คำไทย คนไทยควรรู้ที่มาและความหมาย!!
โพสท์โดย MooNutty
วัฒนธรรมไทย คำนี้คนไทยได้ยินบ่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่คนไทยควรจะหวงแหน-อนุรักษ์ให้อยู่คู่กับชาติไทย แม้จนชีวิตจะหาไม่ ... ลำตัด เพลงฉ่อย ลิเก ดนตรีไทย เพลงไทยเดิม อาหารไทย ลวดลายไทย และหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้ง คำไทย ล้วนเป็นวัฒนธรรมไทยที่ควรหวงแหนทั้งสิ้น บล็อกวันนี้ ขอนำเสนอ 'คำไทย คนไทยควรรู้ที่มาและความหมาย' รวม 40 คำ
# 1 .. รูป - องค์
ทั้งสองคำเป็นคำลักษณะนาม ที่ใช้เรียกพระภิกษุและพระพุทธรูป โดย พระภิกษุ นั้น จะใช้ว่า พระภิกษุ 5 องค์ หรือ พระภิกษุ 5 รูป ก็ได้
ส่วน พระพุทธรูป เราจะใช้คำว่า องค์ เท่านั้น เช่น เมื่อวาน ผมได้สรงน้ำพระพุทธรูป 7 องค์
ทั้งสองคำเป็นคำลักษณะนาม .. แม่น้ำ, ลำคลอง เราจะเรียกเป็น สาย เช่น สายน้ำ .. แม่น้ำ 2 สาย
ส่วน ถนน เราจะเรียกเป็น เส้น เช่น เส้นทาง .. ถนน 2 เส้น
เป็นคำมาจากคำภาษาอังกฤษว่า "Sign" แปลว่า ลงลายมือชื่อ (เซ็น คำนี้ไม่มี "ต์" การันต์)
หมายถึง ยินยอม ยอมให้ ตกลง (คำว่าอนุญาต ต.เต่า ตัวสะกด ไม่มีสระอิ)
บางคนจะสะกด ประสพ โดยใช้ พ พาน บางคนจะสะกด ประสบ โดยใช้ บ ใบไม้ คำนี้จะใช้ตัวสะกดอะไร จะต้องดูที่ความหมาย
คำว่า ประสพ ที่สะกดด้วย พ ประสพ แปลว่า การเกิดผล การณ์ แปลว่า เหตุ เค้ามูล ประสพการณ์ จึงแปลว่า เหตุแห่งการเกิดผล
ส่วนคำว่า ประสบ ที่สะกดด้วย บ ประสบ แปลว่า พบ เห็น ประสบการณ์ แปลว่า ความจัดเจนที่เกิดจากการกระทำหรือได้พบเห็น มีความหมายตรงกับคำว่า Experience
สองคำนี้ เป็นคำพูดฟุ่มเฟือยไม่มีความหมาย มักใช้พูดนำหน้าคำหรือเวลาที่ยังนึกอะไรไม่ออกว่าจะพูดอะไร เช่น แบบว่า ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี
แมง มี 8 ขา หรือ 10 ขา ไม่มีหนวด ไม่มีปีก ตัวอย่างเช่น แมงมุม
ส่วน แมลง มี 6 ขา อาจมีปีก 1 คู่ หรือ 2 คู่ แต่บางชนิดก็ไม่มีปีก แมลงเป็นสัตว์ที่มีมากชนิดที่สุดในโลก
ขมีขมัน หมายถึง รีบเร่งในทันทีทันใด (อ่านว่า ขะ-หมี-ขะ-หมัน)
ขะมักเขม้น หมายถึง ตั้งใจทำอย่างรีบเร่ง ก้มหน้าก้มตาทำ (อ่านได้สองแบบ คือ ขะ-มัก-ขะ-เม่น และ ขะ-หมัก-ขะ-เม่น)
ลิงได้แก้ว - ไก่ได้พลอย หมายถึง การไม่รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ตนมีอยู่ หรือได้มา
