คาบูกิ(歌舞伎)ศิลป์ศาสตร์แห่งการเริงรำ
歌舞伎
คาบูกิเป็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยนางรำที่ชื่อว่า Izumo no okuni กับคณะละครของเธอ ในสมัยนั้นยังไม่ประณีตบรรจงเท่าปัจจุบันจึงไม่น่าสนใจ เดิมละครคาบูกิจะใชผู้หญิงเล่นเป็นตัวนาง ซึ่งผู้หญิงเหล่านั้นมักจะเป็นโสเภณี แต่เพราะเป็นผู้หญิง การแสดงจึงดูอ่อนช้อยและงดงามแต่ในสมัยโทคุกาวามีการห้ามโดยเด็ดขาด ด้วยเห็นว่าไม่ดีงามต่อศิลธรรม
ตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง แสดงออกซึ่งท่าทางที่มีความหมาย เช่น ร้องไห้ เสียใจ ดีใจ โกรธ บ้าคลั่ง ฯลฯ จึงทำให้ละครคาบูกิเป็นที่นิยมดูกัน การแสดงถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนกลายเป็นที่นิยมที่สุดในสมัยเอโดะศตวรรษที่ 20 แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นละครคลาสสิคเนื่องจากคาบูกิเป็นรูปแบบความบันเทิงที่ผสมผสานกันหลากหลาย ตั้งแต่ดนตรี การร่ายรำ การเล่าเรื่องตลกชวนหัว เรื่องเศร้าซึ้งและทุกๆอย่างที่ผู้ชมต้องการดู ในละครคาบูกิไม่มีผู้แสดงหญิง ใช้นักแสดงชายแสดงเป็นผู้หญิงซึ่งเรียกว่า อนนะงาตะ ถ้าเป็นหญิงเรียก โอยามะ จะมีผู้คุมเวทีคือ คุโรโกะ จะมีหน้าที่ในการควบคุมการแสดงไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็ค ความปลอดภัย และอื่นๆ โดยคุโรโกะจะแต่งกายด้วยชุดดำมีผ้าบางปิดหน้าการแต่งกายคล้ายนินจาของญี่ปุ่น ส่วนนักดนตรีจะใส่ชุดคล้ายซามูไร
ต้นกำเนิดของ Kabuki คือคำว่า "Kabuku" คาบุคุ(เอียง) ซึ่งมีความหมายแฝงที่เพิ่มขึ้นมาจากการกระทำที่แปลกประหลาด, รูปแบบ, ฯลฯ เมื่อมันเกิด, คาบุกิเป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป Kabuki ที่ดำเนินการในยุคปัจจุบันได้รับการขัดเกลาในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ก่อนที่เวลานั้น Kabuki เกี่ยวข้องกับการเต้นรำกามและการเล่นกายกรรม แต่ก็ถูกยกสถานะขเป็นศิลปะการแสดงละครอย่างจริงจังโดยนักเขียน Chikamatsu Monzaemon (1653-1724) และนักแสดง Ichikawa Danjurô Kabuki มีการเคลื่อนไหวของตัวเองอย่างพิเศษ ทำให้บางคำพูดของตัวละครกลายเป็นคำติดปากของคนดูได้ออย่างง่ายดาย เพราะการดึงดูดของตัวละครที่มีความแตกต่างกัน เช่น ตัวเอกจะเขียนหน้าคล้ายคลึงการเขียนหน้างิ้วของจีน
เนื้อเรื่องของการแสดงคาบูกิจะมีอยู่ 2 ประเภท คือเรื่องเกี่ยวกับสังคมซามูไร ตำนานวีรบุรุษ เวทมนต์และเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ และอีกประเภทคือเรื่องราวชีวิตของชาวเมืองเรื่องเศร้าเคล้าน้ำ ละครคาบูกิเป็นเป็นการแสดงที่เต็มไปด้วย ฉากที่ตื่นเต้นเร้าใจและมักจะต้องมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นมากมายในเนื้อเรื่อง สังเกตดูหน้าของตัวแสดง เขาจะมีการแต่งหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย โดยเฉพาะที่ตาจะดูน่ากลัวมาก และบทพูดก็ฟังยากมาก แม้กระทั่งคนญี่ปุ่นเองก็ยังฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็ดูขลังดี
-さゆり-