มีรักใหม่ให้สมหวัง ^_____^

เริ่มต้นอีกครั้งกับคำว่ารัก ทั้งคนที่เคยมีรัก และคนที่ไม่เคยมีรัก

“Don't cry because it is over, smile because it happened.  
อย่าร้องไห้กับสิ่งที่จบไปแล้วแต่จงยิ้มให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น”   
                                                           

ธีโอดอร์ ซูสส์ ไกเซิล  

(T heodor Seuss Geisel   นักเขียน และนักวาดการ์ตูนชื่อดังชาวอเมริกัน)

ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
          ทั้งความฝัน งาน และความรักโดยเฉพาะในเรื่องความรัก บางคนผิดหวัง ช้ำรัก อาจจะกำลังเข็ดขยาด และอาจเคยคิดว่า คงไม่สามารถ เริ่มต้นใหม่กับใครได้อีกหรือบางคนอาจจะบอกว่าชีวิตนี้ยังไม่เคยเริ่มต้นกับใครเลย ก็นี่แหละได้ฤกษ์งามยามดีกับช่วงเวลาที่กำลังจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ สักที
          ก่อนอื่นต้องถามตัวเองดูก่อนว่า พร้อมหรือยังที่จะทำความรู้จักกับใครสักคนเป็นพิเศษ พูดง่ายๆก็คือnคุณต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นในหัวใจตนเองเสียก่อน ให้มั่นใจว่า ลืมความเจ็บปวดต่างๆ ได้มากแล้ว หรือหมดเลยได้ยิ่งดีไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่กับใคร
          คราวนี้มาเริ่มด้วยการสร้างโอกาสใหม่ๆให้ตัวเอง ทั้งนี้ไม่ได้แนะนำว่า ให้คุณทอดสะพานแบบเต็มๆ ให้ใคร ไม่เช่นนั้นเกิดสุ่มสี่สุ่มห้าทอดออกไป เจอของแสลงขึ้นจะยุ่ง ทว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ดีทั้งต่อตัวคุณ และคนที่จะเข้ามาในชีวิตของคุณด้วย
         
เตรียมพร้อมที่จะพบใครสักคน
          คนเราเมื่อมีแผล แน่ล่ะจะให้หายสนิทในทันทีทันใดก็คงไม่ใช่ แต่ก็อย่าทิ้งให้ตัวเองอยู่ในสภาพดูไม่ได้นานเกินไป ไม่เช่นนั้นคงเฉาตายกันพอดีคราวนี้จึงถึงเวลาเปิดตาเปิดตัว และเปิดหัวใจที่จะพบกับใครสักคน นี่เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองต่อให้ ไม่เจอคนถูกใจ อย่างไรผลดีก็ตกที่ตัวเรานี่แหละ
          1. ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส อย่าลืมว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าวถ้าใจเราสบายกายเราก็พลอยสบายตามไปด้วย เมื่อจุดเริ่มต้นดีก้าวต่อไปก็ใช่เรื่องยากอะไร
          2. สำรวจสภาพร่างกายตัวเองตอนนี้ว่าเป็นอย่างไร อ้วนฉุ ผอมกะหร่อง สิวเขรอะ ปากเหม็น ผิวพรรณแห้งกรัง ผมเผ้ารุงรัง ไม่เป็นทรงอยู่หรือไม่ ต้องดูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองตัวเองในกระจกแล้วก็ค่อยๆ แก้ไขทีละเรื่อง แต่งกายให้สะอาดสะอ้าน  ดูดี และให้เหมาะสมกับบุคลิกของตัวเองที่สุด เพราะหากแต่งตัวมากไปก็จะดูฝืนมากไป อาจทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ 
ไม่เป็นธรรมชาติ สุดท้ายอาจทำให้เกิดความประหม่าจนขาดความมั่นใจ 
          3. ดึงความสุขเดิมๆ กลับคืนมา อะไรที่เคยชอบ เคยรักและเราทอดทิ้งไปเพราะมัวแต่จมอยู่กับความหมองเศร้าเราต้องดึงกลับมาให้หมด ชมภาพยนตร์ในแนวที่เราเคยชอบ ช้อปปิ้ง อ่านหนังสือเล่มโปรด ฟังเพลง ดูคอนเสิร์ตไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงนอกบ้านบ้าง
          4. มองโลกในแง่ดี ไม่ว่าจะอยู่กับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง หรือคนแปลกหน้า คิดบวก คิดดี แล้วการพูดจาก็จะชวนฟัง ทำให้ใครๆ ก็อยากพูดคุยด้วย นี่ถือเป็นเสน่ห์ข้อหนึ่งในการผูกมิตร
          5. สนใจข่าวสารรอบด้าน โดยเฉพาะทุกสถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งไม่เพียงจะทำให้คุณดูดีในสายตาใครๆ แต่มันยังเป็นความรู้รอบตัวที่เป็นเกราะคุ้มครองเราได้ดีอีกด้านหนึ่ง
          6.เมื่อมีคนที่เข้ามาสนใจในตัวคุณก็ให้ลองพูดคุยและพิจารณาเขาดูก่อนในเบื้องต้นถ้าคนแรกยังไม่โดนใจคนที่สองก็ยังไม่ถูกใจ คนที่สามอาจเริ่มเข้าเค้าเป็นคนที่ใช่ก็ได้

