ปราบ ‘สาวดื้อ’ อย่างไรให้อยู่หมัด

 

 

 

 

           ตอนจีบกันใหม่ๆ เวลาคุณสาวๆ เกิดอาการดื้อขึ้นมา คุณหนุ่มๆ ก็อาจจะมองดูเป็นความน่ารัก อยากได้อะไรก็พยายามสรรหามาให้ เอาใจเสียทุกอย่าง แต่พอเวลาผ่านไป ความดื้อของสาวเจ้าอาจจะ ‘เพิ่ม’ ระดับจนเกินเลยไปจากคำว่าน่ารัก  ส่วนตัวหนุ่มๆ เอง ก็อาจจะเริ่มหมดแรง และหมดความพยายามที่จะเอาใจต่อไป

           ก่อนที่ความสัมพันธ์จะล่มสลาย เรามีวิธีปราบ ‘สาวดื้อ’ เพื่อให้เจ้าหล่อนไม่แสดงอาการดื้อจนเกินงามและคุณหนุ่มๆ จะได้ไม่ต้องตามใจเธอจนเคยตัว แถมเมื่อหยุดตามใจ ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม เธอก็จะไม่ยอมรับฟัง และแสดงอาการ ‘ชักดิ้นชักงอ’ หาว่าคุณไม่รักเธอเหมือนเดิม ไม่เอาใจใส่เธออย่างที่เคยเป็น หากคุณสามารถปรับและจูนเธอให้หลุดพ้นจากอาการดื้อจนเกินงามนี้แล้ว ความรักของคุณก็จะมีความสุขและจูนกันติดถึงความต้องการของแต่ละฝ่ายได้อย่างไม่ยากและต้องเปลี่ยนตัวตนของแต่ละคนเกินไปนัก

 

เมื่อแฟนคุณเป็น ‘สาวดื้อ’

 

          เอาเข้าจริง ใครๆก็คงไม่ชอบคนดื้อ เวลาเจอคนที่ดื้อมากๆ ไม่ฟังเหตุผล แถมยังพูดไม่รู้เรื่อง มักทำให้อารมณ์เสียและโมโหได้ไม่ยาก แถมยังเกิดอาการเอือมระอาไม่อยากอยู่ใกล้อีกต่างหาก เรียกว่าเลี่ยงได้ก็คงเลี่ยง ไม่คบค้าสมาคมด้วย แต่ถ้าคุณหนุ่มๆ มีแฟนสาวแสนดื้อรั้นและชอบเอาชนะล่ะ คุณจะทำอย่างไร รับรองได้ว่า ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องทั้งวัน คงต้องนั่งกลุ้มใจ เอาขาซ้ายก่ายขมับขวาอย่างแน่นอน เพราะคนที่เป็นแฟนกันอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรืออย่างน้อยๆ ก็อยู่ด้วยกันมากกว่าคนอื่นแน่ๆ ถ้าแฟนสาวของคุณแสดงนิสัยดื้อรั้นบ่อยๆ ไม่ยอมลดราวาศอก เชื่อเถอะว่า คุณทั้งสองมีความเครียดสะสมร่วมกันชัวร์ เผลอๆ อาจจะเก็บเอาไปคิด จนกลายเป็นรอยร้าวที่ไม่สามารถประสานกันระหว่างคนสองคนได้อีกต่างหาก และถ้าแต่ละคนหมดความอดทนขึ้นมาเมื่อไหร่ มีหวังได้ระเบิดศึกได้เลิกรากันอย่างแน่นอน

          อย่างไรก็ตาม การที่จะหวังให้แฟนสาวของคุณเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก ‘สาวจอมดื้อ’ กลายเป็นสาวสวยน่ารักอ่อนหวาน เออออ ตามใจคุณทุกอย่างภายในข้ามคืนคงไม่ได้  เพื่อค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ‘สาวดื้อ’ ข้างกาย มาดูกันว่า คุณควรจะรับมือเจ้าหล่อนอย่างไร แล้วเมื่อมีโอกาส  ค่อยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเธอ เชื่อแน่ว่าคุณทำจะเปลี่ยนแปลงเธอได้ด้วยตัวคุณเอง^.^

