ไม่มีเหตุผลที่คนอย่างทักษิณจะไม่จงรักภักดี
จบเตรียมทหารรุ่น 10 นายร้อยตำรวจรุ่น 26 รับพระราชทานกระบี่จากพระหัตถ์ในหลวง ผ่านพิธีสาบานธง ผ่านพิธีถวายสัตย์ แม้นแต่เมื่อแต่งงานกับพจมาน ก็ยังได้รับพิธีสมรสพระราชทาน
เมื่อมาเป็นนายกฯ ก็จัดงานเฉลิมฉลองครองราชย์ของในหลวงอย่างใหญ่โตเชิญราชวงศ์ทั่วโลกมาร่วมงานในประเทศเราได้เกือบหมดโลก จนพระเกียติยศแห่งราชวงศ์จักรี เลื่องลือไปทั้งโลก แม้นแต่ในหลวงก็ยังทรงตรัสถึงทักษิณในงานมหาสมาคมว่า ซุปเปอร์นายกฯ ทักษิณได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงฯ ท่วมท้น ถือเป็นบุญอย่างใหญ่หลวงที่มีโอกาสเช่นนั้น
คนแบบทักษิณ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่จงรักภักดี ไม่มีเหตุผลที่จะละเมิดสถาบัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทักษิณพิสูจน์ให้เราเห็นตลอด แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เห็นเช่นกัน เพราะอคติบดบัง
คนอย่างสุเทพ เทือกสุบรรณ คนอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทำสิ่งใดที่เป็นการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณอย่างเป็นชิ้นเป็นอันให้คนไทยได้เห็นบ้าง อคติผมไม่มีนะ แต่ผมไม่เห็นจริงๆ นึกไม่ออก ที่นึกออก ก็มีแต่เห็น2คนนี้ พยายามดึงสถาบันลงมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยตลอด พยายามยุยงปลุกปั่นผู้คนด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า *ความจงรักภักดี* มาโดยตลอด ทำลายผู้คน ทำลายใครต่อใครไปมากมาย ด้วยการตราหน้าผู้อื่นว่า ไม่จงรักภักดี. .
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่กำลังพยายามทำกับนายกยิ่งลักษณ์คนนี้..!!
ปล.ในภาพนี่คือเมื่อ 30 กรกฎาคม 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงพระราชทาน สมรสพระราชทานแด่ ร.ต.อ.ทักษิณ ชินวัตร - พจมาน ดามาพงศ์
บทคัดลอกบางส่วน จากที่มา – Times Online แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑ เวบลิเบอรัลไทย เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2552
ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ บรรณาธิการของไทม์ด้านเอเชีย สัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่กำลังลี้ภัยที่บ้านของเขาที่นครดูไบ
ทักษิณ ชินวัตร: (ชัยชนะจากการเลือกตั้งของผมในปี ๒๕๔๔) ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทยที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวชนะคะแนนครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา เราชนะอย่างท่วมท้น – ครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา – เราจัดตั้งรัฐบาลร่วมขึ้นมา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกเช่นกันที่เราได้บริหารประเทศครบสี่ ปีโดยสภาไม่ถูกยุบ และเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ว่านายกรัฐมนตรีได้รับการเลือก ตั้งสมัยที่สอง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยซึ่งเราได้รับชัยชนะกวาดที่นั่งถึง ๓๗๗ ที่นั่ง และจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องมีพรรคร่วม – ร้อยละ ๗๖ ของที่นั่งในสภาในเวลานั้น
และนั่นก็เริ่มสร้างปัญหาให้กับผม – เพราะผมมีชื่อเสียงมากเกินไป ประชาชนรักผมมากเกินไป นั่นแหละที่มาของปัญหา
ทำไมพวกเขาจึงมีความลำเอียงกับคุณล่ะ
ทักษิณ ชินวัตร: พวกเขาประโคมข่าวลือว่าผมต้องการเปลี่ยนประเทศไทยเป็นระบบสาธารณรัฐ และตัวผมต้องการเป็นประธานาธิบดี ซึ่งผมไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ ผมน่ะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด คุณทราบไหมว่า เมื่อผมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกน่ะ ผมได้เข้าเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์องค์พระเจ้าอยู่หัว ผมกราบบังคมทูลฯ ว่า
“ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพเจ้ามีความจงรักภักดีต่อพระองค์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งถือกำเนิดในแผ่นดินของพระองค์ ข้าพเจ้าขอกราบบังคมทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า – ไม่เพียงแต่ข้าพเจ้าจะเสมือนลูกของพระองค์ – แต่เพราะอายุของข้าพเจ้าใกล้เคียงกับพระชนมายุของพระราชโอรสและพระราชธิดา ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงมีพระเมตตาประทานสั่งสอน และตักเตือนข้าพเจ้าอย่างคนในวัยเดียวกันกับพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ แม้ว่าข้าพเจ้าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ตาม พระองค์ทรงครองราชย์มาสามชั่วอายุคน – รุ่นปู่ของข้าพเจ้า รุ่นบิดาของข้าพเจ้า และมาถึงรุ่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี สิ่งใดที่ข้าพเจ้าจะต้องปฏิบัติ ขอพระองค์ได้โปรดมีพระเมตตาสั่งสอนข้าพเจ้าด้วย”
