กว่าจะเป็นหมอ "เส้นทางแห่งชีวิต" "ที่ฟ้าลิขิตหรือใจปราถนา"?
วันนี้อยู่บ้านว่างๆผมก็อ่านหนังสือเรื่องเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาหนังสือเก่าสมัยพระเจ้าเหาของแม่แฟนไปเรื่อยๆ แต่พอดีแฟนผมมันถามมาว่า "ไอ่กัสเรียนหมอมันต้องเรียนอะไรบ้างวะ" ผมก็ไม่รู้สิครับว่าปี 1 ถึงปี 6 ต้องเรียนอะไรกันบ้าง ก็เลยโทรไปถามพี่ชายดู แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ "กัส Google ก็มีทำไมแกไม่หาดูละว่าเขาเรียนอะไร พี่ไม่ว่างพอที่จะมานั่งคุยเรืองนี้กับแกหรอก เพราะคุยกับแกที่ไรปวดหัวทุกที" โอ้โฮ ดูสิดูพี่ชายผมพูดสิ เฮ้อ (ถอนหัวใจยาว) มันเป็นคำตอบที่ให้ความรู้มากกว่าจิ๋มมดนิดเดียวเองนะครับ พี่ชายที่รัก หลังจากนั้นก็หาสิครับ ว่าเขาเรียนไรบ้าง จะได้เก็บความรู้มาประดับกลีบสมองบ้าง และข้อมูลที่ได้มีประมาณนี้ครับ
1. การเรียนคณะแพทย์ ทุกสถาบันจะต้องเรียนทั้งสิ้น 6 ปีนะครับ
โดยจะแบ่งออกเป็น 2 section ใหญ่ๆ คือ
ช่วงชั้น pre clinic ได้แก่ ปี 1 2 และ 3
ช่วงชั้น clinic ได้แก่ ปี 4 5 และ 6 (น้องจะได้เจอผู้ป่วยในชั้น clinic นะ)
ซึ่งเมื่อจบมาไม่ว่าที่ไหน จะเป็นแพทย์ที่ดีได้เหมือนกัน แต่ระหว่างการเรียนอาจจะต่างตรงวิชา หรือ วอร์ดที่จะผ่านก่อนหลัง เท่านั้นเอง
ซึ่งที่นี้พี่คงรู้แค่ของทางจุฬาฯ ก็จะบอกเท่าที่รู้ละกันนะ
2.คำศัพท์ที่น้องๆมักสงสัยกัน คือ
- extern คือ นิสิตชั้นปีที่ 6
- intern คือ แพทย์ใช้ทุน (หลังจบปี 6 แล้วนั่นเอง)
- ward คือ ที่ที่ผู้ป่วยพักอยู่ (ผู้ป่วยใน)
- round คือ การไปเดินดูคนไข้ว่าอาการเป็นอย่างไร
3. ปี 1 เรียนอะไรบ้าง
- ภาษาอังกฤษ เช่น Experimental English 1+2 (อังกฤษมหาวิทยาลัย) English for Medical Professional 1+2 (เนื้อหาจะเกี่ยวกับแพทย์นิดนึง)
- Physics for Medical Students (จะเรียนฟิสิกส์แค่บางบท และเรียนแบบไม่มี cal ด้วย )
- Chemistry for Medical Students (จะเรียนทั้ง gen chem และ organic chem เนื้อหาแอบเยอะพอควร) +Lab
- Doctor and society (เรื่องเกี่ยวกับแพทย์ทั่วๆไป เช่น Holistic approach, ประวัติทางการแพทย์)
- Cell Biology for Medical Students (จะเป็นเนื้อหาคล้ายๆกับชีวะ ม.ปลาย แต่ละเอียดลึกขึ้น และเสริมเนื้อหาบางอย่างที่จะใช้ในปีต่อๆไป)
- วิชาเลือกทั่วไปอีก 18 หน่วยกิต ซึ่งสามารถเลือกเรียนได้ตามอัธยาศัย
4. ปี 2 เรียนอะไรบ้าง