 

ไม่มีจุดจบในบทสนทนา

          ปกติแล้ว ปัญหาที่พบมากที่สุดของความสัมพันธ์ มักเป็นการสนทนาที่หาจุดจบตกลงกันไม่ได้ เรื่องบางเรื่องมีประเด็นให้ตัดสินใจร่วมกันอยู่นิดเดียว แต่คุยกันอยู่นานแสนนาน มีเหตุผลมาประกอบร้อยแปดพันเก้า แต่สาวเจ้าก็ยังไม่ยอมเข้าใจ ไม่ยอมลงให้ เพียงเพราะเธอต้องการให้คุณทำตามความคิดของเธอ แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ย่อมเกิดอาการหงุดหงิด พาลทะเลาะจนมองหน้ากันไม่ติด หากสะสมไปเรื่อยๆ เมื่อต้องการการตัดสินใจอะไรร่วมกันบางอย่าง จะไม่ได้เกิดจากเหตุผล แต่กลายเป็นอยากเอาชนะกันมากกว่า
          หากคุณพบปัญหานี้ สิ่งแรกที่ควรจะทำคือ ตั้งสติและหลีกเลี่ยงการพูดคุยขณะมีอารมณ์ จากนั้นลองสำรวจตนเองว่า สิ่งที่กำลังคุยกันอยู่นั้นเป็นเรื่องอะไรกันแน่  แยกให้ชัดเจน ว่าอะไรคือเรื่องหลักที่ต้องการตัดสินใจ  พยายามอย่านำหลายๆ เรื่องมาโยงกัน  ค่อยๆ พูดคุยกันไปทีละเรื่อง  และลองสังเกตว่า ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น มีการคุยนอกเรื่องหรือไม่  มีการใช้อารมณ์ใส่กันหรือเปล่า โดยเฉพาะการขุดอดีตที่ผิดพลาดมาถาโถมเข้าใส่กัน ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งตามมาได้ง่าย แถมยังหลงประเด็นที่อยากจะตัดสินใจร่วมกันด้วย

 

ชอบประชดประชันเวลาไม่ได้ดั่งใจ

          ปัญหาที่พบต่อมาคือ เวลาอธิบายเหตุผลเพื่อให้เข้าใจ แต่แฟนคุณไม่เคยฟังเลย เธอยังคงดื้อรั้นอยากจะให้คุณตามใจในสิ่งที่เธอต้องการ  เช่น  เธออยากได้ตุ๊กตาเฟอร์บี้มินิที่กำลังฮิตอยู่ในเวลานี้ มารวมอยู่ในคอลเล็คชั่นเฟอร์บี้ของเธอ แต่คุณห้าม เพราะตอนนี้เธอก็มีเฟอร์บี้มาอยู่ในครอบครองเกือบสิบตัวแล้ว แถมเจ้าเฟอร์บี้เหล่านี้ก็ส่งเสียงจอกแจกจอแจ  คุณเธอเองก็เล่นไม่ดูเวล่ำเวลาจนการงานเสียหาย คุณเองก็พยายามอธิบายเหตุผล แต่เธอก็ไม่ยอมฟัง จะเอาเจ้ามินิตัวนั้นให้ได้ แถมยังโกรธปรี๊ดแตกอีกต่างหาก  บ่นกระปอดกระแปด ประชดประชัน ตีโพยตีพาย ขว้างปาข้าวของ ขุดเรื่องเก่าเวลาคุณซื้อโมเดลรถยนต์สิ่งสะสมแสนหวงขึ้นมาจิกกัดทำนองว่า ถ้าเป็นของเล่นของคุณ คุณก็ซื้อเหมือนกันแหละ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คุณอาจต้องกลับมาทบทวนว่า คุณเคยทำพฤติกรรมเหล่านี้หรือเปล่า ถ้าเคยทำ ก็จงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองเสีย  เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เรื่องดีขึ้นแล้ว คุณเองก็จะเครียด และทำให้แฟนคุณรู้สึกไม่ดีไปด้วย  เมื่อมีโอกาสเธอก็จะทำแบบที่คุณเคยทำ เพื่อเป็นการเอาชนะคุณเช่นกัน สำหรับการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ลองพูดกับเธอดีๆ มองหาสิ่งแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่เธออยากได้ เช่น ถ้าเธออยากได้เฟอร์บี้มินิจริงๆ เอาเจ้าเฟอร์บี้หน้าหักตัวนั้นไปปล่อยขายก่อนดีไหม พอขายได้ แล้วผมจะพาคุณไปซื้อเอง การหาเหตุผลอื่นมารองรับหรือหว่านล้อมดีกว่าทะเลาะกันด้วยเหตุผลของแต่ละคนจนแตกหักแน่นอน

