เลือกซื้อแบตสํารองต้องดูอะไรบ้าง
แบตเตอรี่สำรองเรียกได้เป็นว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่ค่อนข้างจำเป็นสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในปัจจุบัน แต่แบตเตอรี่สำรองเองก็มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคาตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และความจุของตัวแบตเตอรี่ ให้เลือกจับจอง แล้วถ้าเราเกิดอยากจะซื้อแบตเตอรี่สำรองดีๆ เอาไว้ใช้งานสักตัวละ เราจะต้องดูอะไรบ้าง
ทำความเข้าใจกับแบตเตอรี่สำรองกันก่อน
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกับแบตเตอรี่สำรองกันสักเล็กน้อยก่อนนะครับ สำหรับแบตเตอรี่สำรองที่พบเห็นกันได้ในประเทศไทยนั้น ก็จะจำแนกได้หลากหลายรูปแบบ แต่ NBS ขอจำแนกเป็น 3 ประเภทดังนี้ คือ
- แบตเตอรี่สำรองคุณภาพสูง และราคาสูง โดยแบตเตอรี่สำรองจำพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง และเลือกที่จะใช้ใส้ในที่มีคุณภาพดี อย่างเช่น Panasonic , Sanyo , Sony เป็นต้น จะมีเสถียรภาพ และความไว้วางใจอยู่ในระดับสูงความจุสูง แน่นอนว่าราคาอยู่ในหลัก 1500 - 3000 บาท ปกติมีประกันรับรอง 1 ปี แนะนำให้ตัดใจใช้แบบนี้แทนที่จะเปลี่ยนซื้อคุณภาพปานกลางหรือต่ำบ่อยๆ
- แบตสำรองคุณภาพปานกลางราคาไม่แพง แบตสำรองจำพวกนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพพอสมควร ซึ่งก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงมาก เพราะมีระดับราคาที่ข้างคุ้มค่า และปลอดภัยพอสมควร จำพวก Yoobao เป็นต้น ปกติมีประกันรับรองไม่ถึง 1 ปี
- และสุดท้ายคือแบตเตอรี่สำรองราคาถูก โดยส่วนใหญ่แบตเตอรี่สำรองจำพวกนี้ จะเป็นแบตเตอรี่สำรองที่มีสีสันจัดจ้านแบบเวอร์ๆ หรือในบางรายก็เป็นรูปการ์ตูนต่างๆ ดูน่าซื้อ รวมทั้ง เป็นของแถมมาพร้อมการซื้อมือถือใหม่ด้วย ซึ่งมีราคาถูกมากในหลักร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งแบตเตอรี่สำรองจำพวกนี้ค่อนข้างน่ากลัว เพราะนอกจากจะให้ความมั่นใจในการใช้งานไม่ได้แล้ว ยังสามารถส่งผลเสียต่อสมาร์ทโฟนราคาแพงของท่านได้อีกด้วยครับ ส่วนประกันไม่แน่ใจครับ
แบตเตอรี่สำรองจะมีค่าสูญเสียพลังงานอยู่ที่ 20-30%
นอกจากที่จะดูเรื่องรูปแบบของแบตเตอรี่สำรองแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอีกหนึ่งเรื่องคือ ในเรื่องของความจุแบตเตอรี่สำรองที่เชื่อว่าหลายๆ ท่านยังเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ เช่นจะเอาความจุที่เป็นตัวเลขของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน มาลบกับความจุของแบตสำรองและนำตัวเลขที่ได้มาไปใช้ดูรอบการชาร์จ ซึ่งสิ่งนั้นเป็นความเข้าใจผิดๆ ครับ เนื่องจากแบตเตอรี่สำรองในทุกชนิดๆ จะมีค่า Loss (สูญเสียพลังงาน) อยู่ที่ประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับการออกแบบแผงวงจรของผู้ผลิต ซึ่งจะเสียไประหว่างการแปลงพลังงาน
** ยกตัวอย่างเช่นเมื่อใช้แบตเตอรี่สำรองความจุ 4,000 mAh พลังงานที่จ่ายได้จริงจะอยู่ที่ 2,800 mAh นั่นเอง
แบตเตอรี่สำรองต้องดู Output ด้วย
รวมถึงในบางกรณีที่จะต้องดูค่า Output ของตัวแบตเตอรี่สำรองให้พอดีกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตที่เราใช้ด้วย
** ยกตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟนของเรารับ (Input) ได้ 5V 1A เจ้าแบตเตอรี่สำรองก็ควรจะต้องมี Output ที่ 5V 1A เช่นกัน แต่ถ้าเกิดเราใช้แบตเตอรี่สำรองที่มี Output 5V 2A แน่นอนว่าจะชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนได้เร็วกว่า แต่ก็อาจจะส่งผลเสียให้ตัวแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนของเราร้อนขึ้น และเสื่อมได้รวดเร็วขึ้น(เนื่องจากความร้อนนั่นเอง)
ดังนั้นในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรองก็ควรดูที่ Output ให้ตรงกับสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ของเราด้วยเช่นกัน
แนะนำแบตเตอรี่สำรอง
1. สำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตหน้าจอ 10-7 นิ้ว หรือผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่มีขนาดจอมากกว่า 5 นิ้วขึ้นไป
แน่นอนสำหรับผู้ใช้งานจำพวกนี้ต้องการแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุสูง เพื่อที่สามารถนำมาใช้ยามฉุกเฉินเวลาแบตเตอรี่ใกล้หมดได้ ซึ่งอุปกรณ์ที่มีหน้าจอมากกว่า 5 นิ้วขึ้นไปนั้นส่วนใหญ่ก็มีระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 3,000 mAh ควรเลือกที่มีความจุ 10,000 mAh ขึ้นไป
2. สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนขนาด 4 – 5 นิ้ว
ผุ้ใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอ 5 นิ้วลงไปนั้น โดยส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนจำพวกนี้จะมีแบตเตอรี่ภายในอยู่ที่ระดับ 1,300 – 2,500 mAh ซึ่งแบตเตอรี่สำรองในระดับความจุแบต 5000 mAh ขี้นไปก็เพียงพอต่อการใช้งานโดยจะสามารถชาร์จได้ราว 1 – 2 รอบ ควรเลือกที่มีความจุ 5200 mAh ขึ้นไป