ส่วน ตาบอดได้แว่น - หัวล้านได้หวี หมายถึง การได้สิ่งที่ไม่มีประโยชน์แก่ตนเอง
ทู่ซี้ หมายถึง ทนไปจนกว่าจะตาย
ส่วน เซ้าซี้ หมายถึง การแสดงออกทางการพูด รบเร้าเพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ
ฉับพลัน หมายถึง ในทันทีทันใด
ส่วน เฉียบพลัน หมายถึง รุนแรงมาก ใช้ในวงการแพทย์ เช่น อาการหัวใจวายเฉียบพลัน
ภาพลักษณ์ หมายถึง ภาพที่เกิดจากความนึกคิด
ส่วน ภาพพจน์ หมายถึง คำพูดที่ทำให้เห็นเป็นภาพ
กระบวนการ หมายถึง ลำดับการกระทำซึ่งดำเนินต่อเนื่องกันไปจนสำเร็จลงในระดับหนึ่ง
ส่วน ขบวนการ หมายถึง กลุ่มคนที่รวมกันเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
มาจากการติดเครื่องยนต์โดยยังไม่เริ่มทำการใดๆ ปัจจุบันนำมาใช้พูดถึงสิ่งอื่นๆ ด้วย
เช่น การฝึกซ้อมชั่วขณะก่อนเริ่มลงแข่งขันจริง หรือรอบการแข่งขันก่อนการแข่งขันใหญ่ที่เรียกว่า รอบอุ่นเครื่อง
หมายถึง การแข่งขันรอบที่คู่แข่งขันซึ่งเคยพบกันมาแล้ว มาพบกันอีกครั้ง
เป็นคำมาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว คำว่า โอ แปลว่า ดำ เลี้ยง แปลว่า เย็น
รวมแล้ว โอเลี้ยง หมายถึง สิ่งที่มีสีดำและเย็น ก็คือกาแฟดำเย็น
สองคำนี้ เขียนคล้ายๆกัน แต่มีความหมายแตกต่างกัน
ผัด หมายถึง ขอเลื่อนเวลาออกไป เรามักจะพบในคำว่า ผัดผ่อน, ผัดวันประกันพรุ่ง
ส่วน ผลัด หมายถึง เปลี่ยนแทนที่กัน เราจะใช้ในคำว่า ผลัดเปลี่ยน, ผลัดเวร
หมายกำหนดการ เป็นคำราชาศัพท์ หมายถึง ขั้นตอนงานพระราชพิธี เช่น หมายกำหนดการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
ส่วน กำหนดการ หมายถึง ขั้นตอนงานทั่วไป เช่น กำหนดการเปิดงานโอทอป
หมายถึง สิ่งของ มักใช้นำหน้าในคำประสมที่เป็นของใช้ เช่น เครื่องเขียน, เครื่องบิน
แต่ถ้านำคำว่า เครื่อง ไปรวมกับคำอื่นเพื่อใช้เป็นคำราชาศัพท์ ก็จะมีความหมายเกี่ยวข้องกับของกินของใช้ของเจ้านายชั้นสูง
เช่น ทรงเครื่อง หมายถึง แต่งตัว, ตั้งเครื่อง หมายถึง การตั้งของรับประทาน
มีห้องต่างๆ สำหรับพระมหากษัตริย์ทรงใช้สอย ซึ่งเป็นคำราชาศัพท์
เช่น ห้องสรง คือ ห้องน้ำ ห้องแต่งพระองค์ คือ ห้องสำหรับแต่งตัว
ห้องทรงพระอักษร คือ ห้องสำหรับเขียนหนังสือ ห้องทรงพระสำราญ คือ ห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อน
