ทินเนอร์ คืออะไร
ทินเนอร์ เป็นสารเคมีที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย มักนำมาใช้ผสมในสีทาบ้าน รวมทั้งน้ำยาล้างเล็บและสารเคลือบเงา เช่น แล็กเกอร์ หรือวาร์นิช
ในข้อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) พ.ศ. 2553 กำหนดมาตรฐานของทินเนอร์สำหรับแล็กเกอร์ ดังนี้ ทินเนอร์สำหรับแล็กเกอร์ (lacquer thinner) หมายถึง ของเหลวระเหยง่ายประกอบด้วย เอสเทอร์ (ester) คีโทน (ketone) แอลกอฮอล์ (alcohol) และไฮโดรคาร์บอน (hydrocarbon) สามารถละลายไนโตรเซลลูโลสเรซินได้ และยังช่วยลดความหนืดของวาร์นิชและสีด้วย
เนื่องจากทินเนอร์เป็นสารผสมของตัวทำละลายอินทรีย์ที่ระเหยง่ายหลายชนิด ดังนั้นในมาตรฐานทินเนอร์สำหรับแล็กเกอร์ จึงกำหนดห้ามใช้ตัวทำละลายที่เป็นพิษ ได้แก่ เมธานอล (methanol) เบนซีน (benzene) และคลอริเนเตดไฮโดรคาร์บอน (chlorinated hydrocarbon)
ตัวทำละลายอินทรีย์ที่มักนิยมใช้เป็นส่วนประกอบหลักของทินเนอร์ ได้แก่ โทลูอีน (toluene) ซึ่งนอกจากพบในทินเนอร์แล้ว ยังพบได้ในผลิตภัณฑ์อื่น เช่น กาวที่ใช้ซ่อมรองเท้า กาวสำหรับต่อท่อพลาสติก เป็นต้น โดยในทินเนอร์ประกอบด้วยโทลูอีน ประมาณร้อยละ 66 ร่วมกับตัวทำละลายอื่น ได้แก่ คีโทน ประมาณร้อยละ 17 และอัลกอฮอล์ ประมาณร้อยละ 17
คุณสมบัติทางกายภาพของโทลูอีน
มวลโมเลกุล : 92.14
ลักษณะทางกายภาพ : เป็นของเหลวใส ไม่มีสี ระเหยได้ สามารถติดไฟ และเกิดระเบิดได้
มีกลิ่นเฉพาะตัว
จุดเดือด : 110.6 องศาเซลเซียส
จุดวาบไฟ : 4 องศาเซลเซียส
โทลูอีนส่วนมากสามารถดูดซึมเข้าสู่รางกายโดยการสูดดมได้ถึงประมาณร้อยละ 40 ถึง 60 ของปริมาณโทลูอีนทั้งหมด และอาจดูดซึมได้บ้างทางผิวหนังจากการสัมผัสโดยตรง
โทลูอีนที่เข้าสู่รางกายประมาณร้อยละ 60 ถึง 80 จะแปรสภาพที่ตับโดยเปลี่ยนเป็นกรดฮิพพิวริก (Hippuric acid) และขับออกทางปัสสาวะ โดยกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับโทลูอีนเข้าสู่ร่างกาย ยกเว้นในกรณีที่ได้รับโทลูอีนซ้ำต่อเนื่องกัน อาจเกิดการสะสมของกรดฮิพพิวริกในร่างกาย
1. เมื่อได้รับโทลูอีนในระยะสั้น ทำให้เกิดพิษเฉียบพลัน พบว่าในผู้ที่ได้รับโทลูอีนในปริมาณมากอาจหมดสติในระยะเวลาไม่กี่นาทีโดยไม่ มีอาการเตือนใด ๆ ล่วงหน้า สำหรับผลต่อระบบประสาท ในระยะแรกโทลูอีนจะกระตุ้นประสาท ต่อมาจะมีฤทธิ์กดประสาท โทลูอีนทำให้เกิดอาการปวดหัว มึนงง รู้สึกอ่อนเพลีย ชัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีผลต่อความจำ รู้สึกคลื่นไส้และเบื่ออาหาร นอกจากนั้นการได้รับโทลูอีนในปริมาณที่สูงยังอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยพบรายงานการเสียชีวิตจากการรับประทานโทลูอีนในปริมาณ 60 มิลลิลิตร การเสียชีวิตมักเกิดจากภาวะที่หัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดปกติ (ventricular arrhythmia) หรือจากภาวะการขาดออกซิเจน นอกจากนี้ยังพบการเกิดการทำลายต่อตับและไต รวมทั้งการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น การเกิดปอดอักเสบ เป็นต้น การรับประทานโทลูอีน ทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดกระเพาะอาหาร อาเจียน หากโทลูอีนเข้าตา จะเกิดการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน เยื่อบุตาอักเสบ และเกิดรอยที่กระจกตา อาการพิษเฉียบพลันมักหายได้ภายใน 48 ชั่วโมง การสัมผัสกับโทลูอีนเป็นเวลานาน เช่น จากการทำงาน ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น เช่น มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งกระดูก เป็นต้น
