ระวัง!! เจาะหู สะดือ ลิ้น เสี่ยงเอดส์

แฟชั่นกับความงาม แยกกันไม่ออกจริงๆ ยิ่งการเจาะผิวหนังด้วยแล้ว เป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครใคร่   “เจาะ ก็เจาะ” ได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่นิยมกันมาก และยอมรับกันทั่วโลก เห็นจะเป็นการ “เจาะหู”   ในขณะที่อีกหลายคนก็ชอบ “เจาะสะดือ” แลบางคนก็ชอบที่จะ “เจาะลิ้น” ก็ว่ากันไปตามแบบ ตามสไตล์ สำหรับสาวๆ ชาว  tsgclub  ที่กำลังคิดจะเจาะส่วนใดส่วนหนึ่งบนร่างกายเรามีข้อคิดดีๆ มาฝาก ค่ะ

“เจาะหู” มักเจาะด้วยเข็มธรรมดา เข็มฉีดยา หรือเจาะด้วยเครื่อง ตำแหน่งที่นิยมเจาะกันแต่ดั้งเดิมคือติ่งหู จำนวนหนึ่งรู พอมายุคนี้มักนิยมเจาะหูกันมากกว่าหนึ่งรู เริ่มจากติ่งหูตลอดไปถึงหูส่วนบน และประดับตกแต่งใบหูด้วยต่างหูรูปแบบต่างๆ

“เจาะลิ้น” มักเจาะบริเวณกลางลิ้น ซึ่งห่างจากปลายลิ้น 1 นิ้ว เพื่อไม่ให้เจาะทะลุผ่านหลอดเลือด และการติดเชื้อในช่องปากก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า การเจาะผิวหนังบริเวณอื่น แผลที่ลิ้นควรจะหายภายใน     4-6 สัปดาห์ การเจาะลิ้นนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาเลือดออกได้แล้ว ยังเกิดอาการเลือดคั่งหลังเจาะได้ด้วย

“เจาะสะดือ” ควรทำในรายที่มีสะดือบุ๋มลงเท่านั้น โดยเจาะด้านบนของสะดือ แผลจากการ        เจาะสะดือ จะหายช้ามาก คือประมาณ 9-12 เดือน เรียกว่า กว่าแผลจะหาย ก็เสี่ยงกับการติดเชื้อยาวนานนับปีเลยทีเดียว

การเจาะดังกล่าว ถ้าเจาะโดยผู้ที่ไม่มีความรู้หรือไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้อาจไม่สะอาดเพียงพอ ก่อให้เกิดโรคตามมาได้ ที่สำคัญเลย คือ โรคเอดส์ และ โรคตับอักเสบ  มันคุ้มหรือไม่กับความสวยงามที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค

แฟชั่นขึ้นอยู่กับผู้ที่สร้างกระแส และ การโฆษณา คือ นิยมแล้วก็เลิก เลิกแล้วก็กลับมานิยมใหม่ หมุนเวียนไปมาอย่างนี้ตลอดเวลา แม้กระทั่งกระแสสังคมจะนำพาเราไปในทิศทางไหน แต่ที่สุดแล้ว  ตัวเราก็เป็นผู้เลือก และเป็นผู้ออกแบบแฟชั่นให้กับตัวเราเอง

....ปล.ซ้ำขออภัยค่ะ