คุณถ่ายพยาธิแล้วหรือยัง?
พยาธิ เรื่องใหญ่ที่ทุกคนมองข้าม
เป็นที่น่าตกใจว่า คนที่ป่วยอันเนื่องมาจากพยาธิ แต่ไม่รู้ตัวมีมากกว่า 80% ของประชากร
พยาธิจะกินเม็ดเลือด ทำให้โลหิตจาง มีอาการที่สังเกตุได้หนึ่งในอาการต่อไปนี้ เช่น อ่อนเพลีย นอนเท่าไหร่ก็ไม่สดชื่น, ขี้เซา, เวียนหัว, ไมเกรน, มีปัญหากับสายตา, เบื่ออาหาร, ขี้หนาว, มีลมในท้อง, ท้องอืด, นอนไม่หลับ หรือ หลับแต่ไม่สบายตัว, ไอระคายคอ เป็นต้น
วงจรชีวิตของพยาธิ
พยาธิตัวแก่จะอาศัยอยู่ในลำไส้เล็ก และคอยแย่งอาหารที่ย่อยแล้วในลำไส้กิน มีอายุเฉลี่ยอยู่ประมาณ
6 เดีอน - 1 ปี แยกเพศออกเป็นชนิดตัวผู้ และ ชนิดตัวเมียตัวเมียจะออกไข่ประมาณ วันละสองแสนฟองไข่จะออกมาพร้อมกับอุจจาระถ้าตกลงไปบนพื้นดินที่มีความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 25 องศาเซลเซียส เซลในไข่จะแบ่งตัวเจริญเป็นตัวอ่อนได้ภายใน 10 - 21 วัน เมื่อคนกินอาหารที่ปนเปื้อน หรือสูดหายใจเอาไข่พวกนี้ ( Embryoated egg) เข้าไป ตัวอ่อนพยาธิจะฟักตัวออกมา ไชทะลุลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด หรือ น้ำเหลืองผ่านตับเข้าสู่ หัวใจ ปอด หลอดลม คอหอย หลอดอาหาร แล้วกลับลงมาสู่ลำไส้เล็กมาเจริญเป็นตัวแก่ต่อไป นับตั้งแต่ได้รับไข่พยาธิเข้าไปจนเติบโตเป็นตัวแก่ที่พร้อมออกไข่ได้กินระยะเวลาเพียง 2 เดือน
อาการและลักษณะทางคลีนิค
- อาการช่วงที่ตัวอ่อนพยาธิกำลังเดินทาง
ในขณะที่พยาธืตัวอ่อนเดินทางผ่านผนังลำไส้ไปยังปอดนั้น ถ้ามีจำนวนมากจะทำให้ผู้ป่วยมีไข้ ไอ หายใจแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย ไออาจมีเสมหะปนเลือด บางครั้งอาจมีตัวพยาธิออกมาด้วย นอกจากนี้ยังเกิดอาการลมพิษ จำนวนเม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลขึ้นสูง อาจทำให้เกิดปอดอักเสบได้ เรียกว่า Loeffer's syndrome ( Ascaris pneumonia)
- อาการเกิดจากพยาธิตัวแก่
พยาธิตัวแก่จะคอยแย่งอาหารในลำไส้เล็กกิน ดังนั้นในเด็กที่มีพยาธิเป็นจำนวนมากจะเกิดการขาดอาหารได้ โดยเฉพาะพวกโปรตีน บางรายอาจมีอาการคัน ลมพิษ หน้าบวมในกรณีที่มีพยาธิมากอาจไปจับตัวเป็นก้อน ทำให้เกิดอาการลำไส้อุดตันได้ จะมีอาการปวดท้องแบบโคลิค อาเจียน ท้องอืด ถ่ายลำบาก เป็นต้น ในบางครั้งพยาธิอาจเดินทางเข้าไปในกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยอาจอาเจียนเอาตัวแก่พยาธิออกมาได้ บางรายพยาธิอาจไชเข้าไปในรูไส้ติ่งทำให้เกิด ใส้ติ่งอักเสบได้
พยาธิ ติดได้ทั้งทางปาก จมูก ผิวหนัง จากอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ, จากผักสด, จากการหายใจ, จากสัตว์เลี้ยง หมา แมว (ถ้าอยากรู้ search จาก web ทั่วไปได้)พยาธิจะถ่ายเป็นเชื้อรา ถ้ามีพยาธิเป็นเดือน ๆ เป็นปี ๆ เชื้อราจากพยาธิจะสร้างพังผืดรอบอวัยวะต่าง ๆ ทำให้เกิดเนื้องอก ซี๊ด และ เป็นต้นตอของมะเร็ง
พยาธิทำให้หมอแผนปัจจุบันวินิจฉัยโรคผิด รักษาโรคนั้นเท่าไหร่ก็ไม่หาย เพราะลืมเรื่องพยาธิไป ฉะนั้น เมื่อพบอาการอ่อนเพลีย แนะนำว่า ควรกินยาถ่ายพยาธิก่อนหลังจากนั้น 3-4 วัน แล้วถ้ายังมีอาการนั้นอยู่ จึงไปรพ. หมอจะวินิจฉัยได้ถูกต้องมากขึ้น (ยกเว้นมีอาการอื่นรุนแรง มีไข้ ควรไปรพ.ทันที)
ถ้าท่านมีปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ถามตัวเองว่า ตั้งแต่มีอาการนั้น ได้ถ่ายพยาธิแล้วหรือยัง ? พยาธิ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยง 100% ไม่ได้ แต่ลดโอกาสเสี่ยงได้ ไข่พยาธิสามารถอยู่ได้ในอากาศ การสูดลมหายใจ 1 ครั้ง สามารถพาไข่พยาธิเข้าไปได้ไม่ต่ำกว่า 100 ฟอง
ปกติ ทุกท่านควรกินยาถ่ายพยาธิทุก ๆ 3 เดือน สมัยนี้มียาถ่ายพยาธิที่ครอบคลุมพยาธิทุกชนิด และ ย่อยสลายออกมาเป็นอุจจาระไม่ใช่ออกมาเป็นตัว หาซื้อได้ตามร้านขายยาเป็นยาสามัญ ฯ ไม่อันตราย ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย ์ถามเภสัชกรในร้านได้
จะเห็นได้จากกรณีตัวอย่างที่หมอผ่าท้องคนไข้เด็กพบมีพยาุธิอยู่ในท้อง 300 ตัว (หรือน้ำหนัก 0.5 กิโล) อันเนื่องมาจากพ่อแม่ไม่เคยให้ยาถ่ายพยาธิเลย
แล้วท่านล่ะ ถ่ายพยาธิแล้วหรือยัง?