นี่เป็นคำพูดที่ผมได้เข้าเฝ้า และผมได้กราบทูลฯต่ออีกว่า
“พระองค์ทรงงานหนักสำหรับพสกนิกรชาวไทยมาหลายปีแล้ว ขณะนี้พระองค์ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว และพระองค์อาจทรงเหน็ดเหนื่อย โปรดให้ข้าพเจ้าได้สนองเบื้องพระยุคลบาท ข้าพเจ้าจะแบกภาระทุกอย่างของพระองค์ และข้าพเจ้าจะทุ่มเททำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของพสกนิกรของพระองค์”
นั่นเป็นการกราบทูลฯ ครั้งแรกของผมต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และผมทำงานหนักเรื่อยมาจนได้รับความนิยมมากขึ้นๆ และความนิยมเริ่มสร้างปัญหาให้ผม พรรคประชาธิปัตย์พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถเป็นพิเศษในการปรักปรำ ผู้คนต่างๆ พวกเขาเริ่มสร้างข่าวลือ และโจมตีผม แม้แต่ตอนที่พวกเขาครองอำนาจ ก็ยังไม่วายใส่ความว่าผมต้องการเป็นประธานาธิบดี เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับชาวไทยเพราะคนไทยรักพระเจ้าอยู่หัว และคนไทยไม่ยอมให้ใครก็ตามมาล้มล้างสถาบันกษัตริย์
คุณมีสินทรัพย์สุทธินอกประเทศไทยเท่าไร ห้าหกพันล้านบาท หรือสามพันห้าร้อยล้านบาท
ทักษิณ ชินวัตร: นอกประเทศไทยมีเพียงแค่สามพันกว่าล้านบาท หรือห้าหกพันล้านบาท จริงๆ แล้วมีสามพันห้าร้อยล้านบาท ผมเคยมีถึงห้าหกพันล้านบาท แต่จ่ายเป็นค่าบ้าน ค่าโน่นค่านี่ เหลือประมาณสามพันห้าร้อยล้านบาท
คุณมีแผนการทางการเมืองไหม
ทักษิณ ชินวัตร: มีครับ แต่ในทางสงบ ผมต้องการเห็นการสมานฉันท์ มากกว่าการประจันหน้ากัน ผมต้องการให้เสื้อแดงกดดันให้มีการสมานฉันท์ ไม่ใช่นองเลือด หรือประจันหน้ากัน
ความผิดพลาดของคุณคืออะไร
ทักษิณ ชินวัตร: ผมเล่นการเมืองโดยไม่ทำความเข้าใจให้ดีถึงโครงสร้างอำนาจของสังคม ผมพยายามที่จะจัดการให้เหมือนนักธุรกิจ พยายามที่จะทำการตลาด ทำการรณรงค์ และทำด้านการค้า ผมพยายามที่จะช่วยคนยากจน และรณรงค์เพื่อให้ได้รับความนิยม รณรงค์ในเรื่องที่ผมได้ทำสำหรับพวกเขา และทำงานหนักเพื่อพวกเขา โดยลืมนึกถึงความสลับซับซ้อนของโครงสร้างอำนาจของการเมืองไทย ผมไม่เดียงสาในเรื่องนั้น ผมจึงได้สะดุด
จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้ ภาพพจน์ของประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความสามัคคีและมีเอกลักษณ์แห่งชาติที่โดดเด่น แล้วทำไมคนไทยจึงได้ขาดความสามัคคีกันได้ขนาดนี้
ทักษิณ ชินวัตร: ก็เพราะความหวาดระแวงเรื่องความมั่นคงของราชวงศ์ พวกเขาคิดว่าผมน่ะได้รับความนิยมมากเกินไป และอาจจะเกินราชวงศ์ และผมจะเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งผมไม่เคยแม้แต่จะคิด ผมเพียงพยายามที่จะรับใช้ประเทศชาติ ผมน่ะมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ของผม ผมจะทำแต่สิ่งที่ดีๆ เพื่อราชวงศ์
เมื่อเดือนเมษายน คุณได้วิงวอนให้กษัตริย์ทรงลงมาแทรกแซงเพื่อคืนความปรองดองของสังคมไทย คุณยังมีความหวังว่ากษัตริย์จะทรงทำเช่นนั้นหรือไม่
ทักษิณ ชินวัตร: ผมไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ผมแน่ใจว่าพระองค์ทรงอยู่เหนือ (การเมืองทั้งปวง) แต่พวกคนใกล้ชิดในวังซึ่งมีเครือข่าย พวกเขาร่วมมือกัน พูดคุยด้วยกัน พวกเขาต้องการสร้างภาพว่าพวกเขานั้นมีความจงรักภักดีเป็นที่สุด และพวกเขาต้องทำการกำจัดใครก็ตามซึ่งไม่จงรักภักดี ใครก็ตามที่อาจจะเปลี่ยนประเทศไทยไปเป็นสาธารณรัฐ พวกเขาต้องการกำจัดผมเพราะพวกเขาพูดว่า ผมน่ะพยายามเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสาธารณรัฐ และจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นั่นไม่ใช่ความจริง ผมน่ะมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เป็นที่สุด
อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ที่ http://thaienews.blogspot.com/2009/11/times_9222.html แล้วคุณจะคุยกับคนอื่นรู้เรื่องครับ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม









