หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิธีการแปลกๆ ในการจัดการกับ "ร่างที่เหลืออยู่ของคนตาย"

โพสท์โดย paama

เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าตัวเองตายแล้วจะให้ทำยังไงกับร่างกายต่อไป? คนส่วนมากก็คงจะให้เผาหรือไม่ก็ฝัง แต่ความจริงแล้วยังมีวิธีการไม่ธรรมดามากมายในการจัดการกับร่างที่เหลืออยู่ของคนที่ตายไปแล้ว ลองอ่านดูเผื่อจะได้ไอเดียแปลกๆ อย่างในบทความนี้

 

 

Space Burial

LPnosunm ที่มาภาพ cynical-c

สำหรับใครที่มีความฝันว่าเมื่อตายไปแล้วอยากลอยขึ้นไปอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว  ตอนนี้ความฝันของคุณจะได้เป็นจริงแล้วด้วยพิธีการฝังศพในแนวโลกแห่งอนาคต "Space burial" สำหรับใครที่ใช้บริการนี้ เถ้าถ่านที่เหลืออยู่ของคุณจะถูกนำมาบรรจุไว้ในภาชนะพิเศษและส่งขึ้นไปยังอวกาศโดยจรวด ค่าบริการอยู่ที่ 1,000-45,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกแพคเกจไหน ที่ทั้งแบบให้เถ้าลอยอยู่บนอวกาศสักพักแล้วตกลงมาบนโลก แบบให้คุณได้ลอยอยู่รอบๆ วงโคจรโลกไปเรื่อยๆ แบบให้ลงจอดบนดวงจันทร์ หรือแบบให้ลอยไปเรื่อยๆ ในอวกาศ

space ที่มาภาพ newvision2012 , geekosystem

จริงๆ การปล่อยเถ้าไปในอวกาศเปิดบริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1997 แล้ว และมีการทดลองปล่อยจรวดหลายครั้งเพื่อจะได้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้อยู่ในอวกาศจริงๆ แบบที่ต้องการ แต่ตอนนี้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้มีชื่อเสียงหรือคนที่ทำงานเกี่ยวกับด้านอวกาศเป็นส่วนมาก ส่วนครั้งต่อไปที่จะมีการปล่อยจรวดคือในปี ค.ศ.2014 นี้ ใครอยากไปอวกาศก็คงต้องรีบๆ กันหน่อยนะ  

 

 

Memorial Diamonds

The Deefer Diamond ที่มาภาพ phoenix-diamonds

ตามคำกล่าวที่ว่า "Diamonds are forever" บางคนก็เชื่อกันเป็นจริงเป็นจังว่า ถึงแม้จะตายไปแล้ว เขา/เธอ เหล่านั้นก็ยังคงอยู่เป็นอมตะได้โดยกลายสภาพเป็น เพชร แทน เมื่อไม่นานมานี้เองที่มีบางบริษัทเปิดบริการรับสร้างเพชรเทียมขึ้นมาจากเส้นผมหรือเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตไปแล้ว บริการนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายประเทศทั่วโลก (โดยเฉพาะกับสัตว์เลี้ยง) วิธีการสร้างเพชรก็คือ การสกัดแร่คาร์บอนออกมาจากเถ้าจากนั้นก็ไปผ่านขึ้นตอนการสร้างเพชรเป็นเวลาประมาณ 6-9 เดือน จึงจะได้เป็นเพชรสังเคราะห์ออกมา ซึ่งเพชรเหล่านี้สามารถสั่งได้ว่าต้องการสีอะไรบ้างเช่น สีใส สีเหลือง สีน้ำเงิน สีแดง หรือสีเขียว และสามารถนำไปทำเป็นเครื่องประดับไม่ว่าจะเป็นแหวน จี้ หรือสร้อยข้อมือได้ตามต้องการ ซึ่งเพชรนี้จะส่งให้ยังผู้สั่งทำพร้อมกับใบรับรองด้วย

pet_diamond ที่มาภาพ shifteast

สำหรับใครที่ไม่ต้องการให้นำเถ้าไปทำเป็นเพชร ก็สามารถสั่งทำเครื่องประดับแบบพิเศษซึ่งเป็นอัญมณีที่ข้างในบรรจุเถ้าของผู้เสียชีวิตไว้ได้ด้วย  

 

 