เป็นคำที่เรียกช้อนและส้อมรวมกัน แต่ถ้าแยกใช้เฉพาะช้อน จะเรียกว่า ฉลองพระหัตถ์ช้อน ส่วน ส้อม จะเรียกว่า ฉลองพระหัตถ์ส้อม
สำหรับ เครื่องใช้สำหรับคีบอาหาร เช่น ตะเกียบ จะเรียกว่า ฉลองพระหัตถ์ตะเกียบ
คือ รถยนต์ ที่เราเรียกกันเช่นนี้ เพราะเรียกตามอย่างเรือในสมัยก่อนคือ เรือเก๋ง คำว่า เก๋ง หมายถึง เครื่องบังมีฝาและหลังคาแบน
ในภายหลังเมื่อรถยนต์เข้ามาในเมืองไทย จึงเรียก รถเก๋ง ซึ่งจะใช้เรียกเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น
เป็นชื่อย่านการค้าที่โด่งดังในอดีตแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
สันนิษฐานว่า นางเลิ้ง มาจากคำว่า อีเลิ้ง เพราะแต่ก่อนบริเวณนี้เป็นที่ที่ชาวมอญผลิตโอ่งอีเลิ้ง และบรรทุกโอ่งใส่เรือมาขาย
จึงเรียกบริเวณนี้ว่า อีเลิ้ง ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น นางเลิ้ง เพื่อความสุภาพ
เดิมที หางเครื่อง คือเพลงลูกบทที่ใช้บรรเลงต่อท้ายเพลงแม่บทในการบรรเลงเพลงไทยเดิม
ต่อมามีผู้คิดให้มีการร่ายรำประกอบตามเพลงในช่วงหางเครื่อง จึงเป็นที่มาของการเต้นประกอบเพลงที่เรียกว่า หางเครื่อง
คือแหล่งความรู้ขนาดใหญ่ เป็นที่รวมของหลายคณะวิชา
แต่ปัจจุบันหลายคนมักเรียกสั้นๆ จนติดปากว่า มหาลัย ทั้งๆ ที่ มหาลัย หมายถึง ที่อยู่ขนาดใหญ่ เท่านั้น
ตกแต่ง หมายถึง ประดับ ปรุงจัดให้ดี ทำให้งาม ใช้ได้ทั้งกับคนและสถานที่ มีความหมายเหมือนกันกับคำว่า ตบแต่ง
แต่คำว่า ตบแต่ง ยังใช้ในความหมายเพิ่มขึ้นอีกอย่าง คือจัดให้ลูกสาวมีเรือนตามประเพณี เช่น ตบแต่งให้ลูกสาวเป็นฝั่งเป็นฝา
สองคำนี้ มีความหมายแตกต่างกัน เห็นด้วย แปลว่า มีความเห็นอย่างเดียวกัน
ส่วนคำว่า เห็นชอบ มีความหมายว่า ถูกต้อง
ลมเสีย มาจากการเล่นว่าว ลมเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นว่าว ถ้าไม่มีลม หรือลมพัดไม่คงที่ จะเรียกว่า ลมเสีย
เมื่อ ลมเสีย ผู้เล่นว่าวจะเกิดอาการหงุดหงิด ดังนั้นคำว่า ลมเสีย จึงกลายเป็นอารมณ์เสียตามอารมณ์ของผู้เล่น คำนี้ ไม่ใช้คำสะกดว่า รมณ์เสีย
ตั้วโผ มักใช้เรียก เจ้าของคณะหรือหัวหน้าคณะ บางครั้งเรียกเพี้ยนเป็น โต้โผ
ตั้ว แปลว่า ใหญ่ โผ แปลว่าบัญชี เพราะฉะนั้นคำว่า ตั้วโผ โดยรากศัพท์จึงแปลว่า ผู้คุมบัญชีใหญ่
มาจากคำไทยสมัยก่อน โดยคนไทยนิยมให้ของขวัญแก่กันในงานสำคัญ เช่น งานโกนจุกลูกหลาน
โดยการนำเงินหรือของมีค่า ใส่ลงในขันที่เจ้าภาพตั้งไว้ในงาน จึงเกิดคำว่า ลงขัน ขึ้น
