เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ คือ เหรียญ และตรา อันเป็นเครื่องประดับยศ เกิดขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงเรียกว่า "เครื่องราชอิสริยยศ" เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช ทรงสร้างเครื่องราชอิสริยยศขึ้นอีกหลายตระกูล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เปลี่ยนจากคำว่า "เครื่องราชอิสริยยศ" มาเป็นคำว่า "เครื่องราชอิสริยาภรณ์" สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และผู้กระทำคุณความดีให้แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งที่เป็นบุรุษและสตรี โดยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มี ๔ ประเภท ดังนี้
ประวัติ
เมื่อลัทธิจักรวรรดินิยมตะวันตกเริ่มเข้ามาคุกคามประเทศตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นชนวนให้คนรุ่นใหม่ในสยามประเทศเริ่มเคลื่อนไหวไปตามกระแสความเปลี่ยนแปลง เพื่อเตรียมปรับรับมือกับสิ่งใหม่ที่บรรดานักล่าอาณานิคมชาวตะวันตกนำเข้ามา ซึ่งก่อให้เกิดพัฒนาการอันเป็นพื้นฐานที่ดีต่อประเทศนานัปการ อาทิ การให้ความสนใจศึกษาเรื่องราวความเป็นมา ทั้งในด้านภาษา ศาสนา และศิลปะวิทยาการต่างๆ ของชาติตะวันตกเหล่านั้นอย่างจริงจัง
ผู้ที่เป็นแกนนำสำคัญก็คือ เจ้าฟ้ามงกุฎ ที่มีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล เมื่อทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีความพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ที่ดำเนินมาพร้อมกับการแสวงหาประโยชน์ อย่างผู้ที่ถือตนว่ามีพัฒนาการและอำนาจเหนือกว่าชาติทางแถบเอเชีย โดยได้โปรดให้ปรับเปลี่ยนธรรมเนียมแบบแผนหลายๆ อย่างให้เหมาะแก่กาลสมัย และสอดคล้องกับความเป็นสากลนิยม ตามแบบชาติตะวันตกที่เป็นมหาอำนาจอยู่ ณ เวลานั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่ง อันเป็นจุดกำเนิดของสิ่งประดับตกแต่งกับเสื้อที่เป็นเครื่องแสดงยศศักดิ์และบ่งบอกถึงฐานันดร หรือตำแหน่งหน้าที่ของผู้ที่ใช้ประดับอยู่ได้ โดยเครื่องประดับเสื้อเพื่อแสดงยศศักดิ์นี้ มีแบบอย่างมาจากชาวยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่มีความเป็นมาว่า แต่เดิมใช้เป็นเครื่องหมายในหมู่คณะพวกผู้ดี ที่ปฏิบัติกิจทางศาสนาเดียวกัน จนกระทั่งเมื่อเกิดสงครามครูเสดเพื่อแย่งชิงดินแดนปาเลสไตน์ ที่ชาวคริสต์ถือว่าเป็นถิ่นกำเนิดของพระเยซู ให้รอดพ้นจากการครอบครองของชาวมุสลิม บรรดากษัตริย์และผู้มียศศักดิ์ทั้งหลายในยุโรป ได้พากันรับอาสาไปเป็นทหารครูเสดกันหลายประเทศ พระสันตะปาปาแห่งกรุงโรมจึงคิดทำเครื่องหมาย ให้แก่บรรดาทหารอาสาหรือที่เรียกกันว่า อัศวินนักรบ ผู้มีความกล้าหาญเหล่านั้น ด้วยการใช้รูป “กางเขน” เพื่อแสดงถึงความเป็นพวก ฝ่าย หรือคณะเดียวกันให้ปรากฏ โดยมีการเรียกคณะของแต่ละคณะว่า “Order”
หลังสงครามยุติลง มีการนำเครื่องหมายกางเขนมาตกแต่งให้มีรูปแบบต่างกันไปตามชั้นยศ เป็นเครื่องหมายแสดงตำแหน่งหรือความกล้าหาญ หรือเป็นบำเหน็จความชอบที่กษัตริย์พระราชทานให้ สิ่งเหล่านั้นจึงกลายมาเป็น “เครื่องราชอิสริยาภรณ์” เพราะได้รับมอบจากกษัตริย์ โดยใช้คำ “Order” แทนความหมายว่า “ตระกูล” ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องประดับอาภรณ์ที่ได้รับพระราชทาน อาทิ The Order of Aviz ของโปรตุเกส ที่เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลแรกและเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 17 ก่อนที่อาณาจักรสุโขทัยจะเริ่มก่อตั้งขึ้น
ในเอเชีย สยามนับเป็นประเทศแรกที่มีการใช้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามอย่างสากล ด้วยความใฝ่ใจศึกษาวัฒนธรรมและประเพณีตะวันตกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังที่ได้กล่าวแล้วในตอนต้น จึงมีพระราชดำริจะสร้างเครื่องหมายแบบชาวตะวันตก จากแบบของสิ่งที่เป็นเครื่องหมายแทนพระองค์ ได้แก่ ลวดลายของตราพระราชลัญจกรไอราพต ซึ่งเป็นตราประทับบนหนังสือราชการ และจากแบบของสิ่งที่เป็นมงคลเดิมของไทย ได้แก่ พลอย 9 ชนิด หรือที่เรียกว่า นพรัตน์ มาประยุกต์เข้าด้วยกันกับตราประดับเสื้อเพื่อแสดงเกียรติยศ ที่ชาวตะวันตกเรียกว่า Star โดยได้ทรงบัญญัติคำว่า “ดารา” ขึ้นมาใช้เรียกส่วนประกอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ตั้งแต่ชั้นที่ 2 เป็นต้นไปจนถึงชั้นสายสะพายและใช้มาตราบจนทุกวันนี้ แต่ยังคง ถือว่าเป็น “เครื่องราชอิสริยยศ” เพราะโดยมากสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานแก่พระราชวงศ์ ส่วน “เครื่องสำคัญยศ” ที่เป็นของขุนนางมีไม่มากนัก และถือว่าเป็นต้นเค้าเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยปัจจุบัน เช่น ดารานพรัตน เป็นต้นเค้าของเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ ดาราช้างเผือก เป็นต้นเค้าของเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ฯลฯ
ชนิดของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
ชื่อเครื่องราชอิสริยาภรณ์ | วันสถาปนา | ผู้สถาปนา | หมายเหตุ | อ้างอิง | |
---|---|---|---|---|---|
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์ | 11 มิถุนายน พ.ศ. 2505 | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช | |||
เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ | 30 มิถุนายน พ.ศ. 2425 | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ | พ.ศ. 2394 | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า | พ.ศ. 2416 | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี | 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก | พ.ศ. 2404 | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย | พ.ศ. 2412 | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง ดิเรกคุณาภรณ์ | 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 | พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช | |||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2454 | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว | ปัจจุบัน พ้นสมัยพระราชทาน | ||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์วัลลภาภรณ์ | 22 มีนาคม พ.ศ. 2461 | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว | ปัจจุบัน พ้นสมัยพระราชทาน | ||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์วชิรมาลา | 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว | ปัจจุบัน พ้นสมัยพระราชทาน |
เหรียญราชอิสริยาภรณ์อันเป็นบำเหน็จความชอบในความกล้าหาญ
- เหรียญในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
- เหรียญกล้าหาญ
- เหรียญชัยสมรภูมิ
- เหรียญชัยสมรภูมิอินโดจีน
- เหรียญชัยสมรภูมิการรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม
- เหรียญพิทักษ์เสรีชน
- เหรียญราชนิยม
- เหรียญปราบฮ่อ
- เหรียญงานพระราชสงครามยุโรป
- เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ
- เหรียญศานติมาลา
- เหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ
เหรียญราชอิสริยาภรณ์อันเป็นบำเหน็จความชอบในราชการแผ่นดิน
- เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา
- เหรียญช่วยราชการเขตภายใน
- เหรียญราชการชายแดน
- เหรียญในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก
- เหรียญในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
- เหรียญในตระกูลเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
- เหรียญจักรมาลา
- เหรียญจักรพรรดิมาลา
- เหรียญศารทูลมาลา
- เหรียญบุษปมาลา
- เหรียญลูกเสือสดุดี
- เหรียญลูกเสือสรรเสริญ
เหรียญราชอิสริยาภรณ์อันเป็นบำเหน็จในพระองค์พระมหากษัตริย์
เหรียญราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่ระลึก
- เหรียญสตพรรษมาลา
- เหรียญรัชฎาภิเศกมาลา
- เหรียญประพาสมาลา
- เหรียญราชินี
- เหรียญทวีธาภิเศก
- เหรียญรัชมงคล
- เหรียญรัชมังคลาภิเศก
- เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
- เหรียญชัย
- เหรียญที่ระลึกพิธีเฉลิมพระนคร 150 ปี
- เหรียญที่ระลึกงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ
- เหรียญที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป
- เหรียญรัชดาภิเษก
- เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
- เหรียญสนองเสรีชน
- เหรียญที่ระลึกพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- เหรียญที่ระลึกสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลสมัยเนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีเฉลิมพระชนมายุ 60 พรรษา (5 รอบ)
- เนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก
- เหรียญกาญจนาภิเษก
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
- เหรียญพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
- เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
- เหรียญเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555
- เหรียญกาชาดสรรเสริญ
- เหรียญกาชาดสมนาคุณ