Resomation DeanFisher 130

ที่มาภาพ finnohara

สำหรับผู้รักธรรมชาติที่ถึงจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ก็ไม่ขอทำลายโลก หรือสำหรับใครบางคนที่อยากให้โลกมีสีเขียวเพิ่มขึ้นอีกสักนิดหนึ่งก็ยังดี วิธีการจัดการกับศพนี้คงน่าสนใจทีเดียว Resomation คือกระบวนการที่ทำให้ร่างกายย่อยสลายเร็วขึ้นโดยไม่ต้องเผาหรือฝัง เมื่อผ่านขั้นโดยการนำร่างใส่ไว้ในถุงแล้วนำไปไว้ใต้น้ำอัลคาไลน์ซึ่งถูกทำให้ร้อนและควบคุมความดัน ร่างกายก็จะถูกสลายอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น สิ่งที่ได้ออกมาคือ ขี้เถ้าสีขาวและของเหลวสีน้ำตาลเขียว ซึ่งของเหลวนี้คือกรดอะมิโนและเปปไทด์ ดังนั้น กระบวนนี้ก็เหมือนกับเป็นการย้อนกลับไปยังจุดพื้นฐานที่สุดของสิ่งมีชีวิตนั้นเอง

 

resomationblog4 ที่มาภาพ perfect memorials

ของเหลวสีน้ำตาลที่เหลือจากกระบวนการจะถูกส่งไปรดยังต้นไม้หรือสวน แล้วแต่ว่าคุณอยากจะเลือกไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วเพราะคุณจะช่วยให้ต้นไม้เติบโตได้ดีขึ้นและไม่ปล่อยแก๊สเรือนกระจกทำลายสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก  

 

 

Promession

promession ที่มาภาพ silveroutlinedwindow

อีกหนึ่งวิธีการสำหรับผู้รักธรรมชาติและอยากอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าตลอดไป สำหรับใครที่ชีวิตนี้ปลูกอะไรก็ไม่เคยขึ้นเลยวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ Promession คือวิธีการที่รับประกันว่า คุณจะสามารถช่วยธรรมชาติได้ถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว กระบวนการของวิธีนี้คือ การนำร่างไปจุ่มในไนโตรเจนเหลวซึ่งทำให้ร่างกายเย็นจนแข็ง จากนั้นก็ใช้คลื่น Ultrasound ในการสั่นเพื่อให้ร่างกายกลายเป็นผุยผงภายในชั่วพริบตา จากนั้น เถ้าที่เหลือนี้จะถูกบรรจุไว้ในกล่องที่ทำจากแป้งข้าวโพด (ย่อยสลายได้ง่าย) แล้วนำไปฝังไว้ในหลุมตื้นๆ ด้วยวิธีนี้จะไม่เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมแถวยังช่วยให้พื้นดินสมบูรณ์ขึ้นอีกต่างหาก cycle-promession_sfd1 ที่มาภาพ areacremations  

 

 

 

Sky Burial skyburial

ที่มาภาพ ecologywithoutnature

สำหรับใครที่สองวิธีข้างบนนั้นยัง "ไม่เป็นธรรมชาติ" พอ พิธีกรรม Sky burial ของชาวธิเบตอาจจะเหมาะกับคุณที่สุดแล้ว ในประเทศทิเบต นกแร้งถูกเรียกว่า Dakinis แปลได้ว่า นักร่ายรำแห่งท้องฟ้า และเป็นสัตว์ที่ถือเป็นเหมือนกับเทพแบบหนึ่งที่ทำหน้าที่นำดวงวิญญาณขึ้นไปยังสวรรค์ ที่ๆ วิญญาณเหล่านั้นจะรอเวลากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง และเพื่อให้ขั้นตอนนี้เกิดขึ้นได้ ร่างกายของผู้เสียชีวิตจะถูกนำไปไว้ที่บนยอดเขาที่สวยงามนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการแล่แนื้อและหั่นกระดูกออกเป็นชิ้นๆ ก่อน แล้วเอาให้นกแร้งกิน

Tibetan-Sky-burial ที่มาภาพ patheos

ถึงแม้จะดูเป็นวิธีการที่โหดร้ายรับไม่ได้สำหรับบางคน แต่สำหรับชาวธิเบตแล้ว เมื่อคนเราเสียชีวิตไปแล้วร่างกายก็จะเป็นเพียงแค่ภาชนะว่างเปล่าเท่านั้นที่ไม่ได้มีค่าอีกต่อไป (สิ่งที่มีค่าคือวิญญาณ ซึ่งไปรอการเกิดใหม่แล้ว) การทิ้งร่างให้เป็นอาหารนกและเน่าเปื่อยไปเองนี้ก็เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความไม่ยั่งยืนของชีวิตมนุษย์  อีกทั้งสภาพพื้นดินของประเทศทิเบตก็เป็นดินแข็งและหินทำให้ขุดฝังศพได้ยาก อีกด้วย  

