นี่คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณดึงดูดผู้หญิงเข้าหาได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก มันเป็นสิ่งที่ได้มาโดยง่าย แต่ก็เสียไปได้อย่างง่ายดายเช่นกัน และมันก็เป็นหนึ่งในลักษณะนิสัยที่ต้องออกมาจากข้างใน ไม่สามารถแสร้งทำได้ สิ่งที่กำลังพูดถึงอยู่นี้คือ "ความมั่นใจ" ซึ่งก็คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของผู้ชายทุกคนที่ต้องใช้ในการจีบผู้หญิงนั่นเอง

    อย่างไรก็ตาม นี่คือหนึ่งในสิ่งที่คนเข้าใจผิดมากที่สุด ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ชายส่วนมากมักไม่ค่อยเข้าใจธรรมชาติของความมั่นใจ หลายๆ คนคิดว่า ในการแสดงความมั่นใจ จำเป็นต้องแสดงออกโดยการกระทำภายนอกเท่านั้น คนอื่นอีกหลายคนเชื่อว่าความมั่นใจเป็นสิ่งที่ได้รับจากคำพูด และอีกหลายๆ คนเชื่อว่าความมั่นใจเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

    มีความเชื่อที่คนเห็นตรงกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ความมั่นใจเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ปัจจัยบางอย่างเราก็ไม่อาจควบคุมได้เช่นกัน

 

 

    ห่วงโซ่แห่งความมั่นใจ

    คุณน่าจะต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับห่วงโซ่อาหารมาบ้าง ซึ่งมันได้อธิบายไว้ว่าทุกชีวิตบนโลกล้วนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อมด้วย ทุกๆ สิ่งที่อยู่ในระบบนิเวศน์มีบทบาทสำคัญของมันเอง แต่ถ้าสิ่งหนึ่งมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นๆ ปัญหาที่รุนแรงอาจเกิดตามมาได้

    ถ้าคุณต้องการจะเสริมความมั่นใจและใช้มันเพื่อจีบผู้หญิงคนไหนก็ได้ คุณจำเป็นจะต้องนึกภาพให้เหมือนกับห่วงโซ่อาหาร นี่คือสิ่งที่เราขนานนามว่าห่วงโซ่แห่งความมั่นใจ หรือ Confidence Chain ห่วงโซ่แห่งความมั่นใจนี้อยู่ได้ด้วยตัวมันเอง และสร้างปฏิกิริยาของพลังงานซึ่งทำการหล่อเลี้ยงและเพิ่มความมั่นใจให้คุณไปอีกระดับ

ห่วงโซ่แห่งความมั่นใจถูกสร้างขึ้นจากองค์ประกอบหลักๆ 7 อย่างคือ

1.สภาพจิตใจ

2.รูปลักษณ์ภายนอก

3.สไตล์การแต่งตัว

4.ทักษะการฟัง

5.ความมั่นคงทางจิตใจ

6.การฝึกฝน

7.เสถียรภาพทางการเงิน

    ในการที่จะมีความมั่นใจเต็มร้อย คุณจำเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะรวบรวม, ตรวจสอบ, ดัดแปลง, ประยุกต์ใช้องค์ประกอบทั้ง 7 อย่างในชีวิตประจำวันของคุณ วินาทีที่คุณเลิกทำทุกอย่างอาจจบลงด้วยการที่เธอบอกคุณว่า "คุณไม่ใช่สเปคของฉัน"

    เราไม่ได้บอกว่าถ้าคุณมีความมั่นใจอยู่ตลอดเวลา คุณจะมีความสุขและประสบผลสำเร็จกับผู้หญิงอย่างแน่นอน แต่ให้ตระหนักไว้เสมอว่ายิ่งคุณมีความมั่นใจมากเท่าไหร่ อัตราการประสบความสำเร็จกับผู้หญิงของคุณก็จะมากตามไปด้วย

    เมื่อคุณนำทฤษฎีห่วงโซ่แห่งความมั่นใจมาใช้ ร่างกายและจิตใจของคุณจะเริ่มเปลี่ยนไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เป็นบวกหรือลบ

    มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องตระหนักว่าองค์ประกอบทั้งเจ็ดอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ครบทั้งหมดเพื่อที่จะเพิ่มความมั่นใจของคุณ คุณอาจไม่ต้องมีบางอย่างก็ได้ อย่างไรก็ตามถ้าคุณอยากจะมีความมั่นใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณควรพยายามที่จะรักษาสมดุลขององค์ประกอบทั้งหมด

