ขอพระราชทานอภัยโทษ ช่องว่างบนเส้นทางสู่อิสรภาพ
การพระราชทานอภัยโทษ เป็นขั้นตอนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259-267 มีอยู่ 2 ประเภทหลักๆ คือ
1. การพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป เนื่องในวาระโอกาสสำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ เช่น วันที่ 5 ธันวาคม วันที่ 12 สิงหาคม โดยคณะรัฐมนตรีจะตราพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นักโทษทุกคนที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์
2. การขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ซึ่งเป็นช่องทางพิเศษที่นักโทษทุกคนที่คดีถึงที่สุดแล้ว สามารถยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษได้
แม้กฎหมายไม่ได้เขียนไว้โดยตรง จำเลยต้องรับสารภาพก่อนจึงจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ แต่ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติกันว่าจำเลยต้องรับสารภาพและต้องแสดงออกถึงความสำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ธรรมเนียมปฏิบัตินี้เองทำให้ระบบการขอพระราชทานอภัยโทษในปัจจุบันสร้างช่องว่างขึ้นระหว่างทางของกระบวนการยุติธรรมอยู่บ้าง
1. การรับสารภาพ ไม่สู้คดี ตัดตอนการค้นหาความจริง
จำเลยเลือกวิธีนี้เพราะเชื่อว่าจะทำให้รับอิสรภาพเร็วขึ้น แม้ตนจะเชื่อว่าไม่ผิดก็ตาม
2. การยอมรับว่าการแสดงออกนั้นเป็นความผิด ทำให้ไม่มีบรรทัดฐานการตีความ
จำเลยยอมรับว่าสิ่งที่ถูกฟ้งร้องนั้นตนได้ทำจริง เลี่ยงการต่อสู้ทางเนื่อหาที่ต้องพิสูจน์กันหลายขั้นตอน
3. การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ยังต้องแลกกับอิสรภาพระดับหนึ่งที่ไม่แน่นอน
จำเลยเข้าใจดีว่าหมดสิทธิ์ต่อสู้คดีทางอื่นแล้ว อุทธรณ์ต่อไปไม่ได้แล้ว ได้แต่รอให้คดีนั้นถอนอุทธรณ์ หรือระยะเวบายื่นอุทธรณ์/ฏีกาสิ้นสุดลง ถึงจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ ในช่วงนี้จะต้องแสดงออกว่าสำนึกผิด หยุดการเคลื่อนไหวทางการเมือง กิจกรรมรณรงค์ ทำตัวดีๆ เงียบๆ เพื่อจะได้มีอิสรภาพเร็วขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีข้อสังเกตอีกว่า ไม่ว่าจะเงียบเท่าไรก็ตาม กว่าคดีจะถึงที่สุด กว่าจะยื่นขอหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษและรอคำสั่ง จนถึงวันที่ได้รับอิสรภาพจริง ก็ต้องแลกมากับการถูกจองจำเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนเสมอ เช่น
- กรณีนายเลอพงษ์ ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 1 ปี 1 เดือน 18 วัน
- กรณีนายอำพล ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 1 ปี 9 เดือน 6 วัน ก่อนจะเสียชีวิต
- กรณีนายวันชัย ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 4 ปี 2 เดือน 1 วัน
- กรณีนายธันย์ฐวุฒิ ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 3 ปี 3 เดือน 5 วัน (ระยะเวลานี้รวมช่วงเวลาที่ถูกคุมขังในชั้นสอบสวนและในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น)
ขณะที่คดีในอดีต อย่าง กรณีนายแฮรี่ ก็ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 5 เดือน 19 วัน กรณีนายโอลิเวอร์ ต้องถูกจองจำอยู่ทั้งหมด 4 เดือน 6 วัน หรือกรณีของนายวีระ มุสิกพงศ์ ต้องถูกจองจำอยู่ประมาณ 1 เดือน ก่อนได้รับอิสรภาพ
อ่านละเอียดได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/RoyalPardon2013 ครับ