หลังจากที่ทางกสทช. ดีเดย์ ห้ามผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำหนดวันหมดอายุบัตรเติมเงินมือถือพรีเพด เมื่อวันที่ 18 มกราคม และได้มีมติ กทค.เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา รวมไปถึงการจัดงาน จิบกาแฟรวมพลคนพรีเพดเมืองไทย เติมตังค์อย่างไรเงินไม่หาย ที่ทางคุณหนุ่ย พงษ์สุข หิรัญพฤกษ์ ได้เชิญ พอ.รศ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และตัวแทนจาก 3 ค่ายโอเปอเรเตอร์ มาร่วมพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้มือถือพรีเพดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ล่าสุด ผ่านไป 1 เดือน ท่ามกลางกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ การให้ข่าวสารต่างๆของผู้ให้บริการ และการรับรู้ของประชาชนในการเติมเงินมือถือมูลค่าเท่าใด ก็จะต้องได้วันเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30 วัน ต่อการเติมเงิน 1 ครั้ง ไม่ว่าจะเติมเงินมูลค่าเท่าใดก็ตาม (จำนวนเงินขั้นต่ำ 10 บาท) ตามช่องทางที่ผู้ให้บริการกำหนด  ทางรายการแบไต๋ ไฮเทค ได้จัดงานรวมพลคนพรีเพด ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามผลการแก้ไขปัญหาระบบเติมเงิน ที่ “แบไต๋ไฮเทค ไลฟ์สตูดิโอ” ชั้น4 ดิจิตอลเกตเวย์ สยาม รวมไปถึงการจัดกิจกรรมเดินรณรงค์กับกสทช.เรื่อง Prepaid ใหม่ เติมเงินเท่าไหรต้องได้ 30 วัน โดยเดินทางออกจาก กสทชผ่านย่านพหลโยธิน – สีลม

ที่มา: Infographic การใช้โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงิน จัดทำโดย กสทช. และรายการแบไต๋ ไฮเทค

บทสรุปมหากาพย์โทรศัพท์มือถือพรีเพด

จากความเข้าใจผิด แบบนี้ ถ้าเติมเงินแล้ว ซิมก็จะไม่มีวันหมดอายุ แต่ในความเป็นจริง จำเป็นต้องมีการกำหนดวันหมดอายุของการใช้งานโทรศัพท์มือถือพรีเพด เนื่องจากปัจจุบันมีหมายเลขโทรศัพท์มือถือคงค้าง ซึ่งไม่มีการใช้งานอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก การกำหนดวันหมดอายุ เป็นการตั้งเงื่อนไขว่า หากหมายเลขนั้นไม่มีการใช้งานใดๆ ถูกปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ภายในระยะเวลา 30 วัน ก็สามารถนำหมายเลขดังกล่าวกลับคืนมาใช้ประโยชน์ต่อไป หากไม่มีการตั้งเงื่อนไขนี้ ก็จะต้องขอหมายเลขใหม่เพิ่มเรื่อยๆ ไปจนถึงการเพิ่มหลักหมายเลขโทรศัพท์ และทำความเข้าใจใหม่ว่า เราซื้อซิมแบบพรีเพดมาแล้ว เป็นสมบัติของผู้ใช้ จะใช้งาน หรือไม่ใช้งานก็เป็นเรื่องผู้ใช้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เบอร์โทรศัพท์ที่เราซื้อมา นั้นเป็นทรัยพากรของชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นจึงต้องกำหนดวันหมดอายุที่เหมาะสม หากไม่มีการใช้งานในระยะเวลาที่กำหนด ก็สามารถหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อประโยชน์ของชาติต่อไป

ข้อกำหนดในการแก้ไขปัญหาเรื่องการเติมเงินพรีเพดจาก กสทช.

- เติมเงินทุกมูลค่า จะต้องได้รับระยะเวลาการใช้งานไม่น้อยกว่า 30 วัน (ในช่วงระยะเวลา 30 วัน ขอให้มีการเติมเงินเข้าระบบ ไม่ว่าจะเติมกี่บาท ก็จะต้องได้วันใช้งานเพิ่มแล้ว)
- เมื่อมีการเติมเงินแต่ละครั้ง จะต้องมีการนับระยะเวลาการใช้งานที่ได้รับ รวมกับระยะเวลาที่เหลืออยู่เดิม โดยมีการสะสมวันสูงสุดอย่างน้อย 365 วัน
- ในกรณีที่มีการหยุด หรือระงับการให้บริการ “ผู้ให้บริการ” (โอเปอเรเตอร์) จะต้องคืนเงินค่าบริการที่คงเหลือเต็มจำนวนแก่ “ผู้ใช้บริการ” ทั้งนี้ ผู้ให้บริการ อาจกำหนดเงื่อนไขให้สามารถโอนเงินค่าบริการที่ชำระล่วงหน้า ไปยังหมายเลขอื่นในเครือข่ายเดียวกันได้

ต่อแต่นี้ไป ปัญหาต่อไปนี้ จะหมดไป

- เติมเงินมูลค่ามาก ได้วันมาก จะหมดไป ต่อจากนี้ไป เติมเงินไม่ว่าจะกี่บาท ก็จะได้วันใช้งานขั้นต่ำ 30 วัน และสะสมวันใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 365 วัน ดังนั้น ผู้ใช้พรีเพด แม้ว่าจะมีรายได้น้อย แต่หากมีการเติมเงินเข้าระบบ แม้จะเป็นราคาที่ต่ำที่สุด ในช่วงระยะเวลา 30 วัน ก็จะได้วันใช้งานเพิ่ม
- ความเชื่อเดิมๆ ถ้าเงินในระบบเหลือ จะถูกผู้ให้บริการยึดเงิน เมื่อครบวันหมดอายุ ต่อจากนี้ไป ผู้ให้บริการ ไม่มีสิทธิ์ในการยึดเงินผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการ ต้องคืนเงินนั้นแก่ผู้ใช้บริการ โดยอาจคืนเป็นเงินสด โอนเข้าบัญชี หรือโอนมูลค่าคงเหลือไปยังหมายเลขอื่นในเครือข่ายเดียวกันได้

และหากผู้ใช้รายใด พบว่าตนเองไม่ได้รับสิทธิตามข้อกำหนดใหม่นี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ติดต่อ Call Center ผู้ให้บริการของตน (AIS One2Call 1175, Happy Dtac 1678, Truemove 1331 หรือสอบถามข้อมูลโดยตรงจาก กสทช. โทร 1200