ดินแดนสปิริต จิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น
การเข้าเมือง
- ชาวไทยที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องขอวีซ่า โดยขอรายละเอียดที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย (ในตอนนั้นผมไปทำที่ สำนักงานชั่วคราว - บางนา ชั้น 9 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา)
- ห้ามนำของเหลวทุกประเภทติดตัวขึ้นเครื่องบินเกินกว่า 100 ม.ล. (ตอนนั้นจะเอาน้ำดื่มขึ้นไปก็ต้องทิ้งหมด)
- ห้ามนำยาเสพติดและอาวุธต่างๆ (อันนี้แน่นอน แม้แต่ยาบางประเภท ซึ่งผมต้องขอใบรับรองแพทย์ไปด้วย)
- การนำสินค้าปลอมแปลงและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
- มีข้อจำกัดในการนำเข้าสัตว์ และพืช รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาทิ งู จระเข้ งาช้าง
- การนำเข้าพืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ต้องผ่านการตรวจของศุลกากร (ตอนนี้รู้สึกที่ห้ามชัดเจนคือ มะม่วง)
- สำหรับสินค้าปลอดภาษี : นำสุราเข้าได้ไม่เกิน 3 ขวด (760 ม.ล. ต่อขวด) บุหรี่ไม่เกิน 400 แท่ง น้ำหอมไม่เกิน 2 ออนซ์
มารยาทและวัฒนธรรม
สิ่งที่ควรทำ
- ถ้าอยากสูบบุหรี่เฉพาะในที่ที่จัดไว้ให้ (คนส่วนใหญ่ที่นั่นสูบบุหรี่จัดมาก หากผิดกฏโดนปรับสูงถึง 20,000 เยน หรือเกือบๆ 8,000 บาท)
- มีระเบียบการแยกทิ้งขยะตามท้องถิ่น เช่น ขยะเผาได้ ขยะเผาไม่ได้ ขวด กระป๋อง และ pet bottle ต่างๆ
- การเข้าแถวถือเป็นมารยาทที่สำคัญ เช่น เข้าห้องน้ำ ร้านอาหาร ซื้อของ ขึ้นรถไฟ ลิฟท์ (พวกใส่สูทผูกไทร์ หรือชาวนา ก็ต้องยืนเข้าแถวยาวในที่ ที่เขากำหนดไว้ให้ ไม่มีใครแตกแถว และไม่มีใครบ่นซักคำแม้แถวยาวเหยียด
- การเข้าแถวรอสำหรับห้องสุขาสาธารณะ จะมีแถวรอรวมบริเวณปากทางเข้าตามลำดับคิว มิได้ยืนรอที่หน้าห้องสุขาแต่ละห้อง (เจอมาแล้วในห้องน้ำสาธารณะ ผมปวดฉี่มาก ก็เดินดุ่มๆ มุ่งตรงเข้าไปเลย สายตาทุกคนก็มองมาที่ผมคนเดียว....)
- ชาวญี่ปุ่นนิยมการทักทายสวัสดี และการบอกกล่าวในการมาถึงหรือออกจากสถานที่รวมทั้งธรรมเนียมการกล่าวขอโทษ และขอบคุณ จะอยู่ในวิถีปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีสำนวนคำกล่าวในแต่ละโอกาสเป็นการเฉพาะอีกด้วย
- พึงรักษาความสะอาด การเก็บกวาดสถานที่ การดูแลตกแต่งสวนต้นไม้ไม่ให้รบกวนผู้อื่น
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไม่มีวัฒนธรรมการให้ทิป
- ห้ามใช้เสียงโทรศัพท์ วิทยุ อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ ในรถไฟและบริการรถสาธารณะ
- ไม่ควรต่อราคาของ
- ไม่ควรยืนขวางบนบันไดเลื่อน / ควรยืนชิดซ้าย และหากจะเดินขึ้นให้ชิดขวา (ยกเว้นในเขตคันไซ ที่ยืน-ชิดขวา และหากจะเดิน-ให้ชิดซ้าย)
- การซ้อนจักรยาน เป็นสิ่งผิดกฎหมายจราจร
การแต่งกาย
- ญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศสูง ควรตรวจสอบสภาพอากาศและแต่งกายให้เหมาะสม
- ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน / ห้อง
- ใช้รองเท้าแตะสำหรับใส่ในบ้าน และเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะสำหรับห้องน้ำเมื่อเข้าห้องน้ำ
- ห้ามใส่รองเท้าเข้าห้อง Tatami (ห้องเสื่อญี่ปุ่น)
- ควรถอดหมวกและเสื้อโค้ตเมื่ออยู่ในอาคาร (ทุกสถานที่จะที่แขวน เสื้อโค้ต สูท และหมวก)
- การเข้าสถานที่อาบน้ำรวมห้ามใส่ชุดว่ายน้ำ
- การใส่ชุดยูคาตะซึ่งจัดเตรียมไว้ที่โรงแรม ให้ใส่ซ้ายทับขวา
ศาสนา-วัฒนธรรม
- ประเทศญี่ปุ่นไม่มีศาสนาประจำชาติ แม้คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะนับถือศาสนาพุทธ แต่ก็ไม่เข้มงวด และวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ มักจะเป็นไปตามประเพณีชินโต
การรับประทานอาหาร
