รู้จักกันมั้ย ? กำแพงร้องไห้
"กำแพงร้องไห้" ตั้งอยู่ที่กรุงเยรูซาเลม (Jerusalem) ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นที่กำเนิดของ พระเยซูเจ้า เป็นนครศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่นับถือของพวกคริสเตียนและยิว และเป็นสถานที่ทำสงครามเพื่อแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างพวกมุสลิมกับพวกคริสเตียน เป็นกำแพงประหลาด ซึ่งทุกวันศุกร์ จะมีชาวยิวพากันมาร้องไห้คร่ำครวญเป็นประจำ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบรรพบุรุษของพวกตน
ประมาณเกือบ 3,000 ปีก่อน มีเมืองๆ หนึ่งถูกสร้างขึ้น … เมืองเดียวกันนี้ ถูกยึดครอง ทำลาย สร้างใหม่ และทำลาย … วนเวียนอย่างนี้ ไม่เคยว่างเว้นจนถึงปัจจุบัน อ่านถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่า เมืองที่ว่านี้ คงเป็นเมืองที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่ง หรือ เป็นแหล่งน้ำมันอันยิ่งใหญ่ … เปล่าเลย นอกจากจะตรงกันข้ามแล้ว เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่แห้งแล้งอีกต่างหาก
เมืองเดียวกันนี้ มีพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น มีประตูเมืองถึง 7 แห่ง ภายในเมืองยังถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 เขต … แต่ละเขต กำหนดให้แยกออกจากกัน ตามความเชื่อที่แตกต่าง!!
ภายในตัวเมือง มีสถานที่สำคัญแห่งนี้ บริเวณดังกล่าว จะมีคนเดินมาสวดมนต์ บางคนพูดพร่ำเหมือนบ่น และบางคนร้องไห้ กับ เศษซากอะไรสักอย่าง ที่เรียกกันว่า กำแพงร้องไห้ (Wailing wall)
ความจริงแล้ว กำแพงร้องไห้ คือ ส่วนที่หลงเหลือของวิหารศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกทำลายลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า โทษฐานเป็นสัญลักษณ์ทางความเชื่อของพวกเขา … ความเชื่อที่แตกต่าง!
wailing wall กำแพงร้องไห้ กำแพงตะวันตก เป็นกำแพงด้านหนึ่งที่เหลืออยู่ของพระวิหารของยิวที่สร้างเสร็จในปี 516 ก่อนค.ศ. เป็นวิหารหลังที่สองที่สร้างหลังจากยิวถูกต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน
พระวิหารหลังแรกสร้างโดยกษัตริย์ซาโลมอน แต่ด้วยความที่ยิวไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า พระองค์เลยส่งบาบิโลนมาทำลาย ยึดข้าวของมีค่าไปหมด แล้วเผาพระวิหาร พังกำแพง
หลังจากยิวไปอยู่บาบิโลนครบ 70 ปี บาบิโลนถูกเปอร์เซียถล่ม กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียเลยอนุญาตให้ยิวกลับแผ่นดินเกิด หลังจากนั้นก็สร้างวิหารหลังที่สองและบูรณะเมือง
วิหารหลังที่สองนี้อยู่มาถึงยุคพระเยซู ภายใต้การปกครองของโรม โรมตั้งเฮโรดขึ้นเป็นกษัตริย์ของชาวยิว แต่ยิวไม่ยอมรับ เฮโรดจึงพยายามเอาใจยิวโดยบูรณะ ต่อเติมพระวิหารหลังที่สองนี้จนยิ่งใหญ่ตระการตา เค้าก็เลยเรียกวิหารหลังนี้ว่า วิหารของเฮโรด น่าสงสารเฮโรดที่ยังไงก็ซื้อใจยิวไม่ได้
แบบจำลองนี้กล่าวกันว่าเป็นแบบจำลองตามสัดส่วนถูกต้องของพระวิหารโบราณนั้น.
พระวิหารหลังนี้ถูกทำลายใน ค.ศ. 70 โดยการนำของแม่ทัพโรมชื่อ ไททัส (Titus) เพราะพวกยิวก่อกบฏนั่นเองดังนั้นเลยเหลือกำแพงด้านเดียวคนยิวผูกพันกับพระวิหารมาก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า ไม่มีวิหารก็เหมือนพระเจ้าไม่อยู่ด้วย เหมือนตอนที่วิหารซาโลมอนถูกทำลาย ยิวสำนึกดีว่าเพราะเค้าไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า พระองค์เลยให้คนต่างชาติมาทำลายเป็นการลงโทษ
หลังจากสงคราม 6 วัน กำแพงร้องไห้นี้ได้กลายเป็นสถานที่เพื่อแสดงความชื่นชมยินดีระดับชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่เพื่อนมัสการและภาวนา มีการสร้างลานกว้างขนาดใหญ่เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าร่วมภาวนาครั้งละเป็นจำนวนพันจำนวนหมื่นคน
บริเวณกำแพงนี้ เป็นลานโล่งกว้าง ที่ชาวยิวและผู้ศรัทธา (รวมถึงนักท่องเที่ยว) ใช้ประกอบพิธีกัน ไม่ว่าจะสวดมนต์ ร่ำไห้และวิงวอนต่อพระเจ้า รวมถึง พิธี “ฉลองความเป็นหนุ่ม” ของเด็กชายยิวเมื่ออายุครบ 13 ปี ก็จะมาทำพิธีกันในบริเวณดังกล่าวด้วย ชาวยิวเชื่อกัน ว่าบริเวณนี้เป็นสถานที่ใกล้ชิดพระเจ้ามากที่สุดในโลก และพระองค์จะคอยฟังคำขอของผู้ที่มาอ้อนวอน นอกจากการสวดมนต์อธิษฐานแล้ว ยังนิยมเขียนคำอธิษฐานหรือระบายความทุกข์ใจใส่ในกระดาษ และสอดเข้าไปตามรูเล็กๆ ของกำแพงเพื่อให้สาสน์นั้นได้ส่งถึงพระเจ้า
ทุกวันนี้ สงครามยังไม่เคยยุติ และดูเหมือนว่ายังไม่มีวี่แววจะยุติ ประเทศอันเป็นที่ตั้งของเมืองนี้ กำหนดให้ ทั้งชายและหญิง เมื่อถึงเกณฑ์จะต้องเข้าฝึกทหารทุกคน และรับปืนมา 1 กระบอก ให้นำไว้ใกล้ตัวในสภาพพร้อมรบตลอด 3 ปี (หญิง 2 ปี) !?!
พระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 ขณะภาวนาหน้ากำแพงร้องไห้
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
ปล.ไม่อยากให้ประเทศไทยต้องมีกำแพงร้องไห้ที่แบ่งแยกประเทศไทยเพราะความขัดแย้งเลย
pantip
รวมรวม : นายตัวดำ