 

    สภาพจิตใจ

    ขั้นแรกในการกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจ จำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมาจากภายในบนพื้นฐานของชีวิตประจำวันผ่านทางการใคร่ครวญตรึกตรอง คุณจำเป็นจะต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการใช้ทฤษฎีในการสร้างความมั่นใจ

    นี่หมายถึงอะไร ด้วยการสร้างความคิดและการฝึกฝนให้เกิดความมั่นใจ ร่างกายของคุณจะมีปฏิกิริยาและแสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจนั้น แต่ก่อนที่คุณจะไปถึงจุดนั้นได้ คุณจำเป็นต้องกลับมามองตัวคุณเองด้วยความซื่อสัตย์ คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะเพิ่มพูนจุดแข็งและเรียนรู้ที่จะกำจัดหรือลดจุดอ่อนของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคิดว่า การพูดติดอ่างเมื่อคุณรู้สึกประหม่า เป็นจุดอ่อนที่ทำให้คุณขาดความเชื่อมั่น งั้นจงฝึกทักษะด้วยการพูดกับคนจำนวนมากที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้จนกว่าคุณจะกำจัดอาการประหม่านั้นไปได้

    คุณจำเป็นต้องพัฒนานิสัยส่วนตัวที่จะทำให้คุณมีสภาพจิตใจที่ดีและมีความเชื่อมั่น ห่วงโซ่แห่งความมั่นใจของคุณก็จะแข็งแรงอยู่เสมอ ลองวิธีต่อไปนี้ดูบ้าง เพื่อกระตุ้นตัวคุณเอง

    พูดกับตัวเอง: ฝึกการพูดกับตัวเองในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ด้วยการใช้เสียงพูดออกมาดังๆ "สวัสดีตอนเช้า คุณดูเยี่ยมมาก คุณคืออันดับหนึ่ง วันนี้จะต้องเป็นวันที่ดี วันนี้คุณจะพูดสวัสดีกับคนแปลกหน้าอย่างน้อยห้าคน"

    ทำลิสต์จุดแข็งของคุณ: เขียนลักษณะ 10 อย่างที่คุณคิดว่าตัวเองมีคุณค่าที่สุดต่อผู้หญิงผู้โชคดีที่จะได้รับความสนใจและเวลาจากคุณ (คุณจำเป็นต้องคิดแบบนี้เพื่อให้มีความมั่นใจ)

    เปลี่ยนแง่ลบให้กลายเป็นแง่บวก: ถ้าคุณยังโสด หยุดซึมเศร้าเกี่ยวกับมันได้แล้ว แทนที่จะกังวลเรื่องต้องอยู่ตัวคนเดียว ให้มีความสุขและดีใจว่าคุณยังมีโอกาสที่จะพบกับผู้หญิงดีๆ อีกมากมาย

 

    

    รูปลักษณ์ภายนอก

    รูปลักษณ์ของคุณเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับของความมั่นใจ มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าคุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับตัวคุณเอง แต่มันเกี่ยวกับว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรกับคุณ

    โดยธรรมชาติแล้ว ยิ่งคุณมีความฟิตของร่างกายมากแค่ไหน รูปลักษณ์ภายนอกของคุณก็จะยิ่งเข้าใกล้สิ่งที่สังคมเห็นว่าน่าดึงดูด และคุณจะสะกดสายตาได้มากขึ้น นั่นก็กลายเป็นหนึ่งในห่วงโซ่แห่งความมั่นใจเช่นกัน

    ดังนั้น โดยธรรมชาติแล้วคุณควรจะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อมอบสิ่งที่สาวๆ ต้องการ นั่นคือรูปร่างที่ฟิตและแข็งแรง และอย่าลืมที่จะมีบุคลิกที่ดีด้วย

 

    

 

 

    สไตล์การแต่งตัวของคุณ

    เสื้อผ้าที่คุณสวมมีบทบาทในการกำหนดว่าคนอื่นๆ ในชีวิตของคุณจะปฏิบัติกับคุณอย่างไร ทั้งคนแปลกหน้าและคนรู้จัก สิ่งนี้จะส่งผลต่อความรู้สึกซึ่งในที่สุดก็จะมีผลต่อสภาพจิตใจของคุณและท้ายที่สุดก็จะมีผลต่อความมั่นใจของคุณด้วย จริงไหม?

