ร้อยโทโอโนดะ ผู้ไม่ยอมแพ้ แม้สงครามสงบแล้ว
ตามที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดี ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นสามารถยึดประเทศแถบเอเชียอาคเนย์ได้เกือบทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือฟิลิปปินส์ และบนหมู่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง ชื่อว่าเกาะลูบัง (Lubang) ได้มีทหารญี่ปุ่นประจำการอยู่กองหนึ่ง โดยมี พันโทโยชิมา ตานาคูชิ เป็นผู้บังคับบัญชา เวลานั้นคือช่วงปลายสงคราม กองทัพญี่ปุ่นหลายกองพ่ายแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ถึงกระนั้นทหารญี่ปุ่นก็ยังคงทำการรบอย่างทรหดต่อไป เนื่องจากทุกคนเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วญี่ปุ่นจะเป็นผู้ชนะ
ร้อยโทฮิรุ โอโนดะ คือหนึ่งในทหารที่ประจำอยู่บนเกาะลูบัง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1944 (ก่อนมาเป็นทหารเขาเคยเป็นชาวนามาก่อน) ได้รับคำสั่งจากพันโทโยชิมา ตานาคูชิ ให้นำทหารอีก 3 นาย ไปปฏิบัติภารกิจสอดแนมข้าศึกในป่า ร้อยโทโอโนดะ จึงคัดเลือกทหารอีก 3 นาย ประกอบไปด้วย ยูอิจิ อาคาซึ (Yuichi Akatsu) สิบโทไซโอชิ ชิมาดะ (Siochi Shimada) และคินซิชิ โคซูกะ (Kinshichi Kozuka) เข้าร่วมในภารกิจนี้
ขณะที่ทหารทั้ง 4 ออกปฏิบัติภารกิจอยู่นั้น อเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ทำให้ญี่ปุ่นต้องประกาศยอมแพ้ในที่สุด จักรพรรดิฮิโรฮิโตจึงออกพระราชโองการให้กองทัพญี่ปุ่นทุกกองวางอาวุธและถอนกำลังออกจากจุดประจำการทุกแห่ง พันโทโยชิมา จึงออกคำสั่งให้ถอนกำลังออกจากเกาะลูบังและเตรียมตัวกลับประเทศอย่างเร่งด่วน
แต่พันโทโยชิมา ทำผิดพลาดเรื่องหนึ่งคือ เขาไม่ได้ส่งข่าวหรือทิ้งข้อความใดๆให้ร้อยโทโอโนดะและพวกรู้ว่าสงครามสงบแล้ว ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ และมีคำสั่งให้ทหารทุกคนถอนกำลังกลับประเทศ ทำให้เมื่อร้อยโทโอโนดะกลับมายังที่ตั้งกองทหารและไม่พบใคร จึงเข้าใจว่าทหารฝ่ายศัตรูได้เข้าโจมตีพรรคพวกจนต้องถอยหนีออกจากเกาะ เขาและพรรคพวกจึงตัดสินใจกลับเข้าป่า เพื่อทำการสู้รบต่อไป
ร้อยโทโอโนดะและพรรคพวกไม่รู้เลยว่าสงครามจบลงแล้ว และไม่มีใครออกตามหาพวกเขาเนื่องจากเข้าใจว่าทั้งหมดเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจ
ชีวิตในป่ายากลำบากมาก พวกเขาต้องอาศัยนอนในถ้ำ หาของป่าตามมีตามเกิด และบางครั้งต้องขโมยอาหารจากชาวบ้าน แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังเชื่อว่าสงครามกำลังดำเนินอยู่และญี่ปุ่นจะเป็นฝ่ายชนะ
จนกระทั่งเดือนตุลาคม 1945 ได้มีเครื่องบินทิ้งใบปลิวบนเกาะ แจ้งว่าสงครามโลกยุติแล้ว และญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้ ร้อยโทโอโนดะไม่เชื่อ และเข้าใจว่าเป็นแผนการหลอกให้พวกเขาออกไปติดกับ ทั้งหมดจึงยังคงปักหลักอยู่ในป่าต่อไป
หลายปีผ่านไป ร้อยโทโอโนดะและพวกก็ยังคงหลบซ่อนอยู่ในป่า และต่อสู้กับศัตรูอย่างไม่ยอมแพ้ (ศัตรูที่ว่าคือชาวบ้านที่ไปหาของป่า) หลายครั้งที่ทหารกลุ่มนี้ออกลาดตระเวน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชาวบ้านที่กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่กระนั้นพวกเขาก็ปักใจเชื่อว่าศัตรูยึดเกาะลูบังได้แล้ว จึงตัดสินใจหลบอยู่ในป่าลึกตามเดิม