- คนญี่ปุ่นนิยมใช้ตะเกียบรับประทานอาหาร (หากไม่ถนัด ต้องขอช้อนเอาเอง บางที่อาจไม่มีเตรียมไว้ให้)
- ก่อนรับประทานอาหาร จะพูดว่า "Itadakimasu" และ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว จะพูดว่า "Gochisosama-deshita"
- นิยมดื่มซุป โดยยกถ้วยหรือชามขึ้นดื่ม ไม่ใช้ช้อน (ซดกันดังอย่างเอร็ดอร่อยมาก ซึ่งผมก็ชอบ หนาวๆ มันอร่อยและสะใจดี)
- อาหารกลางวัน มักนิยมขายเป็น set menu หรือเป็นอาหารแบบกล่อง (bento) ราคาย่อมเยาตามมาตรฐานการครองชีพญี่ปุ่น ส่วนราคาอาหารมื้อเย็น มักจะสูงกว่าอาหารกลางวัน (โดยเฉลี่ยประมาณ 1-2 เท่า)
- ญี่ปุ่นมีบริการร้านอาหารแบบหยอดเหรียญ โดยกดเลือกรายการอาหารที่ต้องการและจ่ายเงินก่อนที่ตู้จ่ายเงินหน้าร้าน ซึ่งร้านอาหารประเภทนี้ ไม่ควรใช้เวลาในการรับประทานนาน และหลายร้านยังเป็นร้านที่ยืนรับประทานด้วย
- ในร้านอาหารทั่วไป บริกรมักจะนำใบรายการอาหารที่สั่ง (Denpyo) มาวางที่โต๊ะ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วให้นำ Denpyo นี้ ไปจ่ายเงินที่ Cashier ใกล้ประตู (ยกเว้นร้านอาหารใหญ่ หรือร้านแบบตะวันตก จะจ่ายเงินที่โต๊ะรับประทานฯ)
- สามารถดื่มน้ำประปาได้
- คนญี่ปุ่นมีความเคร่งครัดเรื่องสุขอนามัยอาหารสูง และให้ความสำคัญกับฉลากข้อมูลโภชนาการ และการหมดอายุ
คมนาคม
- ระบบขนส่งมวลชนในเขตเมืองใหญ่สะดวก และปัจจุบันแผนที่และข้อมูลการเดินทางเป็นภาษาอังกฤษมีเพิ่มมากขึ้นกว่าใน อดีต แต่พนักงานที่เกี่ยวข้องหรือประชาชนโดยทั่วไปส่วนใหญ่ ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
- ราคาแท็กซี่สูง ราคาเริ่มต้นในกรุงโตเกียวและตามเมืองใหญ่ ประมาณ 660 เยน
- ในรถไฟและบริการรถสาธารณะจะมีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ คนตั้งครรภ์ และคนพิการ ไม่ควรนั่งในที่ดังกล่าว
- ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมสละที่นั่งให้เด็กและผู้สูงอายุนั่ง หรือบางครั้งคนเหล่านั้นจะปฏิเสธเมื่อมีผู้สละที่นั่งให้ เนื่องจากความเกรงใจ ประกอบกับญี่ปุ่นเป็นสังคมผู้สูงอายุซึ่งมีประชากรสูงอายุส่วนใหญ่แข็งแรง ช่วยเหลือตนเองได้ และไม่อยากถูกมองว่าเป็นภาระของสังคม ขณะที่เด็กนั้น เชื่อว่าต้องฝึกฝนความเข้มแข็งและอดทนอยู่เสมอ
คำแนะนำอื่นๆ
- อาจไม่มีป้ายแนะนำเป็นภาษาอังกฤษเมื่อไปต่างจังหวัด
- อากาศแบ่งเป็น 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) และฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) และมีฤดูฝนในช่วงสั้นๆ ประมาณเดือนมิถุนายน และพายุไต้ฝุ่นในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
- เมื่อเกิดแผ่นดินไหว เปิดหน้าต่างและประตู ปิดแก๊ส หลบใต้โต๊ะ อย่ารีบหนีไปข้างนอก
- ในกรณีที่พำนักในญี่ปุ่นเป็นเวลานานพอสมควร ควรตรวจสอบจุดหลบภัยของชุมชนสำหรับการเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ และเตรียมอุปกรณ์ยังชีพฉุกเฉินในที่พำนักอาศัย
- ควรแจ้งชื่อ ที่อยู่ หมายเลขติดต่อ เพื่อการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตฯ / สถานกงสุลใหญ่
- สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และประกาศต่างๆ ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่http://www.thaiembassy.jp/
จึงไม่แปลกเลยว่าทำไม่ที่นี่เขาทำงานได้ประสบความสำเร็จไปเกือบทุกเรื่องและรวดเร็ว เพราะความมีสปิริต ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การเคร่งครัดต่อเวลา ความรับผิดชอบสูง การมีระบบงานขั้นตอนที่ชัดเจน รวดเร็ว จึงทำให้อุปสรรค์ต่อการวางแผนงาน ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ(ที่สามารถมองถึงเป้าหมายในอนาคตได้เลยว่า เป็นไปได้ในทุกเรื่อง) นั่นลดลงไปได้มากเลยที่เดียว
ที่มา: http://yumiyumayume.wordpress.com/