    ถ้าคุณต้องการความมั่นใจ 100% ตลอดเวลา คุณจำเป็นต้องดูดีทันสมัย 100% ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ถ้าคุณทำอย่างนั้นไม่ได้คุณก็จะรู้สึกด้อยกว่าผู้อื่นอยู่ลึกๆ และก่อนที่คุณจะรู้ตัวมันจะแปรเปลี่ยนไปเป็นความกังวล ไม่มั่นใจ ดังนั้นจงทำให้แน่ใจว่าคุณดูแลตัวเองเป็นอย่างดีอย่างถูกต้องและแต่งตัวดีกว่าคนที่คุณจะต้องไปพบปะด้วย

    

    ทักษะในการฟัง

    แค่เพียงเพราะว่าคุณเป็นคนที่พูดมากที่สุดอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ได้หมายถึงคุณเป็นคนที่มีความมั่นใจมากที่สุด ลองเปลี่ยนเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง ด้วยการถามคำถามเธอแล้วปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายพูดมากกว่าคุณบ้าง แล้วคุณจะพบว่าผู้หญิงให้ความสนใจกับคุณมากขึ้นอีกเยอะทีเดียว

    นี่ไม่ใช่เพียงช่วยให้คุณปกปิดอาการประหม่า แต่ยังให้โอกาสสุภาพสตรีที่คุณพูดคุยด้วยได้โฟกัสไปยังเรื่องของตัวเธอเองบ้าง เธอจะคิดว่าคุณเป็นคู่สนทนาที่ดีเยี่ยม ถ้าคุณเพียงแค่ปล่อยให้เธอพูดมากกว่าตัวคุณเองเสียบ้าง

    และจงจำไว้ว่า เมื่อต้องโต้ตอบกับเธอ คุณต้องไม่สาธยายยืดยาดมากความ พยายามพูดให้สั้นและกระชับเข้าไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพบใครสักคนเป็นครั้งแรก ยิ่งคุณเปิดปากพูดมากเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงต่อการพลั้งปากพูดอะไรโง่ๆ มากเท่านั้น ซึ่งรังแต่จะทำให้คุณประหม่ายิ่งขึ้นและสูญเสียความมั่นใจหนักกว่าเก่า

 

    ความมั่นคงทางจิตใจ

    แค่เพราะว่าคุณมีความมั่นใจในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นคนมั่นใจไปตลอดกาล บางทีวันรุ่งขึ้นคุณอาจสูญเสียความมั่นใจนั้นไปก็ได้ ในทางเดียวกัน แค่เพียงเพราะคุณสูญเสียความมั่นใจในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสูญเสียความมั่นใจไปตลอดกาล มันสำคัญมากที่คุณจะต้องทำให้ความคาดหวังและความเป็นจริงสมดุลกัน ถ้าคุณทำได้คุณก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกแย่ และเรียนรู้จากมันได้

    มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่โชคร้ายที่คำพูดนี้เป็นผลให้หลายต่อหลายคนให้ความสำคัญกับความเห็นของคนอื่นรอบข้างมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนจากคนที่มีความมั่นใจสูงเต็มเปี่ยมไปเป็นคนที่มีแต่อาการซึมเศร้าและขาดความมั่นใจ โดยขึ้นกับคำพูดของใครบางคน เคล็ดลับในการเอาตัวรอดจากคำวิพากษ์วิจารณ์ก็คือการคาดการณ์ล่วงหน้าและพร้อมเสมอที่จะพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ และพยายามอย่าเก็บมาคิดให้มากเมื่อมันเกิดขึ้น

    จำไว้ว่า คุณจะต้องพบกับคนที่ไม่ชอบคุณในบางครั้ง และเมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น คุณจะต้องไม่ใส่ใจคนเหล่านั้นเลยแม้สักนิดเดียว

 

    การฝึกฝนการเข้าสังคม

    การฝึกฝนและพัฒนาทักษะทางสังคมของคุณจะช่วยเพิ่มความมั่นใจของคุณได้อย่างมาก คนจำนวนมากใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนทักษะทางสังคม ดังนั้นคุณควรทำเช่นเดียวกัน ด้วยวิธีต่อไปนี้