ทำความรู้จักกับคนที่อาจจะ ‘ใช่’
          ค่อยๆ เปิดใจพูดคุยกับเขาในฐานะเพื่อนไปก่อน โดยยังไม่ต้องบอกให้รู้ทั้งหมด ให้ค่อยเป็นค่อยไป ให้เขาได้รับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของเรา และพูดคุยกับเขาแบบตรงไปตรงมาเลยว่า ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ว่ามา หากความสัมพันธ์คืบหน้าไปได้ด้วยดีถึงขั้นพึงพอใจในระดับหนึ่ง และทั้งคู่ยินดีที่จะคบกันแบบคู่รัก ขั้นตอนต่อไปนี้แหละที่น่าสนใจ

ให้คำว่ารักและหัวใจได้ทำงานอย่างเต็มที่
          1. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ได้หมายถึงให้คิดแทนเขาทุกเรื่อง แต่เป็นการมองเผื่อว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร 
          2. ไม่ควรทำตัวแบบเดิมๆ เช่นเจ้าแง่แสนงอน ขี้ใจน้อยมากไป ขี้หึง สารพัดที่เคยเป็นข้อเสีย เอาเป็นว่า เหลือไว้ให้เป็นน้ำจิ้มอย่างละนิดละหน่อยก็พอ เพราะถ้าไม่มีเลย บรรยากาศความรักของคุณและเขาอาจจะจืดชืดไป
          3. ต้องโฟกัสที่เขาหรือเธอคนนี้คนเดียว มองคนอื่นได้ แต่อย่าวอกแวก หรือชื่นชมคนอื่น ไม่เช่นนั้น คนของคุณอาจเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจได้
          4. เอาใจอีกฝ่ายบ้าง อยากกินอะไร อยากไปเที่ยวที่ไหน ถามไถ่กัน ชวนกันไปหาความสุขกับสิ่งเหล่านั้น
          5. จดจำรายละเอียดของกันและกัน แม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะยิ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า มีความสำคัญ
          6. ในยามที่เจอปัญหาอย่าพาลโกรธเขาหรือโทษเขาต้องช่วยกันคิดและแก้ไขปัญหา   และมีอะไรก็ควรพูดคุยกันด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ อย่ามุ่งมั่นที่เพียงแต่จะเอาชนะ ต้องสื่อสารกันให้ถูกต้อง เพราะบางทีปัญหาก็เกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดนี่แหละ
          7. เป็นผู้รับฟังที่ดี อย่าเพิ่งพูดแทรกหากอีกฝ่ายยังพูดไม่จบ ไม่ว่าเรื่องทั่วไป หรือเรื่องที่ค่อนข้างจริงจังก็ตาม
          8. อย่าจริงจังกับชีวิตมากเกินไป มีผ่อนสั้นผ่อนยาว ยืดหยุ่น พูดคุยกันแบบเคล้าอารมณ์ขันบ้างยิ่งดี
          9. ให้เวลาแก่กันพอสมควร อย่าถึงกับตามติดประชิดทุกระยะเผาขน  แต่ก็ไม่ควรละเลยอีกฝ่ายมากไป   เพราะจุดเล็กๆ ของเรื่องเวลานี่แหละมักทำให้เกิดรอยร้าว กระทั่งแตกหักได้
          10. สุดท้ายคือ  ความจริงใจ   นี่เป็นหัวใจสำคัญของการคบหากัน ต่อให้ทำดีต่อกันแค่ไหน แต่หากยังเห็นแก่ตัวมากไป รักก็คงต้องล่มสักวันดังนั้นจะทำอะไรก็ควรจริงใจต่อกันพร้อมที่จะรับรู้ทั้งเรื่องราวที่สุขและทุกข์ของอีกฝ่าย ไม่ใช่ยามสุขร่วมเสพแต่ยามทุกข์ไม่ร่วมต้าน หากไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์คุณทำให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ว่า คุณพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ นั่นแหละถึงจะได้หัวใจอีกฝ่าย
ไปครอง

           เป็นภาพที่สวยงามใช่ไหมล่ะ หากเราจะมีคนรู้ใจยืนอยู่ข้างๆไปไหนมาไหนด้วยกัน พร้อมที่จะเจอทุกเรื่องราวและทุกปัญหาด้วยกัน พูดคุยหยอกล้อกัน คุยกันถูกคอ มองตารู้ใจ หัวเราะด้วยกัน หรือแม้ในยามร้องไห้ ก็ยังมีไหล่และอ้อมกอดของอีกฝ่ายพร้อมเป็นที่พักพิง ให้กำลังใจเราเสมอ แค่คิดก็อดที่จะแอบยิ้มไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ ทั้งนี้หากต่างเสมอต้นเสมอปลายต่อกัน จริงใจต่อกัน 
แล้วคนที่ใช่จะเป็นใครไปได้ล่ะใช่ไหม?

ซ้ำขออภัยค่ะ

รูปประกอบ  :  อินเตอร์เน็ต