าเค้าอย่างแรง 
และปิดประตูโดยที่ฝ่ายชาย งง ๆ เธอนอนร้องไห้ ถึงอนาคตที่จะต้องเกิดเช่นในวีซีดีนั้น 
หลังจากนั้น เธอพยายามหนีหน้าชายคนรักของเธอ โดยที่ผู้ชายก็ตามง้อยกใหญ่โดยผู้ชาย 
ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร เธอพยายามหาทางเลิกกับผู้ชาย จนสำเร็จ จนวันหนึ่ง ได้มีเสียงเคาะ 
ประตู เธอเปิดประตู แต่ทันใดนั้น คนที่เคาะประตูก็หันหลังจนลับตาไปเสียแล้ว เธอจำได้ดีถึงแผ่นหลังของ 
อดีตชายที่ตัวเองรัก เธอมองลงพื้น พบซีดีอีกแผ่นหนึ่งของที่นางฟ้าได้ให้ผู้ชาย..... 

เธอนำซีดีแผ่นนี้ไปเปิดอีกคั้ง พบภาพ ที่เหมือนกันคือ 
ภาพที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างมีความสุขแต่ภาพหลังจากแต่งงานคือ ภาพที่เธอมีชู้กับผู้ชายคนใหม่ 
โดยมีแฟนของเธอร้องไห้อยู่ข้างๆ ....... เธอน้ำตาไหลและปิดวีดิโออย่างช้าๆ .... เธอค่อยๆเปิดจดหมาย 
ที่แนบมากับซีดีนี้อ่าน ข้อความเขียนว่า "ผมไม่กลัวอนาคตเรามั่นใจในกันและกัน ขอบคุณแม้ผมจะเชื่อใน 
คุณฝ่ายเดียวก็ตาม ลาก่อน"
 
 
ที่มา:
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Oak In's profile


โพสท์โดย: Oak In
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
56 VOTES (4/5 จาก 14 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ผักดอง ผักกระป๋อง ของรักสายเฮลตี้ ที่ทำไตพังแบบเงียบๆบทสรุปสุดท้ายคดี นัทปง หลักฐานชัด วงจรปิดในห้องเห็นทุกอย่างพ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 เรื่องที่ลูก ‘ขอแล้วห้ามให้’ ไม่อย่างนั้นน้ำตาอาจเช็ดหัวเข่าตอนบั้นปลายชีวิตอินเดียสนใจซื้อบ้านในไทยไหมซงเฮเคียว 20 ปีก่อนถูกขุดอีกครั้ง—งดงามจนโลกโซเชียลสะเทือน นี่คนจริงหรือเทพอวตารเจ๊เอ๋ ลั่นยุบสภาไม่มีเขาไม่มีผล เตรียมแฉหลักฐานเด็ดหลังสถานการณ์สงบเปิด 4 ข้อห้าม ของรัฐบาลรักษาการ ในยามสงครามนักกอล์ฟ "มินาเสะ โอซาวะ" ทำโฮลอินวันด้วยโฟโต้อัลบั้มแนวเปลืoยอาม็อก กับ ห่อหมก ใครคือต้นตำรับที่เขมรเลือกให้ทหารชายแดนกิน7 น้ำต้องห้ามเทลงชักโครก—ทำบ่อยๆ ระวังส้วมระเบิด ค่าซ่อมหลักหมื่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆโครงการ "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" ยุติชั่วคราว หลังยุบสภาชื่นใจทั้งบ้าน! น้ำหวาน กรรณาภรณ์ ใส่ ‘ชุดเจ้าสาวแม่วัยสาว’ ที่เก็บไว้ 43 ปี—ภาพการ์ดงานแต่ง ทำพ่อแม่ยิ้มไม่หุบ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เขมรเผย "วันนี้ไทยบุกเขมรได้ วันหน้าก็บุกประเทศอื่นได้"อินเดียสนใจซื้อบ้านในไทยไหมเปิด 4 ข้อห้าม ของรัฐบาลรักษาการ ในยามสงคราม
ตั้งกระทู้ใหม่