STAR TREK INTO DARKNESS รีวิวปริศนาแห่งห้วงมืด (ไม่สปอยส์)
จั่วหัว : ภารกิจทะยานสู่ห้วงมืดที่มันส์ทะลุจอ
STAR TREK INTO DARKNESS :สตาร์เทร็ค ทะยานสู่ห้วงมืด
คมนิด จี๊ดเลย : ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเพื่อครอบครัวหรือใครบางคนคนที่เรารัก
Napat's Rating : (B) , 8 /10
อัพเดท เรื่องหนัง ทันใจ!! คลิก Like!!! :
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
- คำเตือน : นี่คือเรตติ้งและความคิดเห็นส่วนตัวหลังชมหนังของผมคนเดียวเท่านั้น ย้ำว่าส่วนตัวนะครับ บางคนเห็นตรง บางคนอาจเห็นต่าง ถือว่าเอามาแลกเปลี่ยนทัศนะกันเฉยๆ โปรดอย่าได้ถือสากับคำวิจารณ์ของผมเลยนะครับ เพราะเป็นเพียงอีกหนึ่งเสียงจากการชมหนังในฐานะคนดูหนังธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น -
จากใจ..ถึงหนังเรื่องนี้ : นี่คือหนังอีกหนึ่งเรื่องของปีนี้ที่ผมรอคอยที่จะชมมาเป็นเวลายาวนาน อันเนื่องมาจากภาคแรกที่ทำเอาไว้ได้ดีมากจนสามารถแจ้งเกิดStar Trekยุคใหม่ได้อย่างสำเร็จงดงาม กลับมาคราวนี้ ผู้กำกับจอมพลังบ้าLens Flare ก็นำทีมกลับมาพร้อมนักแสดงชุดเก่าร่วมด้วยตัวร้ายใหม่ อย่างเบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์ มารับบทเป็น"จอห์น แฮร์ริสัน"เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสตาร์ฟลีทที่แปรพักตร์ไปเป็นศัตรูตัวฉกาจและหมายทำลายองค์กรสตาร์ฟลีทให้สิ้นซาก
นี่คือหนังที่ดูเอามันส์ได้เต็มที่ ยิ่งถ้าดูแบบสามมิติรับประกันได้ว่า มันส์ทะลุจอ มีฉากแอ๊คชั่นต่อเนื่องมากมายและคอหนังไซไฟคงจะเพลินไปกับภาพล้ำๆได้ไม่น้อย มีเทคนิคพิเศษที่ดีมาก ดนตรีประกอบอลังการเช่นเคย แต่.....!!!
แต่การทะยานสู่ห้วงมืดที่ผู้กำกับเจเจพาเราเจาะเข้าไปนั้น สำหรับผมคิดว่ามันยังไม่สุดเท่าที่ควร อาจบอกได้ว่านี่คือหนังที่มีมาตรฐานที่"ใช้ได้"อีกเรื่อง แต่ยังน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่หนังไม่สามารถถีบตัวเองให้หลุดออกมาจากกรอบของภาคแรกไปได้ไกลนัก ทำให้รู้สึกว่าภาคนี้เป็นภาคที่ดูเอามันส์และไม่ค่อยมีความแปลกใหม่ในการเล่าเรื่องมากซะเท่าไหร่ ถ้ามองในแง่ดีอาจคิดซะว่านี่คือหนังที่เป็นพาร์ทสำหรับเชื่อมต่อกับภาคหน้า(ที่น่าจะดีกว่า?)กระมัง!!???
กล่าวคือเนื้อเรื่องของภาคนี้ค่อนข้างเปิดมาและเล่าอย่างรวดเร็วมาก เหมือนกับว่ามีอะไรมากมายที่จะเล่า แต่ว่าเอาจริงๆ หนังกลับไม่รอที่จะให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อหรืออินไปกับปูมหลังของตัวละครมากนัก ทำให้คนที่ไม่ใช่Trekkerหรือแฟนการ์ตูนซี่รี่ย์นี้อย่างผมที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อนไม่ได้รู้สึกเหวอมากนักกับการเปิดเผยถึงความลับที่บางตัวละครกุมเอาไว้ในเรื่องนี้
และด้วยความที่ตัวหนังค่อนข้างเน้นไปทางแอ๊คชั่น แม้ว่าจะมีดราม่าซึ้งๆในเรื่องของมิตรภาพเข้ามาบ้าง ซึ่งถือว่าทำได้ดีนะในแง่ของตัวละครนำที่มีความพัฒนาในแง่ของความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันมากขึ้นด้วยสถานการณ์ที่ต้องร่วมเสี่ยงตายด้วยกัน แต่กระนั้นแล้วผมคิดว่าภาพรวมของหนังก็ยังคงดูน่าจดจำน้อยกว่าภาคแรกมากพอสมควร เทียบกันแทบไม่ติด
