แซฟโฟ ต้นตำนานของเลสเบี้ยน กว่า 2500 ปี
สวัสดีครับ จากบทความที่แล้ว เรื่อง "เปิดประวัติศาสตร์ ความรักร่วมเพศที่สวยงาม" ในเนื้อหาบางส่วนได้กล่าวถึงการรักร่วมเพศแบบหญิงต่อหญิง หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า เลสเบี้ยน ซึ่งมีกำเนิดมากจาก Sappho แห่งเกาะ Lesbos วันนี้ผมจึงรวบรวมเรื่องราวของแซฟโฟ ผู้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งเลสเบี้ยนมาให้อ่านกันครับ
แซฟโฟ (Sappho)
แซฟโฟ (Sappho) เป็นกวีหญิงกรีซโบราณในราวกว่า 2500 ปีมาแล้ว กล่าวกันว่าในยุคนั้นจะมีกวีสะท้อนอารมณ์ (Lyrcal Poet) อยู่สามคนเป็นชายสองคนและหญิงหนึ่งคนนั่นก็คือแซฟโฟ นั่นเอง
บทกวีของเธอแสดงความรู้สึกและอารมณ์อันเด่นชัดด้วยภาษากวีที่พริ้งเพริศไพเราะเกินพรรณนา นอกจากนั้นยังเด่นด้วยรูปแบบฉันทลักษณ์เฉพาะซึ่งในกวียุคต่อมาเรียกว่า “แซฟฟิค”
แซฟโฟ อาศัยอยู่ในเกาะเลสบอส (Lesbos) ซึ่งอยู่ในเอเชียไมเนอร์ ราวปี 580 ก่อน ค.ศ. เธอเป็นบุตรสาวของผู้ดีมีตระกูลและแต่งงานกับเซอร์โคลัส เศรษฐีจากเกาะแอนดรอส มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคนคือ คลีอีส เธอได้เป็นเจ้าของโรงเรียนสตรีมีชื่อประจำเกาะและได้สอนวิชากวีซึ่งเป็นที่นิยมของเด็กสาวสมัยนั้นมาก
แซฟโฟ กำลังร่ายบทกวีให้นักเรียนสาวฟัง
กวีหลายบทของแซฟโฟที่บรรยายถึงความรัก ความหลงและความห่วงหาอาวรณ์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะการบรรยายถึงความรักของผู้หญิง และเป็นนักเรียนของเธอเสียด้วย ดังนั้นจึงเกิดข่าวร่ำลือขึ้นว่า แซฟโฟหลงรักนักเรียนสาวเหล่านั้นและเมื่อพวกเธอเรียนจบก็ต้องลาจากไป
A painting of Sappho by eroticist Édouard-Henri Avril depicting lesbian sex
บทกวีของเธอเต็มไปด้วยเนื้อหาและเรื่องราวของความรัก กามรมณ์ ความอิจฉาริษยา และความโหยหา บทกวีส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ผู้หญิงแม้จะมีหลายชิ้นมุ่งไปยังผู้ชายก็ตาม แต่ก็มีน้อยมาก ในบทกวีชิ้นหนึ่งซึ่งสะท้อนบุคลิกลักษณะของเธออย่างเด่นชัด แซฟโฟได้บรรยายถึงความรู้สึกหึงหวงผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอปราถนาแต่ท้ายสุดคนที่เธอปรารถนาก็ต้องไปอยู่กับผู้ชาย
“… เหงื่อเย็นไหลท่วมกายข้าจนสั่นเทิ้ม ความริษยาถาโถมไปทั่วร่าง”