- ปีนี้น้องจะเน้นเรียนเกี่ยวกับร่างกายที่ปกติของคนเรา
- น้องจะได้ผ่ากรอส (ผ่าอาจารย์ใหญ่) ในเทอม 1
- จุฬาฯ จะเรียนเป็นระบบ block (การ integrate เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกันนั่นเอง)
พูดง่ายๆ เช่น เมื่อน้องเรียนระบบกระดูก จะต้องเรียนว่ามันอยู่ที่ไหน (anatomy) ทำงานยังไง (physiology) เป็นต้น
- วิชาอื่นๆ เช่น Metabolism and Nutrition (เมแทบอลิสมและโภชนาการ), Neuroscience (ประสาทศาสตร์) เป็นต้น
5. ปี 3 เรียนอะไรบ้าง
- ปีนี้เราจะเน้นไปที่ร่างกายที่ผิดปกติ (หลังจากที่เราเรียนร่างกายที่ปกติว่ามันเป็นยังไงในปี 2 ไปแล้ว)
- วิชาที่เราจะเรียนก็จะมีมากมาย (ก็ปีหน้าจะต้องไปตรวจคนไข้แล้วหนิ) พี่ขอบอกเฉพาะที่สำคัญๆละกัน
Immunology (หลักภูมิคุ้มกันวิทยา), Microbiology and Parasitology, Pathology (หลักพยาธิวิทยา), Pharmacology (หลักเภสัชวิทยา)
** วิชาที่เหลือน้องอย่าพึ่งไปสนใจละกัน มันเป็นเกร็ดๆ บอกไปก็คง งงๆ กันได้อีก
- จะมีบางวิชาที่ใช้ PBL (Problem based learning) คือ ใช้ปัญหาเป็นฐาน พูดง่ายๆคือ จะมีสถานการณ์ให้น้องว่า
ถ้ามีคนไข้มาด้วยอาการอย่างนี้ คิดว่าเค้าเป็นโรคอะไร ควรรักษายังไง เพื่อเตรียมความพร้อมให้น้องก่อนขึ้นวอร์ด
6. ชั้น clinic เรียนอะไรบ้าง
พี่ขออธิบายรวมๆละกันนะครับ
- น้องจะได้ใช้ stethoscope (หูฟังของหมออ่า) และตรวจคนไข้ตั้งแต่ปี 4 โดยผ่านวอร์ดต่างๆ เช่น สูติ /ศัลย์ /อายุรศาสตร์ /กุมาร เป็นต้น
- ปี 4 กับ 5 จะต่างกันเพียงวอร์ดที่น้องจะเจอ
- ปี 6 จะต้องผ่านใหม่ทุกวอร์ด รวมถึงออกชุมชนด้วย ซึ่งน้องต้องฝึกจำ dose ยาที่จะใช้ และทำ(ให้ได้)ทุกอย่าง เพราะ จะจบไปเป็นหมอแล้วหนิ
- ชั้น clinic จะเรียนกันอย่างเมามัน คุ้มค่าหน่วยกิต
1. เปิดเทอมก่อนคณะอื่น :: ปี 4 จะเปิดเทอมประมาณ ต้นๆ พ.ค. (คณะอื่นเปิด 2 มิ.ย. 555) ซึ่งปี 5 เปิดก่อนปี 4 และ ปี 6 เปิดก่อนปี 5
2.ตอนเช้าและเย็น น้องจะต้องมาราวด์วอร์ด (ตรวจคนไข้ที่นอนใน ร.พ.) ทุกจันทร์-ศุกร์ บางวอร์ดราวเสาร์ อาทิตย์ด้วย
ตอนสายๆและบ่ายๆ ไปเรียนบรรยาย ฝึกทำหัตถการ
ตอนกลางคืน (ถ้าโชคดี) ปี 4 5 อยู่เวรเที่ยงคืน ปี 6 อยู่เวรถึงเช้า ซึ่งวันรุ่นขึ้งก็จะเรียนตามปกติ ไม่เกี่ยวว่าอยู่เวรแล้ววันรุ่งขึ้นหยุดพักผ่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://forum.docchula.com/index.php?topic=8581.0