2. เมื่อได้รับโทลูอีนเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะในผู้เสพติดประเภทดมกาวซึ่งสูดดมโทลูอีนเป็นเวลาตั้งแต่ 3 ถึง 15 ปี พบว่ามีผลต่อสติปัญญาและอารมณ์ผิดปกติ ทำให้รู้สึกมีอารมณ์เคลิบเคลิ้ม มึนเมา คล้ายเมาเหล้า ฉุนเฉียวง่าย เซื่องซึม และยังส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น เบื่ออาหาร และต่อระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้การควบคุมการทำงานของระบบกล้ามเนื้อเสียไป เช่น ไม่สามารถหยิบจับหรือไม่มีแรงกำสิ่งของ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีรายงานความเป็นพิษผลต่อปอด เกิดภาวะถุงลมโป่งพอง (emphysema) ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น และ รายงานความเป็นพิษต่อตับและไตได้บ้าง เช่น ตับโต ความผิดปกติที่หลอดไต (renal tubule) ความผิดปกติของสมดุลย์อิเลกโตรไลท์ เป็นต้น รวมถึงมีผลต่อระบบเลือด เช่น ปริมาณของเม็ดเลือดแดงลดลง ความดันโลหิตต่ำ เม็ดเลือดแดงแตกง่าย และฮีโมโกลบินลดลง รวมถึงการกดไขกระดูก เป็นต้น ในผู้เสพติดที่เป็นหญิง อาจพบความผิดปกติของการเกิดประจำเดือน รวมไปถึงความผิดปกติของรอบระยะเวลาการเกิดประจำเดือน
ผลต่อหญิงตั้งครรภ์
มีรายงานวิจัยพบว่าหญิง ตั้งครรภ์ซึ่งมีประวัติการใช้สารเสพติดประเภทกาว พบว่าอาจเกิดการคลอดก่อนกำหนดและทารกเสียชีวิต โดยอาจเกิดจากโทลูอีนมีผลต่อทารกในครรภ์โดยก่อให้เกิดความผิดปกติทางสมอง อย่างไรก็ตามการสัมผัสกับโทลูอีนในสภาวะการทำงานปกติ ยังไม่มีรายงานแน่ชัดถึงผลต่อทารกในครรภ์
ภาชนะบรรจุ
ทินเนอร์เป็นสารที่ ระเหยได้ง่าย ดังนั้นภาชนะที่บรรจุต้องเป็นภาชนะที่ปิดสนิท และในการบรรจุต้องมีช่องว่างเหลือไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ของความจุภาชนะ ที่ฉลากต้องระบุคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ติดไฟง่าย มีสารพิษ ควรหลีกเลี่ยงจากการสูดดมและสัมผัสโดยตรง รวมทั้งระบุเดือน ปี ที่หมดอายุอีกด้วย
ข้อระวังในการใช้ทินเนอร์
เนื่องจากโทลูอีน ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในทินเนอร์สามารถเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจ และซึมผ่านผิวหนังได้ ก่อให้เกิดอาการพิษเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จึงควรระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรง ควรสวมหน้ากากและถุงมือป้องกันสารเคมี ในกรณีที่สัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น จากการสูดดม ให้เคลื่อนย้ายไปสู่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ หากเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที หากมีอาการระคายเคือง ปวด มีน้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ ให้รีบพาไปพบแพทย์ หากสัมผัสทางผิวหนัง ให้ล้างบริเวณที่สัมผัสด้วยสบู่และน้ำ นอกจากนั้นทินเนอร์ซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟได้ หากอยู่ใกล้เปลวไฟ เช่น การสูบบุหรี่ เป็นต้น จะทำให้เกิดการลุกไหม้ได้

















