>>> ผีฆ่าพระ <<<
มีต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่ง อยู่ที่ไหนเขาไม่ได้บอก มีปีศาจมันสิงอยู่ ปีศาจตนนี้มันดุร้าย พระธุดงค์ไปพักอยู่ที่ต้นไทร มันฆ่าพระตายหลายองค์แล้ว ทีนี้พระธุดงค์องค์นี้ พอไปก็จะไปปักกลดอยู่ที่ร่มต้นไทรต้นนั้น ชาวบ้านที่เขาเห็นเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มา เขาก็เป็นห่วงกลัวว่าพระจะถูกผีฆ่าตาย
เขาก็มาบอกว่า
“พระคุณเจ้า ต้นไทรต้นนี้ปีศาจมันดุ มันฆ่าพระตายไปหลายองค์แล้ว”
แต่พระองค์นี้ทะนงตนว่าตัวเองมีวิชาอาคม เขาก็บอกโยมว่า...... “อาตมาไม่กลัวหรอก ผีนี่เคยปราบมาเยอะแล้ว”
“อ้าว ถ้าพระคุณเจ้าไม่เชื่อก็ตามใจ”
เสร็จแล้วพระก็ปักกลดใต้ต้นไทรต้นนั้น ตั้งแต่หัวค่ำก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอถึงสองยาม คล้าย ๆ กับว่ามีลม ฝนทำท่าจะตก โดยวิสัยของหมอวิชาอาคม เขาก็รู้ทันทีว่าจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น ก็รีบเข้าที่นั่งท่องมนต์คาถาที่เรียนมา ลมมันก็สงบไป
พอลมสงบไป ลืมตาขึ้นมองเห็นผีใหญ่ มันยืนจังก้า หัวมันสูงเท่ากับยอดไทร แกก็นั่งหลับตา บริกรรมคาถาบทใหม่อีก พอลืมตาขึ้นแทนที่ผีมันจะหนีไป มันเลยมานั่งยอง ๆ อยู่แค่เอื้อม ตอนนี้ชักจะหวั่น ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว เสร็จแล้วแกก็มานึกถึงข้าวสารที่เสกเอาไว้อยู่ในกระเป๋าอังสะ ก็หลับตาล้วงมือลงไปกำเอาข้าวสาร แล้วก็บริกรรมภาวนา ซัดข้าวสารไป แทนที่ผีมันจะกลัวข้าวสาร มันกลับเอื้อมมือมาบีบคอแล้วก็กดลงกับพื้น
พอพระองค์นั้นถูกผีมันบีบคอกดลงกับพื้น ก็รู้สึกว่าลืมคาถาอาคมหมด นึกถึงคาถาอาคมบทไหนก็ไม่มีแล้ว ก็เลยมานึกว่าคราวนี้ตายแล้ว ตาย…ตาย ตายอย่างไม่มีใครช่วยเหลือ ตายคนเดียว พอนึกถึงว่า ตายจริง ๆ …ตายจริง ๆ แล้วคราวนี้ไม่รอดแน่ ตายคนเดียว
ผีมันก็เลยคลายมือออก เสร็จแล้วมันก็ไปจับลุกขึ้นมานั่ง
ผีมันก็เลยเทศน์สอนเอาว่า
“พระ คุณเจ้านี่รู้จักแต่ท่องคาถาอาคมยังกับนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่รู้ความจริง นี่พอถูกบีบคอ นี่กลัวจะตาย ยังพอมีสติระลึกได้บ้าง ยังรู้ความจริงขึ้นมาบ้างนิดหน่อยว่าตัวเองจะตาย ข้าพเจ้าสงสารท่านก็เลยไม่ฆ่าท่าน ให้เวลาท่านไปภาวนาเพื่อให้มันรู้ความจริง”
ผีมันสอนแล้วมันก็อันตรธานหายไป
หลังจากนั้นพระองค์นั้นก็ไม่ท่องคาถาอาคม ทิ้งหมดเลย พิจารณาแต่ความตายอย่างเดียว
เพราะฉะนั้น ภาวนาจิตไม่สงบก็ได้บุญ พระองค์นั้นนึกว่าตาย …ตาย ๆ เพียงนิดเดียวก็ได้บุญ คือรอดตายมา ผีมันไม่ฆ่า นี่แหละเป็นตัวอย่าง แล้วก็เป็นความจริงด้วย
จึงควรจำไว้ว่า ผีมันชอบความจริง การที่เราตั้งใจทำความดี ภาวนาทำสมาธิแล้ว ถึงแม้จิตไม่เป็นสมาธิ ให้เราระลึกถึงธรรมบทใดบทหนึ่ง เช่น พุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอพองหนอ หรือกำหนดสติรู้ตัวอยู่ในอารมณ์จิต
ถึงแม้จิตไม่สงบเป็นสมาธิ ก็ได้บุญ ภาวนาเอาบุญไปก่อน
โดย...หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
พระคุณเจ้าพระราชสังวรญาณ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
(8 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2464 — 15 พฤษภาคมพ.ศ. 2542) ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดป่าสาละวันอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา เป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งแห่งดินแดนอีสาน และเป็นลูกศิษย์องค์สุดท้ายของ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ท่านกำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก และในช่วงวัยเด็ก ท่านมักจะมีสุขภาพที่แข็งแรง แต่มีนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมในขณะอยู่ในเพศบรรพชิต ท่านได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ - นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ - อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา - รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆอีกด้วย
ท่านได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุได้ 78 ปี
ที่มา หนังสือชีวประวัติหลวงพ่อพุธ ฐานิโย