เมื่อผมต้องการทะเบียนสมรส
ในสังคมทุกวันนี้ ทุกคนเท่าเทียมกัน มีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน ทั้งด้านการแสดงความคิดเห็น
การ เมือง ศาสนา และการดำเนินชีวิต แต่สำหรับผมแล้วสังคมไม่เคยมีความเสมอภาค ไม่เคยมีความเท่าเทียมกัน ไม่เคยมี และอาจจะไม่มีวันมี
ที่ผมกล่าวข้างต้นนั้น หลายคนอาจจะไม่เชื่อ แต่มันคือเรื่องจริงครับ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นเพศที่สังคมเรียกคุณว่าที่สาม ที่ไม่ใช่ผู้ชาย หรือผู้หญิง ทั้งที่ผมก็ยังใช้คำนำหน้าว่า "นาย" เหมือนเช่นผู้ชายทั่วไป
ถ้าจะมองกันกว้างๆรสนิยมทางเพศ ก็คงเหมือนรสนิยมส่วนตัวของคุณ เช่น ผู้ชายคนนี้ชอบทานส้ม
แต่ผู้ชายอีกคนชอบทานเงาะ ถามว่าใครผิดปกติ คำตอบก็คือ แค่รสนิยม ถ้าไม่ตัดสิน ก็ไม่มีใครผิดและใครไม่ผิด
แต่สังคมระบุไว้แล้วว่า ผู้ชายต้องชอบทานส้ม พอมีผู้ชายอีกคนชอบทานเงาะ ผู้ชายที่ทานเงาะจึงผิดปกติไปทันที
การเดินทางของเพศที่สาม ที่สังคมกล่าวขานให้นั้น มันมีวิวัฒนาการของมันเรื่อยมา เริ่มจาก 1 2 3 4 4
4 4 4 4 และ 4 แม้สังคมไทยจะให้การยอมรับมากขึ้น เปิดกว้างมากขึ้น เข้าใจมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ความว่าเพศที่สาม จะได้ทุกอย่างเท่าเทียมกับพลเมืองทั่วไป ส่วนตัวของผมเองอยากจะให้สังคม และประเทศไทยเปิดวิสัยทัศน์
ให้ วิวัฒนาการของเพศที่สามได้ก้าวต่อไปได้ อย่าให้หยุดเหยียบย่ำอยู่กับที่เช่นทุกวันนี้
บางครั้ง อาจจะมองไม่เห็นความจำเป็นว่า ทำไม ชายรักชายต้องการจดทะเบียนสมรสด้วย ในมุมมองของผมเอง การจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง สำหรับชีวิตคู่ โดยเฉพาะทางกฎหมาย เรายังต้องการการคุ้มครองเช่นกัน
แม้คนทั่วไปจะมองว่า ชายรักชายเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ผมอยากจะให้เข้าใจว่ามันเป็นแค่รสนิยม เหมือนการ
เลือกรับประทานอาหาร เลือกซื้อเสื้อผ้า หรือกระทั่งว่าสังคมจะมองว่าชายรักชาย ไม่มีทางจะมีชีวิตคู่
ได้ยาวนาน ถึงจะ1ปี 3ปี ก็เรียกว่าชีวิตสมรสแล้ว ถ้าถามย้อยกลับไปว่า คนทั่งไปที่แต่งงาน1ปี แล้วหย่าร้างมีไหม
ผมคงไม่ต้องตอบ ฉะนั้นจึงไม่เหตผลอะไรเลยที่จะห้ามไม่ใช่ชายรักชาย จดทะเบียนสมรสกัน
สิทธิต่างๆที่ประชาชนพึงจะได้รับ เพศที่สามก็มีสิทธิจะได้รับเช่นกัน เพราะผลที่เราได้รับจากการที่ไม่มีสิทธิ
อันนี้มีมากมายจริงๆ
สิทธิในการทำประกันชีวิต
สิทธิในการกู้สินเชื่อร่วมกัน
สิทธิในมรดกและทรัพย์สิน เมื่ออีกฝ่ายถึงแก่ชีวิต
สิทธิในการแสดงตนในกรณีมีเหตุฉุกเฉินของอีกฝ่าย
และอื่นๆอีกมากมาย
หลายๆคนมองว่าการแต่งงานของชายรักชาย เป้นเรื่องแปลกประหลาด เป็นเรื่องที่ต้องนำมาลงหนังสือพิมพ์ ข่าวแปลก เป็นการประจานตนเอง แต่เราไม่ได้พูดถึงการแต่งงาน ผมกำลังกล่าวถึงการจดทะเบียเพื่อสิทธิทางสังคม ผมไม่ได้อยากจะเท่าเที่ยม หรือได้มากกว่าใคร แต่ผมอยากให้ชีวิตของเพศที่สามได้ประโยชน์สูงสุดในการดำเนินชีวิต
สุดท้ายผมอยากทิ้งท้ายไว้ว่า หากเพศที่สามต้องการการยอมรับจากสังคม สิ่งแรกที่ควรจะทำคือเราต้องเคารพในสิ่งที่เราเป็นก่อน ควาประพฤติและปฏิบัติตัวให้อยู่ในขอบเขตทางสังคม เมื่อเรายังทำไม่ได้ ก็อย่าไปความหวังจากบุคคลอืนๆ ทุกอย่างควรเริ่มต้นที่เราเสมอ
และขอฝากถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองโปรดจงมองเห็นความเดือนร้อน ของเราถึงแม้เราจะเป็นกลุ่มๆเล็กๆกลุ่มหนึ่งในสังคม แต่เราก็ได้ชื่อว่าเป็นประชาชนเช่นกัน ลองหาหนทางที่จะช่วยเหลือและแก้ไขข้อบกพร่องตกนี้ให้
กลุ่มที่ท่านขนาน นามว่าเพศที่สามด้วยเถอะครับ เพราะเราทุกคนก็เสียภาษีเท่ากับคนอื่นทั่วไป ไปเลือกท่านไปเป็น สส เหมือนประชาชนทั่วไป แล้วทำไมเราถึงไม่มีสิทธิเฉกเช่นประชาชนทั่วๆไป