จนในปี 1952 ได้มีเครื่องบินทิ้งจดหมายและประกาศลงบนเกาะ บอกให้ทหารญี่ปุ่นที่เหลือทราบว่าสงครามจบลงแล้ว และแน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อ (8 ปีแล้วนะนั่น)
ในปี 1953 ก็ได้มีประกาศออกมาอีก และทหารทั้งหมดก็ไม่เชื่ออีก
ในปีเดียวกันนั้นเอง ชิมาดะ ถูกชาวบ้านยิงเข้าที่ขาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ปี 1954 อาคาซึถูกกลุ่มนักสำรวจที่ออกค้นหาทหารญี่ปุ่นที่เหลืออยู่ยิงตาย (น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด)
19 ตุลาคม 1972 โคซูกะ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์ยิงตาย เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นคนร้าย
บัดนี้เหลือเพียงแค่ร้อยโทโอโนดะคนเดียว แต่กระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนข่าวลือเรื่องทหารคนสุดท้ายไปถึงหูทางการญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงพยายามแจ้งข่าวให้เขารู้ว่าสงครามจบลงนานแล้ว ออกมาได้แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ยอมเชื่อ และเชื่อว่าศัตรูปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะจับตัวเขาล่ะสิ แม้ว่าทางการญี่ปุ่นจะนำพระราชโองการจากสมเด็จพระจักรพรรดิไปติดไว้จนทั่วป่า และหวังว่าร้อยโทโอโนดะจะเชื่อและยอมออกมา เขาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีและคิดว่าราชโองการเป็นของปลอม
จนกระทั่งวันหนึ่ง นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้พบกับร้อยโทโอโนดะด้วยความบังเอิญ ทั้งคู่คุยกันถูกคอและทำให้เขาได้รู้ความจริงว่าสงครามจบไปนานแล้ว และทางการญี่ปุ่นอยากให้เขาออกมาปรากฎตัวซะที แต่กระนั้นร้อยโทโอโนดะก็ยังแคลงใจไม่หาย และบอกให้นำผู้บังคับบัญชา พันโทโยชิมา มายืนยันด้วยตัวเอง
ทางการญี่ปุ่นพยายามติดต่อพันโทโยชิมาจนพบ และส่งเขาพร้อมคณะผู้ติดตามไปพบร้อยโทโอโนดะ พันโทโยชิมาจึงยืนยันกับเขาว่าสงครามจบลงแล้ว และออกคำสั่งให้เขาวางอาวุธ นายทหารผู้เคร่งครัดในหน้าที่จึงได้ฤกษ์ออกจากป่าในวันที่ 10 มีนาคม 1974 หลังจากที่ประจำการหลังสงครามเลิกตั้ง 30 ปี
ร้อยโทโอโนดะที่ยอมจำนนหลังจากรบอย่างโดดเดี่ยวมาถึง 30 ปี สิ่งที่เหลือติดตัวมีเพียงเสื้อผ้าเก่าคร่ำคร่า ปืนเล็กยาวพร้อมกระสุน และดาบซามูไรอีกเล่มเดียวเท่านั้น
การกลับคืนสู่ประเทศของทหารใจเพชรผู้นี้ ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เทียบเท่าวีรบุรุษ มารดาวัย 88 ของร้อยโทโอโนดะ ผู้ที่เคยเชื่อว่าลูกชายได้ตายไปแล้วและไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทุกปี กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "การอบรมเขาตามแบบคนญี่ปุ่น ทำให้เขาเป็นทหารที่มีวินัย มีความจงรักภักดีต่อชาติสูงสุด และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 30 ปี เขาก็ยังยึดถือคำสั่งอย่างแน่วแน่"
ปัจจุบันร้อยโทโอโนดะได้ปลดประจำการแล้ว และเป็นเจ้าของฟาร์มแห่งหนึ่งในบราซิล และเมื่อมีเวลาว่างเขาจะกลับไปบริจาคเงินให้กับโรงเรียนที่เกาะลูบังอยู่เสมอ
เรียบเรียง Starfish
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out