สิ่งที่ดีในภาคนี้คือการแสดงของตัวร้ายของเรื่องอย่างตัวละคร จอห์น แฮร์ริสัน ผู้มีประวัติลึกลับซับซ้อน โดยเบเนดิกซ์สามารถตีบทนี้แตกกระจาย ด้วยสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง พฤติกรรมของเขาทุกอย่างทำให้เวลาเฮียเข้ามาในฉาก แอบรู้สึกน่ากลัวและน่าระแวงอย่างบอกไม่ถูก ถือว่าเป็นตัวร้ายที่โดดเด่นจนแย่งซีนพระเอกไปมากพอตัวได้อีกคนเลยทีเดียว
ว่าด้วยคาแรคเตอร์พระเอก กัปตัน เจมส์ ที เคิร์ก ภาคนี้เมื่อมีดีมากขึ้น ก็เริ่มห่ามเริ่มกร่าง จนเมื่อพอเจอห้วงมืดแล้วก็ถึงเข้าใจว่าถ้าถึงคราวจนตรอก เราก็อาจเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือของใครก็ไม่รู้ได้เช่นกัน แต่กระนั้นเราก็ไม่ควรคิดว่าเราเข้าตาจนตรอกซะทีเดียว การที่เราดิ้นรนไม่ยอมแพ้และยอมต่อสู้เพื่อคนที่เรารัก หรือในที่นี้คือสมาชิกในยานเอนเตอร์ไพรซ์ มักจะนำพาสิ่งที่ดีกว่ามาให้เสมอ แม้ว่าต้องใช้สัญชาติญาณนำพามากกว่าความรู้ แต่สถานการณ์ที่ย่ำแย่นี่แหละคือสิ่งที่จะสร้างวีรบุรุษ หรืออย่างน้อยก็คงทำให้มีบทเรียนเกิดขึ้นมากมาย
หนังภาคนี้ว่าด้วยเรื่องการเสียสละเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะในมุมมองของตัวร้าย ตัวเอก ทุกคนย่อมพร้อมพลีกายถวายใจเพื่อสิ่งที่ตนรักทั้งนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ "เพื่อนและครอบครัว" ของตนเอง หนังได้ให้ข้อคิดตรงจุดนี้ดี แต่เสียดายที่ปูพื้นเพมาน้อยไปหน่อยสำหรับอะไรหลายๆอย่าง ทำให้เราอินได้ในระดับนึงเท่านั้น
ถึงแม้ว่าภาพรวมหนังจะยังดูไม่สามารถเหนือชั้นกว่าภาคแรก แต่ตัวละครในภาคนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเด่น และถือว่ามีพัฒนาการมาจากภาคแรกได้ดี จะเห็นว่าตัวละครสป๊อค ยังคงบ้ากฏเกณฑ์ และเจมส์ ทีเคิร์กก็เอาแต่ตามใจคิด แต่ทั้งสองก็ได้รับบทเรียนที่ดีนั่นคือ
ในบางครั้งชีวิตมันไม่ได้มีแต่กฏเกณฑ์ และเราก็ไม่อาจอยู่ได้แค่ตามสิ่งที่คนอื่นกำหนดสร้างไว้เสมอไป (เหมือนอย่างสป็อค) หรือแค่ทำตามความรู้สึกเอาแต่ใจคิดเท่านั้น (อย่างเคิร์ก) เราจำต้องมีทั้งสองส่วนไปด้วยกัน และเรียนรู้ส่วนที่เราขาดไปพร้อมๆกัน
แล้วท้ายที่สุดก่อนที่เราจะออกมาจากห้วงมืดที่น่ากลัวได้ คงต้องสำรวจใจตัวเองก่อนว่าเราสามารถพาใจของเราออกจากมาจากห้วงมืดก่อนได้หรือเปล่า เพราะการกระทำที่มาจากเรา มันไม่ได้เอาแต่สะใจเพื่อตัวเรา แต่การกระทำของเรามันได้ส่งผลกระทบต่อคนอื่นๆเช่นกันอาจจะถึงชนิดที่ว่าเราคาดไม่ถึง ดังนั้นอย่าลืมว่าทุกครั้งที่เราถูกถีบไปอยู่ในห้วงแห่งความมืดมนให้อยู่ในวังวนอะไรสักอย่าง ต้องอย่าให้ปีศาจมาครอบงำเรา แต่เราต้องเริ่มจากเอาชนะจากห้วงมืดในใจเราให้ได้ อย่างน้อยก็เพื่อเป็นความหวังให้กับครอบครัวหรือกับใครสักคนที่เรารักก็เพียงพอ
ปล.สุดท้ายขอฝากหนังตัวอย่างทีเซอร์ "หนังซอมบี้-ไซไฟ" ผลงานเรื่องใหม่ของผมไว้ด้วยนะคร้าบ คาดว่าจะมาในช่วงเดือนสิงหาคมครับ
อันนี้ตัวอย่างหนัง "STAR TREK INTO DARKNESS" ครับ
ติดตามผลงานรีวิวอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
และสุดท้าย อย่าลืมช่วยกันโหวตกระทู้นี้นะคร้าบ
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