 

ดื้อแพ่งในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง

          กรณีนี้มักพบเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ เช่น คุณเธอจะเอาเงินไปลงทุนเปิดร้านออนไลน์ขายเฟอร์บี้ใน IG (โปรแกรมอินสตาแกรมในมือถือ) คุณก็มองว่า มันเสี่ยงเกินไป เพราะตอนนี้มีข่าวตำรวจจับเฟอร์บี้เถื่อนเต็มไปหมด แถมกระแสเฟอร์บี้จะแรงอีกแค่ไหนก็ไม่รู้ ถ้าลงทุนไปแล้วแป้ก จะได้ไม่คุ้มเสียซะมากกว่า ซึ่งแน่นอน เธอไม่ยอมเชื่อคุณอยู่แล้ว  สิ่งที่คุณควรทำในขณะนี้คือ พูดคุยกับเธอด้วยอารมณ์ที่ไม่เป็นลบ อธิบายถึงเหตุผลที่คุณไม่อยากให้เธอนำเงินไปลงทุน เพราะคุณห่วงเธอเพียงใด ลองเปลี่ยนมาตั้งสติมองปัญหาอย่างเป็นกลางไปพร้อมๆ กับฟังเหตุผลของเธอ  พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เธออธิบาย  แทนการเถียงแบบหัวชนฝาให้แตกหักอย่างที่เคยเป็น เชื่อเถอะว่า เรื่องแบบนี้อาจจะมีทั้งผิดและถูกแล้วแต่มุมมองและการตัดสินใจ แต่ถ้าห้ามเธอไม่ได้จริงๆ คุณอาจจะต้องยอมให้เจ้าหล่อนทำตามใจปรารถนา แต่ต้องตั้งอยู่บทความไม่ประมาท เช่น ทำความเข้าใจและตกลงกันก่อนลงทุน วางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าการลงทุนว่าจะคืนทุนหรือทำกำไรเท่าไหร่ ในระยะเวลาใด รวมทั้งต้องมีการเก็บเงินสำรองไว้ยามฉุกเฉิน เพราะหากเกิดผิดจากเป้าที่ตั้งไว้ขึ้นมา จะได้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น

 

