สาเหตุทำมือถือระเบิด แบตถูก-เครื่องยำ-พฤติกรรมการใช้
การวิเคราะห์ของวิศวกรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกิดจาก 3 ปัจจัยหลักคือ
- เป็นเครื่องที่ย้อมแมวขาย โดยการประกอบขึ้นใหม่ที่อุปกรณ์ภายในและรูปลักษณ์ข้างนอกเป็นคนละรุ่น หรือที่เรียกว่าเครื่องยำ
- ใช้แบตเตอรี่ราคาถูกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีระบบการตัดไฟก่อนจะทำให้ระเบิด อย่างของคอมมี่จะมีโอเวอร์ฮีต ซึ่งจะตัดก่อนจะระเบิดเหมือนเครื่องปั๊มน้ำ
- เกิดจากพฤติกรรมของผู้ใช้ เช่น ทำตกแล้ววงจรอาจเคลื่อน
แบตเตอรี่มือถือที่ใช้ทุกวันนี้ มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นิกเกิล แคดเมียม (NI-CD) นิกเกิล ไฮดราย (NI-MH) ลิเทียม โพลิเมอร์ (LI-POL) ลีด เอซิด (Lead Acid) และ "ลิเธียม - ไอออน" ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด และมีโอกาสระเบิดสูงสุดเช่นกัน
ทั้งนี้แบตเตอรี่ลิเธียม - ไออนถูกประดิษฐ์ขึ้นมาแทนที่นิกเกิล ไฮดราย นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ คือ น้ำหนักเบาและสะสมพลังงานได้หนาแน่นกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ แต่เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตลิเธียม - ไอออนมีส่วนผสมของ"โคบอลต์ออกไซด์" ทำให้เมื่อตัวแบตเตอรี่โดนความร้อนสูงในระดับหนึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเร่งความร้อนเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้แบตเตอรี่ไหม้ หรือ ระเบิดในที่สุด
แต่ก็ไม่ใช่ว่าสาเหตุที่มือถือระเบิดจะแบตเตอรี่เสียทั้งหมด เพราะบางครั้งก็มาจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ชิ้นส่วน รวมทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การที่ชิ้นส่วนภายในเครื่องมือถือเกิด ไฟฟ้าลัดวงจร หรือ ชิ้นส่วนบางตัวในมือถือบกพร่องมาแล้วตั้งแต่ผลิตออกจากโรงงาน และอาจจะมาจากข้อบกพร่องของระบบชาร์จไฟในมือถือได้เช่นกัน
นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถป้องกันมือถือระเบิดได้ โดยขั้นตอนการชาร์จแบตเตอรี่นั้น ไม่ควรชาร์จนานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะจะมีผลให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่มีความร้อนสูงขึ้น แม้วงจรของแบต และเครื่องโทรศัพท์จะมีการสั่งให้หยุดชาร์จแล้วก็ตาม
หากแบตเตอรี่ยังเหลืออยู่อีกเยอะก็ไม่ควรชาร์ตใหม่ ควรรอให้แบตหมดเสียก่อนจะดีกว่า และที่สำคัญก็คือแบตเตอรี่ของมือถือแต่ละยี่ห้อนั้นอาจจะผลิตออกมาเหมือน ๆ กัน แต่ก็อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องอ่านและปฏิบัติตามคู่มือดีที่สุด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็มองข้ามไปไม่ได้เลยนะคะ เพราะอาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้คะ
|