ขบวนแห่พระศพ ซูสีไทเฮา ราชินีหลังม่าน
สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวชิงเสี่ยน (จีน: 孝欽顯; พินอิน: Xiào Qing Xiǎn)
หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีฉือสี่ พระพันปีหลวง
(จีน: 慈禧太后; พินอิน: Cíxǐ Tàihòu; เวด-ไจลส์: Tz'u-Hsi T'ai-hou, ฉือสี่ไท่โฮ่ว)
หรือที่รู้จักกันในประเทศไทยว่า "ซูสีไทเฮา"
[ประสูติ: 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1835 (พ.ศ. 2377);
สวรรคต: 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908 (พ.ศ. 2450)]
ทรงเป็นราชนิกุลชาวแมนจูในประวัติศาสตร์จีนสมัยราชวงศ์ชิง โดยทรงเป็นพระราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศจีนโดยพฤตินัยถึงสี่สิบแปดปี และเมื่อสวรรคตแล้วไม่นานราชวงศ์แมนจูและระบอบราชาธิปไตยในจีนก็ถึงกาลสิ้นสุดลง
ภาพวาดซูสีไทเฮา
เมื่อครั้งเป็น พระอัครชายาอี
พระนางซูสีไทเฮา เกิดวันที่ 29 พฤศจิกายน 1835 เดิมชื่อ เยโฮนาลา ครอบครัวเป็นคนชั้นกลางชาวแมนจู บิดาเป็นขุนนางท้องถิ่นเล็กๆ (บางแหล่งว่า เป็นทหารรักษาพระราชวังต้องห้าม) เมื่ออายุ 17 ปี ได้ถวายตัวเป็นนางสนมของ ฮ่องเต้เสียนเฟิง ต่อมานางตั้งครรภ์และได้ให้พระโอรส เหตุการณ์นี้ทำให้นางได้เลื่อนขั้นเป็น กุ้ยเฟย (สนมชั้นสูงสุด)
เนื่องจากฮ่องเต้เสียนเฟิง มีอายุสั้นเพียง 30 ปี สวรรคตไปเมื่อปี 1861 (2404 ) พระโอรสเพียงพระองค์เดียวที่กำเนิดโดยสนมกุ้ยเฟย ( ซูสีไทเฮา ) จึงได้ขึ้นครองราชย์สืบมา ทรงพระนาม ถงจือ ตามประเพณีของราชวงศ์ชิง คณะผู้สำเร็จราชการต้องเฉลิมพระนามแด่พระราชินี และนางเยโฮนาลาว่าเป็นพระราชินีหม้าย (Empress Dowager) นางเยโฮนาลาได้พระนามว่า ""ซูสีแปลว่า พระมารดาแห่งความเจริญรุ่งเรือง""
คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระนามาภิไธยสมเด็จพระจักรพรรดิได้ประกาศเฉลิมพระนามาภิไธยของพระชายาทั้งสอง
โดยสมเด็จพระจักรพรรดินีเจินในพระชนมายุยี่สิบเจ็ดพรรษา เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีฉืออัน พระพันปีหลวง
และซูสีไทเฮาในตำแหน่งพระอัครชายา พระชันษายี่สิบห้าชันษา เป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีฉือสี พระพันปีหลวง (จีน. 慈禧太后; พินยิน. Cíxǐ Tàihòu; จีนกลาง. ฉือสีไท้โฮ้ว)
ว่าราชการหลังม่าน จนถึงปี 1873 ที่ฮ่องเต้เติบโตขึ้นจนสามารถว่าราชการเองได้ ที่โดยฮ่องเต้ถงจื้อเป็นคนเสเพลและโปรดการเที่ยวซ่องโสเภณี
และว่ากันว่าพระองค์สวรรคตด้วยโรคซิฟิลิต เมื่อปี 2418 (1875)
ซูสีไทเฮาฝ่าฝืนกฎการสืบสันตติวงศ์โดยนำหลายชาย ( ลูกน้องสาว) นามกวางซวี หรือ กวางสู อายุเพียง 3 ขวบ ขึ้นมาเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป
ฮองเฮาทั้ง 2 พระองค์ก็ยังคงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระจักรพรรดิเช่นเดิม จนเมื่อฉืออันไทเฮาสิ้นพระชนม์ในค.ศ. 1881 ( ในหนังว่าพระนางซูสี เป็นผู้วางยา ) ซูสีไทเฮาจึงได้ขึ้นมีอำนาจเต็มเหนือแผ่นดินจีน
ขบวนแห่พระศพ ซูสีไทเฮา
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
หนุ่มรัสเซียฉีดวาสลีน 6 ลิตรเข้าแขนเพื่อ "กล้ามใหญ่ไว" สุดท้ายกลายเป็นป๊อปอายเวอร์ชั่นสยองขวัญ แขนเน่า-แข็งเหมือนไม้!
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
"จีน-รัสเซีย" ผนึกกำลังรุมบดขยี้ "สหรัฐ" ส่งเรือรบยึดน้ำมัน ใช้กำลังทหารรุกราน "เวเนซุเอลา"




