สื่อสารกับ ‘สาวดื้อ’ ให้ได้ผล

         ไม่ว่าเธอจะดื้อรั้นในกรณีใดก็ตาม  สิ่งที่คุณผู้ชายควรทำเพื่อ ‘ปราบ’ เธอให้อยู่หมัด โดยไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกหักก็คือ ‘การสื่อสาร’  และวิธีการสื่อสารที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดนั้น  ควรเป็นรูปแบบการสื่อสารสองทางคือ คุณต้องเป็นทั้งผู้ให้ข้อมูลอย่างมีสติ และขณะเดียวกันก็ต้องผู้ฟังที่ดี  หากมีคำถามที่อยากให้เธอตอบ ควรใช้คำถามลักษณะปลายเปิด เพื่อให้ต่างฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นของตนเอง และควรทำความเข้าใจรวมทั้งพึงระลึกไว้เสมอว่า การพูดคุยสื่อสารกันหรือการตกลงกันครั้งนี้ เพื่อให้ชีวิตรักของคุณทั้งสองดีขึ้น มิใช่เพื่อเอาชนะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
          ในกรณีที่คุณเธอรั้นทำบางสิ่งไปแล้วเกิดความผิดพลาดหรือไม่สำเร็จ ในฐานะคนรัก คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดคุยในแง่ลบหรือซ้ำเติม เช่น "ผมบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าอย่างทำมันไม่สำเร็จหรอก!” หรือ “เป็นไงล่ะอยากไม่เชื่อกันดีนัก ขาดทุนยับเยินเลยเห็นไหม” การด่าว่า ตอกย้ำ หรือประชดเรื่องที่เป็นอดีตไปแล้ว ไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยทำทุกอย่างดีขึ้นแล้ว  กลับทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเธอเลวร้ายลงไปอีก  แถมยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความร้าวฉานรุนแรงในอนาคตอีกด้วย  และคราวต่อไป ถ้าเธอจะทำอะไร เธอจะมีทิฐิไม่ยอมปรึกษาคุณเด็ดขาด ดังนั้น สิ่งที่คุณควรจะทำในเวลานี้คือ การให้กำลังใจ เห็นอกเห็นใจ และแนะนำเธอใช้ความผิดพลาดนี้เป็นบทเรียน
          ทั้งหมดนี้ ก็ต้องพิจารณาตัวเองด้วย บางทีเธออาจจะเป็น ‘สาวดื้อ’ แต่คุณเองจริงๆ แล้ว ก็อาจจะคือ  ‘หนุ่มรั้น’ ก็ได้  ในบางสถานการณ์ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ขอเพียงแค่ฝ่ายหนึ่งคุมสติให้อยู่ มีการพูดคุยในเชิงบวกอย่างให้เกียรติกัน ไม่ใส่อารมณ์ บ่น หรือประชดประชัน อีกฝ่ายก็จะลดทิฐิลงมาโดยไม่รู้ตัว ความกลุ้มใจและความเครียดของคุณทั้งสองก็จะน้อยลงไปด้วย

 

 

5 วิธีในการปรับพฤติกรรมของ ‘สาวดื้อ’ ข้างกาย

         หลังจากเราได้เรียนรู้พฤติกรรมของ ‘สาวดื้อ’ ข้างตัว รวมทั้งวิธีสื่อสารกับเธออย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ขอนำเสนอ 5 วิธีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสาวดื้อข้างกายคุณ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณทั้งสองให้เป็นไปอย่างราบรื่นค่ะ

1. อย่ายอมเธอจนเกินไป

         เอาเข้าจริง หนุ่มๆหลายคนอาจเลือกที่จะยอมเออออตามแฟนสาวของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาน่ารำคาญตามมา  เลยยอมๆ หยวนๆ ไปให้จบเรื่อง แต่การกระทำตามใจเธอแบบนั้น จะทำให้เธอเคยตัวได้  เพราะฉะนั้น เรื่องไหนที่คุณมั่นใจในเหตุผลของตัวเองจริงๆ ก็อย่าไปยอมเธอเลยจะดีกว่า พูดจาอธิบายกับเธอตรงๆ ว่าคุณมีเหตุผลอะไร ทำไมคุณจึงคิดเช่นนั้น  เพราะถ้าคุณยอมเธอไปเสียทุกเรื่อง ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เธอก็จะมั่นใจว่าคุณต้องตามใจเธอทุกครั้ง  จนกลายเป็นคนที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจมากขึ้นไปอีก

2. มีขอบเขตชัดเจน

          หากคุณรู้ว่าแฟนคุณเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจ คุณควรแสดงให้เธอรู้ตั้งแต่แรกว่า คุณจะรับพฤติกรรมของเธอได้แค่ไหน  การกระทำแบบใดที่คุณทนไม่ได้ (และจะไม่ทนเด็ดขาด)  หากเธอยังคงดื้นรั้นในเรื่องที่คุณไม่ชอบ ก็อย่าให้อภัยเธอง่ายๆ แม้ว่าเธอจะทำเพื่อยั่วโมโหคุณก็ตาม คุณต้องแสดงว่าคุณเอาจริง อย่างน้อยก็เพื่อให้เธอเกรงใจ ไม่ดื้อรั้นจนเกินขอบเขต และทำให้คุณปวดหัวกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากจนเกินไป

