หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม

โพสท์โดย I AM THOR

 

 

 

ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม

          เชื่อกันว่านํ้าหอมนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว จากหลักฐานภาพวาดจิตรกรรม ฝาผนังตอนหนึ่งที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ที่เมือง Thebes ในประเทศ Egypt ที่เป็นรูปของหญิงสาวชาวอิยิปต์โบราณกำลังชโลมนํ้าหอมลงบนศรีษะ ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่ามีการใช้นํ้าหอมกันแล้วในยุคนั้น ซึ่งคาดว่านักเดินเรือชาวอิยิปต์ได้ไปนำมาจากดินแดนอื่น นํ้าหอมในสมัยโบราณนั้นจะทำมาจากยางไม้หอม ซึ่งยางไม้หอมแบบนี้จะมีอยู่ที่ Arabia และ Somalia เท่านั้น คำว่า "Perfume" นี้มีรากศัพท์มาจากภาษา ละติน ที่แปลว่า "ควัน" 
           
    
       ในกรีก (Greek) โบราณคนที่ทำนํ้าหอมนั้นจะเป็นผู้หญิง ซึ่งได้ปรับปรุงมรดกการทำนํ้าหอมที่ตกถอดมาจากชาวอียิปต์โบราณให้พัฒนาดีขึ้นไป


           ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน (Roman) การทำนํ้าหอมเขาจะใช้ยางไม้หอมจากต้นไม้จำพวก Boswellia โดยสั่งนำเข้ามาจาก Arabia และได้บวกกับส่วนผสมที่ได้มาจากทะเลจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นส่วนผสมใหม่ที่ใส่ลงไป ในการทำนํ้าหอม ของชาวโรมันในสมัยนั้น เศรษฐีชาวโรมันจะใช้นํ้าหอมตามความพอใจ ชนิดที่เรียกได้ว่าใช้แบบล้างผลาญเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ พวกเศรษฐีเหล่านี้จะเอานํ้าหอมไปพ่น และฉีดตามพื้นและกำแพงบ้านของตัวเอง และนอกจากนี้ยังนำนํ้าหอมไปฉีดให้กับสัตว์เลี้ยงของบรรดาเศรษฐีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สุนัข และ ม้า 

        
   ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของนํ้าหอมแล้วนั้นจะเกิดขึ้นในยุคกลาง (Middle ages) เมื่อชาวอาหรับ (Arabs) ได้คิดค้นพัฒนาเทคนิคในการกลั่นนํ้าหอมได้เป็นผลสำเร็จ 


           ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ของอาณาจักรเปอร์เซีย ได้ทำการปลูกดอกกุหลาบ เพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นนํ้าหอม เนื้อที่ที่ใช้ปลูกดอกกุหลาบนี้ใหญ่โตมหาศาลมาก จนถึงกับมีเรื่องเล่าขานกันว่า "กรุง Baghdad" (เมืองหลวงของประเทศอิรักในปัจจุบัน) ในสมัยนั้นได้สมญานามที่เรียกขานกันว่า "City of Fragrances" 

         
  นอกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ค้นพบส่วนผสมตัวใหม่ในการทำนํ้าหอมอีกด้วย นั่นก็คือ สารที่ได้จากตัวชะมด หรือ กลิ่นชะมดนั่นเอง ชาวอาหรับได้นำเจ้ากลิ่นชะมดนี้ไปผสมกับปูนขาว และพวกเขาก็นำปูนขาวที่ได้นี้ไปใช้สร้างสุเหร่า (Mosque) และพระราชวัง ซึ่งก็ทำให้ได้สุเหร่า และพระราชวังที่มีกลิ่นหอมไปทั่วทั้งเมือง และนี่คืออีกหนึ่งที่มาจากเรื่องเล่าถึงคำว่า "City of Fragrances" นั่นเอง

           ช่วงสมัยของ Crusaders ได้นำเครื่องหอมจากอาหรับไปให้ชาวยุโรปได้รู้จัก แต่สำหรับก้าวแรกของนํ้าหอม ในยุโรปนั้นเริ่มจริง ๆ ก็ในศตวรรษที่ 16 เมื่อ แคทเธอรีน เดอ เมคิชี่ (Catherine de Medici) มาที่ประเทศ Italy เพื่อที่จะแต่งงานกับอนาคตกษัตริย์ในช่วงนั้น 

           จากนั้นนํ้าหอม ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 19 ได้มีนักเคมีได้ทำการสังเคราะห์นํ้าหอมจาก สารเคมีจนได้กลิ่นต่าง ๆ มากมายหลายพันกลิ่น จนกระทั่งนํ้าหอมได้กระจายไปทั่ว จนเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
I AM THOR's profile


โพสท์โดย: I AM THOR
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สรุปเผยข้อมูลกลโกงใหม่ๆที่ต้องระวัง!!!ลือหึ่ง "ลิซ่า" BLACKPINK แอบจดทะเบียนสมรสกับแฟนหนุ่มแล้วเจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้5 คุณประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าทึ่งของปลาทะเลเขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทยสวยสะกดโลก! สรุปผล 100 ผู้หญิงใบหน้าสวยที่สุดปี 2025OpenAI กำลังเปิดรับสมัครงาน ด้วยเงินเดือนประจำ ปีละ 17.5 ล้านเหรียญUNICEF เตือน การจำกัดอายุการใช้งานโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้นนรกแตกก่อนวันเซ็นสัญญา F16 ไทยบึ้มสะพาน คืนหมาหอน "ฮุนเซน" อกแตก แพ้หมดรูป จำยอมเซ็นสงบศึกพ่อแม่เปิดกล้องหัวใจแทบสลาย แม่บ้านแอบใส่ "เดทตอล" ในขวดนมให้ลูกน้อยกินผู้ช่วยกอบกู้บริษัท IBM "ลู เกิร์สต์เนอร์" เสียชีวิตแล้วแม่โบว์ถูกวิจารณ์จากคลิปสอนลูก ลั่นการเลี้ยงลูกไม่ใช่การท่องตำรา โซเชียลแบ่งเป็นสองฝ่าย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เจาะสเปก กริเพน ทําไมกองทัพไทยถึงเลือกใช้เขมรเผย เราจะเป็นเพื่อนบ้านไทยอย่างถาวร'MH370' ปริศนาเกี่ยวกับเครื่องบินที่ลึกลับที่สุดในยุคปัจจุบันนายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ฮุน มาเนต” เรียกร้องให้สื่อมวลชนรายงานข่าวชายแดนกัมพูชา–ไทยอย่างถูกต้องตามจริยธรรมวิชาชีพAvatar 3 ช่วยแบก MAJOR ไม่ไหว! กำไรดิ่งหนัก 30%UNICEF เตือน การจำกัดอายุการใช้งานโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ช่วยให้เด็กปลอดภัยขึ้น
ตั้งกระทู้ใหม่