 

 

Endocannibalism

endocannibalism ที่มาภาพ the list cafe

นี่น่าจะเป็นวิธีจัดการกับศพที่น่ากลัวที่สุดวิธีหนึ่ง ในกลุ่มของชนเผ่าบนเกาะนิวกินีเมื่อมีสมาชิกคนใดคนหนึ่งของเผ่าเสียชีวิตลง จะมีพิธีกรรมที่คนในเผ่าจะช่วยกัน กินศพ นั้น ไม่เพียงแต่ที่เกาะนิวกีนีเท่านั้น ชนเผ่าในประเทศบราซิลที่จะมีการนำเถ้ากระดูกของผู้ตายมาผสมกับน้ำซุปแล้วกิน ถึงจะดูป่าเถื่อนแต่สำหรับชนเผ่าเหล่านี้ การกินเนื้อของญาติพี่น้องตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของการไว้อาลัย และความเชื่อที่ว่าอย่างน้อยผู้ที่ตายก็จะได้มีส่วนหนึ่งอยู่ในคนที่ยังมีชีวิตอยู่ สำหรับบางเผ่าการกินเนื้อคนตายก็เพราะเชื่อว่า จะได้รับพลังและความแข็งแกร่งมานั่นเอง  

 

 

 

Plastination 789

ที่มาภาพ entertainmentworld00

Plastination นี่เป็นวิธีการที่จะให้ได้มัมมี่แบบยุคใหม่ น้ำและไขมันจะถูกนำออกจากร่างกายจนหมดและแทนที่ด้วยซิลิโคนแทน ร่างที่นำมาทำส่วนใหญ่จะถูกนำเอาผิวหนังออกเพื่อจะได้เห็นกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน โดยชิ้นส่วนหรือทั้งร่างกายที่ถูกเก็บรักษาได้ด้วยวิธีนี้จะคงสภาพอยู่ได้ตลอดไป อีกทั้งยังแข็งแรงทนทานพอที่จะนำมาถือเล่นหรือเคลื่อนย้ายได้โดยไม่เกิดความเสียหาย พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกโดย Gunther von Hagens ชาวเยอรมันในปี ค.ศ.1977 ตอนแรกใช้เพื่อเก็บรักษาสัตว์หรือพืชไว้เท่านั้น

จนกระทั่งปี ค.ศ.1993 จึงเริ่มมีการนำวิธีนี้มาใช้กับร่างของมนุษย์ และหลังจากนั้นก็มีการจัดงานแสดงร่างกายนุษย์ที่ถูกเก็บรักษาด้วยวิธีนี้โดยจัดแสดงให้มีท่าทางเหมือนกับยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1995 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้คนสนใจกันมาก และมาเยี่ยมชมงานกันถึง 3 ล้านคน

360_germany_0604

ที่มาภาพ time plantic ที่มาภาพ entertainmentworld00 , longwood

สำหรับบางคนอาจจะไม่สบายใจเวลาได้เห็นร่างที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตกลายมาเป็นหุ่นตุ๊กตาแบบนี้ แต่หลายๆ คนก็คิดว่าวิธีการนี้ดีกว่าการบริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลแบบธรรมดาๆ เพราะนอกจากจะได้นำไปใช้ในการศึกษาแล้ว ยังได้กลายเป็นผลงานศิลปะที่ได้เดินทางไปโชว์ตัวทั่วโลกอีกด้วย ไม่เลวเลยใช่มั้ย?

 

แปล เรียบเรียง และอ่านบทความอีกมากมายที่ http://www.everyday-readers.com

ที่มา The List Cafe , Wikipedia : Space Burial , Wikipedia : Plastination
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
paama's profile


โพสท์โดย: paama
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
76 VOTES (4/5 จาก 19 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทย10 อาหารลดบวมน้ำ ตัวช่วยจากผักและผลไม้ ขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายผัวช็อก!! หลังเมียคลอดลูกออกมา ลูกมีผิวดำนักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้าGen Z ไฟแรง สูงทะเยอทะยาน อยากโตไว ไม่รอแล้วนะ!เก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand International
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยเก็บตก! งาน Top9 MGI Queen’s Celebration 2024 งานแฟชั่นโชว์สุดอลังการฉลองความสำเร็จ Miss Grand Internationalน้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษ
ตั้งกระทู้ใหม่