“คนธรรมดา” ที่มี “ตัวตนลับ” ที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง
เคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่าเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย คนที่ทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี หรือลุงแก่ๆ ข้างบ้าน ความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่คนในแบบเราที่รู้จัก ความจริงแล้วเขาอาจจะเป็นคนที่ถ้ามีใครรู้ความจริงแล้วคงจะต้องพากันช็อคก็ได้ และนี่คือตัวอย่างของคนธรรมดาๆ ที่ความจริงแล้วมี ตัวตนลับ ที่คนรอบๆ ตัวไม่มีใครเคยรู้ และใครๆ ก็คิดไม่ถึง บทความจาก Everyday-Readers.com
Sergio Gutierrez Benitez
ที่มาภาพ WIkipedia , Catholic Church Conservation
คุณพ่อ Sergio Gutierrez Benitez เป็นบาทหลวงที่ดูแลบ้านเด็กกำพร้าเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเม็กซิโก ในสมัยวัยรุ่นเขาเป็นเด็กมีปัญหาและยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นเมื่อเขาโตขึ้น เขาจึงบวชเป็นบาทหลวงเพื่อพยายามแก้ไขชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะเขากลายเป็นคนสุภาพ อ่อนโยนที่คอยช่วยเหลือเด็กกำพร้าและมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข โดยสอนปรัชญาไปด้วย แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน คุณพ่อ Benitez ผู้ใจดีจะกลับมาบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก และกลายเป็น นักมวยปล้ำชื่อดังในตำนาน Fray Tormenta
ที่มาภาพ A&E
เป็นเวลา 23 ปี ที่คุณพ่อ Benitez ขึ้นแข่งในสังเวียนมวยปล้ำสวมหน้ากาก สาเหตุก็เพื่อต้องการเงินมาช่วยในการดูแลเด็กกำพร้าในบ้านเพราะทางโบสถ์ไม่ยอมให้การสนับสนุน เขาขึ้นปล้ำโดยไม่มีใครเคยรู้ว่าตัวจริงของเขาคือใคร แต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่ามาก เพราะหลังจากนั้น เด็กๆ กำพร้าของคุณพ่อก็เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ มีทั้งเป็นอาจารย์ ทนาย และวิศวกรคอมพิวเตอร์
ที่มาภาพ eresulcatolic
ปัจจุบันนี้ คุณพ่อ Benitez เกษียณตัวเองจากการเล่นมวยปล้ำแล้ว เหลือไว้แต่ตำนานของ Fray Tormenta ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวละครทั้งในวิดีโอเกม ภาพยนตร์ และหนังสือการ์ตูน แต่ก็ยังคงมีนักมวยปล้ำที่ใช้ชื่อ Fray Tormenta Jr. ซึ่งก็คือหนึ่งในเหล่าเด็กกำพร้าของคุณพ่อที่โตขึ้นและทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายอาชญากรรม แต่เวลาที่ไม่ได้ทำงานก็จะเอาชุดเดิมของคุณพ่อมาใส่และขึ้นปล้ำในสังเวียนแทน
Fray Tormenta และ Fray Tormenta Jr.
ที่มาภาพ luchamania
Sean Laurence Waygood
ที่มาภาพ Cracked
Sean Waygood ทำงานเป็นผู้ดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้กับบริษัทขนส่งสินค้าที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เขาเคยอยู่ในกองทัพเป็นเวลา 4 ปี ทำให้เวลาที่ทำงานถ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยเขาจะเป็นคนจริงจังมาก ส่วนชีวิตส่วนตัวของเขาก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เขาอาศัยอยู่กับแฟนสาวและลูกอีก 2 คน ส่วนเวลาว่างๆ ก็ช่วยงานการกุศล เป็นผู้ชายใจดีธรรมดาๆ คนหนึ่งที่พบเจอได้ทั่วไป
แต่ความจริงแล้ว Waygood มีงานหลักอีกอย่าง เขาทำงานเป็น นักลอบสังหารมืออาชีพ ที่ตำรวจตามสืบสวนมาเป็นเวลา 8 ปี และพบว่า เขาเป็นผู้ลงมือสังหารคนไป 9 คนอย่างเหี้ยมโหด ตามคำสั่งของ Tony Perish หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย
การฆาตกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดจากฝีมือของเขาก็คือ การพยายามฆ่า Felix Lyle สมาชิกของแก๊งมอเตอร์ไซด์นอกกฎหมาย เรื่องนี้ต่อมาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Sons of Anarchy แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ Waygood ถูกจับได้ คือตอนที่เขาไปฆ่า Terry Falconer ศัตรูของ Tony Perish ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.2001 ซึ่งต่อมาตำรวจได้ค้นพบร่างของ Terry Falconer ถูกแยกชิ้นส่วนใส่ไว้ในถุงพลาสติก 7 ใบ ลอยอยู่ในแม่น้ำ
ที่มาภาพ Screenhead
