ทรงผมเด็กนักเรียนนานาชาติและเพื่อนบ้านของเรา
เมื่อการตัดหัวเด็กกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งระเบียบวินัยและเชื่อมโยงเข้ากับความมั่นคงของชาติ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าหากกฎกระทรวงจะจัดให้เรื่องทรงผมอยู่ในหัวข้อเดียวกับการควบคุมเรื่องการหนีเรียน มั่วสุม เสพยา เที่ยวผู้หญิง หรือแม้กระทั่งพกวัตถุระเบิด
ทั้งนี้ ในบรรดาเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ผู้ใหญ่เห็นว่าจำเป็นต้องควบคุมนักเรียน หัวเกรียนเป็นสิ่งที่เห็นด้วยสายตาได้ง่ายกว่าการพกพาวัตถุระเบิด ดังนั้น ในสายตาผู้ใหญ่ความเกรียนจึงกลายเป็นปราการที่ง่ายที่สุดสำหรับคัดกรองว่า เด็กคนไหน “พร้อมที่จะรับมรดกตกทอดจากผู้ใหญ่เป็นพลเมืองดีมีประโยชน์แก่ประเทศชาติในอนาคต” หรือไม่
ด้วยตรรกะข้างต้น ผู้ใหญ่จึงต้องถือไม้เรียว เพราะหากอธิบายโน้มน้าวแล้วเด็กยังไม่ยอมเกรียน ความรุนแรงจะเป็นไม้แข็งที่จำเป็นสำหรับการดัดไม้อ่อนไม่ให้เติบโตขึ้นมาอย่างบิดเบี้ยว
กล่าวโดยสรุป วัฒนธรรมการตัดหัวเกรียนคือภาพจำลองวัฒนธรรมทางอำนาจในประเทศไทย เพราะตัวพล็อตเรื่องนั้นคล้ายๆ กัน คือ มี ‘ผู้ใหญ่’ ที่รู้ดีที่ถือไม้เรียวในมือคอยกำกับ ‘เด็ก’ ไม่ฉลาดที่รอการชี้นำ ดังนั้น การควบคุมทรงผมจึงไม่ใช่เรื่องของการควบคุมทรงผมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการฝึกให้เด็กคุ้นชินกับสภาพวัฒนธรรมแบบไทยๆ ที่ถือว่าความสงบราบเรียบ (ติดผนังหัว) และว่านอนสอนง่ายเป็นคุณธรรม
จำลองเสมือนจริงถึงขนาดที่มีผู้อนุรักษ์ทรงผมนักเรียนในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งประกาศอย่างชัดเจนว่า ถ้าแค่นี้ทนไม่ไหว ‘ก็ลาออกไปเรียนนานาชาติสิ’!!!
ที่มา: ek-d.com , http://v-reform.org