แต่ ปัจจุบันไม่นิยมนำเงินมาลงขันแล้ว อย่างไรก็ตาม ลงขัน ยังมีความหมายเดิมที่แสดงถึงการรวมน้ำใจเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
ใช้ในความหมายเชิงเปรียบเทียบ หมายถึง คนๆ นั้นมีความดีความชอบเร็วกว่าปกติ เพราะมีผู้ใหญ่ในที่ทำงานสนับสนุน
หมายถึง จบงาน หรือยุติ สันนิษฐานว่ามาจากประเพณีการเห่เรือพระราชพิธีในสมัยก่อน ซึ่งเมื่อเรือออกจากท่าก็จะเริ่มเห่เป็นทำนองเพื่อให้พายเรือเข้าจังหวะ
ครั้นเมื่อเรือไปถึงปลายทางแล้ว ก็จะจบการเห่ จึงเกิดคำว่า จบเห่ ขึ้น ปัจจุบันคำนี้ มักใช้ในความหมายว่า ยุติการทำการใดๆ
เป็นสำนวนที่ใช้ในการทำงานหรือทำสิ่งที่ได้ผลประโยชน์ ครบ ไม่ขาดตกบกพร่อง คำนี้มีที่มาจากการทำนาในอดีต
เล่ากันว่าเวลาต้นข้าวตั้งท้องถ้าไม่มีฝนมาช่วยให้ชุ่มชื้น จะทำให้ข้าวเม็ดในรวง โตไม่เต็มเปลือก ซึ่งจะเรียกว่า ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
คำนี้มาจากการนุ่งผ้าโจงกระเบนของไทยในสมัยก่อน ซึ่งคนที่รักสวยรักงามจะเป็นห่วงว่าผ้าโจงกระเบนจะลีบแนบตัว
จึงคอยแต่จะหย่ง หรือดึงผ้าให้พองออก จึงเกิดคำว่า หยิบหย่ง ขึ้น
ปัจจุบันคำนี้หมายถึง คนที่ไม่เอาการเอางาน ทำงานแบบกรีดกราย ไม่ทำอะไรจริงจัง มักจะถูกผู้ใหญ่ตำหนิว่า หยิบหย่ง
หมายถึง เด็กที่ดื้อจนผู้ใหญ่บังคับไม่ได้ หรือเอาไม่อยู่ โดยเปรียบเทียบกับช้างที่ถูกควาญบังคับให้ทำตามคำสั่ง โดยการใช้ขอสับ
แต่บางครั้งถ้าช้างตกมันหนักๆ ช้างก็ไม่กลัวตะขอ เลยเรียกกันว่า ช้างเหลือขอ ต่อมาจึงนำมาใช้เรียกเด็กว่า เด็กเหลือขอ
หมายถึง ผู้หญิงที่มีผู้ชายมารักใคร่ชอบพอ
เดิมคำว่า ติดพัน มาจากการเล่นว่าวของไทย ซึ่งมีการแข่งขันกันสองชนิด คือว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า
โดยผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ต่างพยายามคว้าดึงว่าวของคู่ต่อสู้ให้ตกลงมา การคว้าว่าวนี้ จะทำให้สายป่านพาดพันกัน จึงเรียกว่า ติดพัน
ปัจจุบันมีผู้ใช้คำว่า ติดพัน อีกความหมายหนึ่ง คือ การทำบางสิ่งบางอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถผละไปทำอย่างอื่นได้
เมื่อนำมาใช้ในสำนวนไทย จะหมายถึง ความนิยม หรือความมีใจชอบ เช่น เขาเป็นพวกคอหนัง ไม่ว่าหนังเรื่องไหน เขาต้องไปดูทุกครั้ง
หรือหากใครชอบอะไรเหมือนกัน หรือมีรสนิยมในทางเดียวกัน จะเรียกว่า คอเดียวกัน
