พระราชวังในประเทศไทย
พระราชวัง คือ ที่ประทับอาศัยของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยต้องมีประกาศพระบรมราชโองการให้เป็นพระราชวังเสียก่อน
หากนอกเหนือจากนี้ให้เรียกวังทั้งสิ้น ส่วนพระราชวังที่มีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์ไทยเรา มีดังนี้
๑. พระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก สร้างแต่ครั้งราชวงศ์พระร่วงครองราชสมบัติกรุงสุโขทัย ในรัชสมัยของพระมหาธรรมราชา (ลิไท)
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวร
- - - - - - -
๒. พระราชวังโบราณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดี (พระเจ้าอู่ทอง)
ปัจจุบันอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
- - - - - - -
๓. พระราชวังจันทรเกษม (วังหน้า) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เพื่อเป็นที่ประทับของ
สมเด็จพระนเรศวรในยามที่เสด็จลงมาอยุธยา และต่อมาก็เป็นที่ประทับของเจ้านายอยุธยาอีกหลายพระองค์ จนกรุงแตกก็ถูกทิ้งร้าง
จวบรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปดให้บูรณะ พร้อมพระราชทานนามว่า พระราชวังจันทรเกษม ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม
๔.พระนารายณ์ราชนิเวศน์ (วังนารายณ์) จังหวัดลพบุรี พระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับ ออกว่าราชการ
และต้อนรับแขกเมือง แต่ประทับได้เพียงไม่นานในช่วงปลายรัชกาล ก็เสด็จสวรรคต หลังจากนนั้นพระราชวังแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้าง
จนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้บูรณะและสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ พร้อมพระราชทานนามว่า พระนารายณ์ราชนิเวศ์
๕. พระราชวังเดิม (พระราชวังกรุงธนบุรี) กรุงเทพมหานคร พระราชวังหลวงของกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร สร้างโดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
และสมัยรัตนโกสินทร์ก็ยังเป็นที่ประทับของเจ้านายอีกหลายพระองค์ จนรัชสมัยพระบาทมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทาน
พระราชวังเดิมให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ หลังจากโรงเรียนนายเรือย้ายออกไป จึงได้ใช้เป็นที่ตั้ง กองบัญการกองทัพเรือ จนปัจจุบัน
๖. พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร พระราชวังหลวงของกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ตลอดมา จนเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสร้างพระราชวังดุสิตและย้ายไปประทับที่นั่น
๗. พระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า พระบวรราชวัง) กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นพร้อมๆกับพระบรมมหาราชวังใช้เป็นที่ประทับของ
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยกรมพระราชบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างขึ้น ได้เป็นที่ประทับของ
กรมพระราชวังบวรมาโดยตลอดจนตำแหน่งนี้ได้ถูกยกเลิกไปในรัชกาลที่ ๕ และสถาปนาสยามมกุฎราชกุมารขึ้นมาแทน กำแพงและป้อมต่างๆ
ถูกรื้อออก พื้นที่ส่วนใหญ่กลายเป็นสนามหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โรงละครแห่งชาติ ปัจจุบันพระราชวังบวรสถานมงคล
เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
๘. พระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) กรุงเทพมหานคร พระราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศน์ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข
วังหลังพระองค์เดียวแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อพระองค์สิ่นพระชนม์เชื้อสายลูกหลานไม่มีกำลังจะดูแลพระราชวังได้ จึงได้ปล่อยให้รกร้าง
ทำให้พื้นที่บางส่วนกลายเป็นของราษฎร ปัจจุบันพิ้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของโรงพยายาลศิริราช
- - - - - - - -