ข่าวลือมักเริ่มมาจากความริษยา มีนักกวีร่วมสมัยหลายคนอิจฉาในความสามารถของแซฟโฟได้พยายามสร้างเรื่องป้ายสีไปอีกว่า นอกจากจะเป็นเลสเบี้ยนแล้ว แซฟโฟยังเป็นพวกรักไม่เลือก คบหาชายไม่ซ้ำหน้า ที่ร้ายที่สุดคือข่าวลือว่าเธอไปหลงรักนักแจวเรือหนุ่มนาม ฟาออน แต่เขาปฏิเสธจึงเสียใจอย่างสุดซึ้งจนถึงกับไปกระโดดหน้าผาตาย
Image of Sappho, by Moreau, 1864
นักประวัติศาสตร์ปัจจุบันได้ศึกษาเรื่องราวของยอดกวีหญิงผู้นี้และลงความเห็นตรงกันว่า ข่าวรักร่วมเพศตลอดจนถึงความรักไม่เลือกหน้าของแซฟโฟนั้นเป็นเรื่องปั้นแต่งขึ้นมาทั้งสิ้น โดยเฉพาะข่าวที่ว่าเธอกระโดดหน้าผาตายนั้น เป็นสิ่งเหลวไหลไร้สาระในสายตาของนักประวัติศาสตร์ เพราะมีหลักฐานยืนยันว่าแซฟโฟได้มีชีวิตยืนยาวและสิ้นชีวิตอย่างสงบในวัยชรา
คนยุคหลังเห็นรูปร่างหน้าตาของแซฟโฟจากแจกันโบราณ ซึ่งวาดรูปเธอคู่กับอัลซีอุส ยอดนักกวีสหายของเธอ จากรูปทำให้เห็นว่า แซฟโฟ ไม่ได้เป็นสตรีที่มีความงดงาม หากแต่ด้วยสมองและสติปัญญาของเธอต่างหากที่โดดเด่นเหนือผู้ใด ซึ่งแม้แต่ พลาโต้ ที่เกิดหลังเธอเป็นร้อยปียังให้การยอมรับถึงขนาดยกย่องให้เธอเป็น นางฟ้ามิวซิส (Muses) คนที่สิบ (นางฟ้ามิวซิส มีอยู่ด้วยกันเก้าองค์ แต่ละองค์มีความสามารถในด้านศิลปะการต่างๆกัน)
บทความของแซฟโฟได้สุญหายไปตามกาลเวลา เหลือไว้เพียงบทเดียวที่มีความยาว 28 บรรทัด และต่อมาพบอีก 16 บรรทัด ภายหลังที่มีการค้นคว้า ได้พบเศษบทกวีของเธออีกหลายชิ้นแต่ไม่มีชิ้นใดสมบูรณ์เลย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากครับ
บทกวีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่
บทกวีชิ้นเดียวของแซฟโฟที่หลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้ในสภาพที่สมบูรณ์คือ “บทสรรเสริญเทพีอโฟไดรท์”
จากข่าวลือที่ว่า แซฟโฟอกหักจากฟาออนจนโดนหน้าผาตายนั้นยืนยงมานานจนกระทั่งศิลปินยุคหลังบาง คนนำไปสร้างสรรค์ผลงานของตัว เช่น อังตวน โกรส์ ซึ่งวาดรูปเธอในลักษณะเศร้าโศกอาลัยรักอยู่บนหน้าผาที่จะกระโดดลงไป
แม้ว่าเรื่องราวของแซฟโฟ จะถูกไขปริศนารักร่วมเพศที่้คาดว่าเธอไม่ได้ก่อมานานนับพันปี แต่แซฟโฟ กวีเอกแห่งเกาะเลสบอส ก็ได้เป็นต้นเรื่องแห่งความรักระหว่างผู้หญิงต่อผู้หญิง ที่พวกเรารู้จักกันดีในนาม "เลสเบี้ยน" ไปโดยปริยาย แล้วพบกันใหม่ครับ...mata
ขอบคุณภาพจาก
- http://en.wikipedia.org/wiki/Sappho
- http://womenshistory.about.com/od/sappho/ig/Sappho/Sappho-Leap-Moreau.htm
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thaigoodview.com/node/128580
http://bicycle2011.com/