เป็นหอยชนิดหนึ่ง คนไทยเคยนำมาใช้เป็นเงินปลีกย่อย
ต่อมาแม้จะใช้โลหะและกระดาษแทนเบี้ยแล้ว แต่เราก็ยังคงเรียกเงินบางชนิดในปัจจุบันว่า เบี้ย
เช่น เบี้ยเลี้ยง คือ เงินที่จ่ายให้เป็นค่าที่พักและอาหารในการทำงานนอกสถานที่
เบี้ยประชุม คือ เงินค่าตอบแทนในการเข้าประชุม หรือ เบี้ยน้อยหอยน้อย หมายถึง ยากจน มีเงินไม่พอค่าใช้จ่าย
เป็นสำนวน หมายถึง เห็นด้วย หรือ พลอยเห็นตามไปด้วย
ขุนวิจิตรมาตรา สันนิษฐานว่า น่าจะมาจากประเพณีการแต่งงานในสมัยก่อน ที่เจ้าบ่าวจะนำขันหมากไปบ้านเจ้าสาวในวันสุกดิบ
โดยของสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ขาดไม่ได้ในขันหมาก คือ ห่อหมก ที่แสดงถึงความตกลงร่วมกัน
หมายถึง ยกขึ้นจนเห็นเด่น เช่น เชิดหน้า เชิดหุ่น เป็นต้น
แต่ต่อมา คำว่า เชิด หมายถึงอาการฉกฉวย หรือพาไปอย่างรวดเร็ว เช่น คนรับใช้หนีออกจากบ้านพร้อมกับเชิดเสื้อตัวแพงของฉันไปด้วย
ที่มา: http://www.bloggang.com/
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อึ้ง !! ตำรวจบุกค้นบ้านซินแสชื่อดังที่เชียงใหม่ พบเลี้ยงเก้งป่าคุ้มครองผิดกฎหมายอีสานบ้านเฮา:สุขที่แท้จริง(อาหาร)รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่แดดออก แต่ฟ้าแอบๆครึ้มๆ ลมแรงมีไอเย็น เรียกได้ว่า 3 ฤดู ในวันเดียวเลยมั้งเนี่ยร้านเบเกอรี่เร่งทำขนมปังรูปสัตว์ต่าง ๆ สำหรับวันลอยกระทง สูตรนี้คนกินได้ สัตว์น้ำก็กินดี ☺️เซอร์ไพร์ !! กาฮี อดีตวง After School ร่วมแห่ขบวนขันหมากงานแต่งพี่ชายที่ไทย นักแสดงเกาหลี "ซง แจ ลิม" เสียชีวิตแล้วงานแต่งใครไม่สนใจ ตูบจะนอนอย่างเดียว 😂"ทรัมป์" แต่งตั้งพิธีกรทีวี คุมกลาโหมแก๊งบิ๊กไบค์ออกทริปเต็มถนน ติดธงประเทศเพื่อนบ้าน แช่ขวาขวางถนน.ไม่สนโลกเทคนิคเอาชนะความตื่นเต้น พูดเก่ง Presentation ปัง! เริ่มต้นอย่างไรฟิลิปปินส์รับมือไต้ฝุ่น "โทราจิ" พัดถล่มภาคเหนือ น้ำท่วมหนักสถานีตำรวจเมืองอีลากันHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เทคนิคเอาชนะความตื่นเต้น พูดเก่ง Presentation ปัง! เริ่มต้นอย่างไรพบโบราณวัตถุสุดล้ำค่า! มีดด้ามแก้วสีน้ำเงินอมม่วงและฝักงาช้างฝังอัญมณีแห่งจักรวรรดิออตโตมันใหม่ ดาวิกา เอาจริง! เตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด พร้อมประกาศนำเงินช่วยสัตว์