๙.พระราชวังปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนพระอิริยาบถในพระนคร
โดยทรงโปรดให้ขุดสระใหญ่สองสระติดกันและปลูกบัวพันธุ์ต่างไว้มากมาย เมื่อสร้างเสร็จได้พระราชทานนามว่า พระราชวังปทุมวัน
พร้อมพระราชทานนามวัดที่สร้างขึ้นใหม่สำหรับเป็นวัดประจำพระราชวังด้วยว่า วัดปทุมวนาราม เมื่อสิ้นรัชกาลพระที่นั่งต่างๆก็ทรุดโทรมลง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้พะราชห้เป็นโรงฝึกทหาร ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน
ที่ดินผืนนี้แก่ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทรชัย เพื่อสร้างวัง เมื่อพระองค์เจ้าของวังสิ้นพระชนม์
วังก็ตกทอดแก่ทายาทเรื่อยมาจนกลายเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติย์และถูกเอกชนเช่าเพื่อสร้างศูนย์การค้าจนปัจจุบัน
- - - - - - - - -
๑๐. พระราชวังสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างเพื่อใช้เป็นที่ประทับพระราชทาน
นามว่า สราญรมย์ แต่ก็สวรรคตเสียก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
ทั้งสองพระองค์ใช้เป็นที่ประทับชั้วคราวระหว่างสร้างวัง และยังเคยใช้เป็นที่พักรับรองพระราชอาคันตุกะและใช้เป็นที่ทำการ
กระทรวงการต่างประเทศ
๑๑. พระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จแปรพระราชฐานไปยังเกาะสีชัง
ได้ทรงสร้างพระราชฐานขึ้นและพระราชทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน ตามพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกเธอจุฑาธุชธราดิลก เมื่อเกิดเพตุการณ์
ร.ศ.๑๑๒ การก่อสร้างพระที่นั่งก็ชะงัก พระที่นั่งบางองค์ถูกรื้อไปปลูกที่อื่น ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับสิทธ์ในการใช้ที่ดินบางส่วน
เพื่อเป็นสถานีวิจัย พร้อมทั้งปรับปรุงพืื้นที่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์
- - - - - - - -
๑๒. พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้าขึ้นเป็นที่ประทับชั่วคราว พระราชทานนามว่า
สวนดุสิต ต่อมาได้เสด็จมาประทับบ่อยครั้งจึงโปรดให้สร้างพระราชนิเวศน์แห่งใหม่และพระราชทานนามว่า วังสวนดุสิต และ พระราชวังสวนดุสิต
ตามลำดับ กระทั่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เรียกว่า พระราชวังดุสิต
๑๓. พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พระบาทสมเด็นพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นสำหรับเป็นที่ประทับเมื่อเสด็จมานมัสการ
องค์พระปฐมเจดีย์และในยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักพระราชวัง
๑๔. พระราชวังพญาไทย กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปดให้สร้างเพื่อเป็นที่ประทับทอดพระเนตรการทำนา
ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ พระราชทานนามว่า พระตำหนักพญาไทยและวังพญาไทยตามลำดับ แต่ไม่นานก็เสด็จสวรรคต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทลเชิญเสด็จสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี มาประทับที่นี่พร้อมทั้งสถาปนา
ให้เป็น พระราชวังพญาไทย
๑๕. พระรามราชนิเวศน์ (วังบ้านปืน) เพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะสร้างพระราชวังไว้นอกพระนคร
สำหรับประทับ จึงได้มีพระบรมราชโองการให้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านในเขตบ้านปืน โดยมีสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพและ
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์เป็นแม่งานการก่อสร้าง
๑๖. พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้น โดยพระองค์ทรงร่างแผนผังการก่อสร้าง
ด้วยพระองค์เอง พระตำหนักต่างๆแบ่งกระจายกันเป็นหลังๆมีรูปทรงเดียวกัน และทุกหลังจะมีระเบียงและบันได เชื่อมหากันทั้งหมด
ปล. กราบขอบพระคุณสำหรับภาพและข้อมูลจากหลายๆที่
และกราบขออภัยที่ไม่ได้ใส่ที่มา ผิดพลาดอย่างไร
ตรงไหนไม่ดีขออภัยนะเจ้าคะ เขียนตอนดึก เบลอเจ้าค่ะ
ตอนนี้ง่วงมากแล้ว อภัยให้หม่อมด้วยนะเจ้าคะ