3. พูดคุยด้วยความใจเย็น

        ในการพูดคุยกันทุกครั้ง เมื่อคุณเธอดื้อรั้นแบบติสต์แตก คุณเองก็อาจจะแทบทนไม่ไหว แต่ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ไว้คือ การพูดกับเธอด้วยเหตุผลแทนการตะโกนด่าทอใส่กัน เมื่อเธอร้อน แต่คุณเย็น  คุณสองคนจะมาพบกันคนละครึ่งทาง  หากร้อนใส่กันทั้งคู่ มีแต่ระเบิดกับระเบิด นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย ยังจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และอาจมองหน้ากันไม่ติดอีกด้วย

4. ความเงียบช่วยได้

          เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น และคุณได้อธิบายด้วยเหตุผลแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ยอมเปิดใจฟัง บางที คุณอาจจะต้องใช้ ‘ความเงียบ’ เข้าช่วย  ยิ่งถ้าคุณสองคนทะเลาะกันใหญ่โต และเธอก็ยังไม่คิดจะฟัง จะปรับจะจูนอะไรเลย คุณก็ควรห่างกับเธอไปสักพัก ปล่อยให้เธอได้คิดอะไรเงียบๆ คนเดียว เพราะบางทีสิ่งที่เธอทำลงไป เธออาจไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้หมายความอย่างนั้นก็ได้ หากเป็นเพราะความใจร้อนและอารมณ์พาไปเท่านั้น ถ้าคุณปล่อยให้เธอได้มีโอกาสคิดอะไรคนเดียวสักพัก สถานการณ์อาจจะดีขึ้นก็ได้

5. เป็นที่ปรึกษาที่ดี

          จริงๆแล้ว ผู้หญิงดื้อรั้นเอาแต่ใจส่วนใหญ่มักอ่อนไหวอยู่ลึกๆ เธออยากให้ใครๆ ยอมรับ  เลยแสดงว่าเป็นคนเข้มแข็งกลบเกลื่อน เมื่อมีปัญหา เธอจะไม่กล้าที่จะเล่าปัญหาของตัวเองให้คนอื่นฟัง และบางทีก็แสดงออกมาด้วยอาการดื้อรั้นเอาแต่ใจจนใครๆ คิดไม่ถึง ดังนั้น หากคุณรักเธอจริงก็ควรเป็นฝ่ายเข้าไปถามไถ่ด้วยความห่วงใย  และคอยสังเกตเวลาเธอมีปัญหา แทนที่จะให้เธอพูดออก  เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจะขอบคุณคุณด้วยหัวใจ เธอจะเชื่อมั่นในตัวคุณว่าคุณรักเธอ และไม่มีวันที่จะปล่อยมือจากเธอไม่ว่าเธอจะอยู่ในสถานการณ์ใด  ความดื้อรั้นและทิฐิในตัวเธอก็จะลดลง พร้อมๆ กับความเชื่อมั่นที่เธอมีให้ต่อคุณก็จะเพิ่มขึ้น จากนั้น คุณและเธอก็จะพูดคุยกันด้วยเหตุผลได้อย่างสบายใจ

 

          โปรดจำไว้ว่า ‘ความอดทน’ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในความรักทุกรูปแบบ ไม่ว่าเธอจะเป็น ‘สาวดื้อ’ ที่ดูร้ายกาจสักแค่ไหน  ถ้าคุณรักเธอจริง  การอดทนเพื่อคนที่คุณรักก็คงไม่ยากจนเกินไป  และความพยายามที่จะประคับประคองความรักของคุณ จะทำให้เธอเข้าใจ ลดความเอาแต่ใจลง  ไม่สร้างปัญหาอย่างที่เคยเป็น ทั้งหมดเป็นความเปลี่ยนแปลงที่คุณทั้งสองพยายามร่วมกัน เพื่อเดินไปยังจุดหมายปลายทางแห่งรักที่คุณทั้งคู่ต้องการนั่นเอง

 

 

 

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

 

รูปประกอบ : google