หลังจากที่เขาถูกจับกุม ตำรวจได้เข้าค้นบ้านของ Waygood และค้นพบอาวุธจำนวนมากซ่อนอยู่ภายในบ้านนั่นเอง ซึ่งอาวุธที่เจอได้แก่ กระสุน 3,000 นัด ปืนไรเฟิลแบบธรรมดาและแบบเก็บเสียง ปืนกล ปืนขนาดลำกล้อง.22 และ.38 ปืน Luger เสื้อกันกระสุน และอุปกรณ์ปลอมตัวอีกหลายอย่าง ที่รวมถึงชุดและตราของตำรวจทุกๆ หน่วยในประเทศ ที่ทำให้เขาสามารถปลอมตัวเป็นตำรวจจากที่ไหนก็ได้
ภาพขณะจับกุมตัว Sean Waygood ได้
ที่มาภาพ The Telegraph
William Leasure
William Leasure เป็นตำรวจจราจรในเมืองลอสแองเจลิส ที่มีชีวิตธรรมดาแบบสุดๆ เขาไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง วันๆ ก็ทำงานเขียนใบสั่ง ได้เงินเดือนไม่เยอะนัก แต่เขาก็ไม่เคยมีท่าทีมุ่งมั่นอยากเป็นใหญ่เป็นโตเลย (เคยแม้กระทั่งปฏิเสธการเลื่อนตำแหน่งที่เขาจะได้รับผิดชอบงานมากขึ้น) สำหรับทุกคน เขาคือชายที่ทำงานสบายๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้เกษียณและจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข แต่ไม่มีใครรู้ว่าความจริงแล้ว William Leasure คือ สุดยอดอาชญากรอัจฉริยะ
ชายคนนี้ คือคนที่ทำผิดกฏหมายครบทุกอย่าง แม้แต่กฏหมายที่ยังไม่มีการเขียนขึ้นมาด้วยซ้ำ ทั้งฆาตกรรม โกงเงินประกัน หรือขโมยรถ William Leasure ทำมาหมด และทุกๆ วันเขาก็ยังคงไปทำงานตอนเช้าได้อย่างหน้าตาเฉย คดีที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ จากการที่เขาไปเป็นหุ้นส่วนเครือข่ายขโมยและขายเรือยอร์ชสุดหรูราคาหลายล้านเหรียญ และไม่เคยถูกจับได้เลย
ที่มาภาพ Luxury Property
นอกจากนั้น เขาก็มีชื่อเสียงในวงการใต้ดินว่า ถ้าอยากจะฆ่าใครให้มาหา William Leasure ด้วยเงิน 50,000 เหรียญดอลล่าร์ เขาจะตามเก็บเป้าหมายให้ เขายังเป็นผู้ดูแลและจัดการเครือข่ายลักรถ (ตอนที่โดนจับได้พนักงานสืบสวนเจอรถ Chevrolet Corvette เป็นโหลอยู่ในบ้านเขา) และเขายังอ้างว่า เขามีเงินอีกหลายล้านเก็บไว้ในบัญชีลับที่เกาะเคย์แมน และตั้งใจจะซื้อเกาะซักเกาะหนึ่งแถวอเมริกากลางเป็นของตัวเอง
William Leasure ทำทุกอย่างนี้โดยที่เพื่อนๆ ตำรวจของเขาไม่เคยรู้เรื่องเลยกว่า 10 ปี ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้แต่งงานกับพนักงานอัยการและเธอเองก็ไม่เคยรู้เรื่องเช่นกัน เขาถูกจับเข้าคุกในช่วงต้นปี ค.ศ.1990 และเรื่องราวของเขามีออกมาเป็นหนังสือที่ชื่อ Murderer with a Badge แต่จนถึงทุกวันนี้ พวกตำรวจและนักสืบก็ยังคงไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร และไม่รู้ว่าอาชญากรรมที่เขาทำไปจริงๆ แล้วมีมากกว่านี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนที่จับความจริงแล้วอาจจะเป็นตัวปลอมหรือเปล่า จริงๆ ตอนนี้ William Leasure อาจจะไปอยู่สุขสบายบนเกาะใดเกาะหนึ่งแถวอเมริกากลางก็เป็นได้
ที่มาภาพ murderpedia
Shigeo Tokuda
ที่มาภาพ Holy Taco
Shigeo Tokuda เป็นคุณตาวัย 76 ปี ที่เกษียณอายุจากงานตัวแทนสำนักงานท่องเที่ยว ปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านพร้อมกับภรรยาและลูกสาวในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่คุณตาก็ยังคงทำงานเสริมเพื่อไม่ให้ตัวเองว่างจนเกินไป และงานเสริมที่ว่านี้ก็คืองานในฝันของผู้ชายหลายๆ คนคือเป็น ดาราหนังโป๊ Tokuda เป็นดาราหนังโป๊รุ่นสูงอายุที่ดังที่สุดในวงการ เขาแสดงมาแล้วกว่า 350 เรื่อง คู่กับนักแสดงสาวตั้งแต่อายุ 20-70 ปี กว่าหลายร้อยคน และไม่น่าเชื่อว่าครอบครัวของเขาไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
ที่มาภาพ Giant Robot
เริ่มต้นขึ้นจาก Tokuda ที่มีงานอดิเรกเหมือนหลายๆ คนคือ ชอบดูหนังโป๊ แต่ไม่กล้าไปซื้อตามร้านค้าที่ขายอยู่ทั่วไป จึงตัดสินใจสั่งซื้อผ่านบริษัทสร้างหนังโป๊โดยตรง และได้กลายเป็นเพื่อนกับผู้กำกับหนังของบริษัทนั้น วันหนึ่ง เพื่อผู้กำกับได้เสนอให้เขานำแสดงให้หนังโป๊ของผู้สูงอายุเรื่องหนึ่ง และไม่น่าเชื่อ คุณตาที่ไม่กล้าไปซื้อหนังโป๊เองกลับตกลงยอมเปลือยและเล่นหนังโป๊ให้คนถ่าย และออกขายไปทั่วประเทศ Shigeo Tokuda (ที่ความจริงแล้วเป็นชื่อในวงการ) แอบไปเป็นดาราหนังโป๊โดยที่ทางบ้านไม่รู้เรื่องเลยมาเป็นเวลาถึง 14 ปี และคุณตาก็มีแผนจะแสดงหนังต่อไปถึงอายุจะเกิน 80 ปีก็ตาม อิจฉากันมั้ยล่ะ
ที่มาภาพ Cracked , Cinemaretro
แปล เรียบเรียง และอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ http://www.everyday-readers.com
ที่มา Cracked