สัปดาห์แรก : ลองยิ้มให้กับคน 5 คนที่คุณพบในชีวิตประจำวัน และไม่เลือกที่จะยิ้มให้กับสาวสวยเท่านั้น พยายามทำตัวให้ชินกับนิสัยเป็นมิตรต่อผู้คนทั้งชายและหญิง ไม่ว่าพวกเขาจะหน้าตาดีหรือไม่, สูงหรือเตี้ย, ผอมหรืออ้วน หรืออายุมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

สัปดาห์ที่สอง : ทำเหมือนสัปดาห์แรก แต่ให้เพิ่มคำพูดทักทายเข้าไปด้วย

สัปดาห์ที่สาม : หลังจากการยิ้มและทักทายผู้คน คุณจะเริ่มรู้สึกไม่ลำบากใจในการแสดงความเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าในสถานที่เช่นลิฟต์ หรือขณะเข้าแถวรอรับบริการอะไรสักอย่าง ก่อนที่คุณจะรู้ตัว คุณก็จะสามารถเริ่มสนทนากับผู้หญิงคนไหนก็ได้แล้ว

เมื่อคุณตระหนักว่าผู้หญิงจะเปิดรับความเป็นมิตรของคุณ ลองเข้าไปหาเธอแล้วพูดบางอย่าง เช่น "ว้า แถวไม่เขยื้อนเลยนะครับ อย่างกับมันยาวขึ้นซะอีกนะครับเนี่ย" หรือ "ผมไม่เคยคิดเลยว่าลิฟต์จะพามาถึงเร็วขนาดนี้ ปกติรู้สึกเหมือนรอเป็นชาติแน่ะ"

สัปดาห์ที่สี่ : เมื่อคุณฝึกฝนทักษะในการเริ่มต้นสนทนาได้ที่แล้ว คุณจะเริ่มค้นพบบางสิ่งที่แปลก นั่นคือ ความมั่นใจที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในตัวคุณ ดังนั้นจงทำต่อไป และถ้าคุณบังเอิญไปพบกับคนไร้มารยาทและพวกไม่สุงสิงกับใครที่ทำเป็นไม่ได้ยินคุณ ก็จงอย่าไปใส่ใจ ให้จำกฎเกี่ยวกับความมั่นคงทางจิตใจเอาไว้ และอย่าไปเก็บมาคิดให้มากเรื่อง

 

    

    เสถียรภาพทางการเงิน

    ปัจจัยสุดท้ายไม่สำคัญเท่ากับปัจจัยอื่นๆ ก่อนหน้านี้ แต่ตามบทบาทหน้าที่ของผู้ชายในอดีตที่ต้องเลี้ยงดูผู้หญิง หลายต่อหลายคนจึงรู้สึกกดดันที่จะต้องมีฐานะทางการเงินที่ดีในการจะชนะใจผู้หญิงสักคน

    แต่คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเศรษฐีเงินล้าน เพียงแค่มีทิศทาง, ความมุ่งมั่น, เป้าหมาย และเสถียรภาพทางการเงิน เท่านี้คุณก็จะสามารถกำจัดความเครียดและสร้างความมั่นใจเพิ่มขึ้นได้อีกเยอะทีเดียว

 

    ความมั่นใจกับความทะนงตน

    พึงระวังเป็นอย่างยิ่งว่าสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน ทำให้มั่นใจว่าคุณเข้าใจถึงความต่างเป็นอย่างดี และคุณฉลาดพอที่จะหลีกเลี่ยงอย่างหลัง

    ถ้าคุณเป็นคนที่ปกติมีความเชื่อมั่นในตนเองอยู่แล้ว มันจะแสดงออกมาเองโดยคุณไม่ต้องพยายามอะไรเลย อย่างไรก็ตามถ้าคุณแกล้งทำเป็นมั่นใจ ด้วยการคุยโอ้อวดเกี่ยวกับรถ, หน้าที่การงาน หรือว่าคุณเป็นคนรักที่ดีแค่ไหน คุณจะกลายเป็นคนขี้อวดหรือขี้โม้ไป

    จำไว้ว่าความอวดดีและทะนงตนจะนำมาซึ่งสิ่งที่ตรงข้ามกับความมั่นใจอย่างสิ้นเชิง นั่นคือผู้หญิงจะหลีกหนีคุณทันที

 

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