บาปหนาค่ะ ระบายให้ฟัง
สวัสดีค่ะ เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจดูมีเนื้อหาที่รุนแรง และเกินจะรับไหวสำหรับใครบางคน
แต่ก็เป็นเรื่องจริงของ จขกท.เองค่ะ จขกท.เป็นคนบาปหนาและเลวมากค่ะ แค่อยากระบาย
ให้สบายใจเท่านั้นค่ะ ไม่มีจิตใจประสงค์ให้ทุกคนทำตามนะคะ!!
เรื่องมันมีอยู่คือตั้งแต่จขกท.เกิดค่ะ พ่อและแม่ต้องทำงานไม่มีเวลาเลี้ยงจขกท. จึงได้นำไปฝากเลี้ยง
กับแม่เพื่อนของพ่อแม่จขกท.ค่ะ จขกท.โตมากับบ้านนี้โดยรู้สึกเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง
ผู้คนที่บ้านนี้รักและเอ็นดูจขกท. อาจเป็นเพราะเป็นเด็กคนเดียวในบ้าน
ถามว่าจขกท.คิดถึงพ่อแม่บ้างไหม คิดถึงค่ะ มากด้วยและไม่เคยเข้าใจว่าเพราะเหตุใดต้องไปเรียนค่ะ
รู้เพียงว่า หากไปเรียนแล้ว สุดสัปดาห์จะได้เจอพ่อ หรือไม่ก็แม่ จะได้ไปเที่ยว จะได้อยู่กับพ่อแม่
คิดได้แค่นั้นค่ะ เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยไม่มีอะไรค่ะ ชีวิตปกติ จนเมื่อแม่ตั้งท้องน้องค่ะ จขกท.ได้
กลับมาอยู่บ้านค่ะ ตอนนั้นเพิ่งขึ้น ป.1 แม่ยังทำงานอยู่ค่ะ กลับถึงบ้าน 4-5 ทุ่ม พ่อเช่นกันค่ะ
บางวันอาจจะกลับเร็วหน่อยแต่ก็ยังดึกไปสำหรับเด็กอย่างจขกท.อยู่ดี ตัวจขกท.เหรอคะ อยู่บ้านค่ะ
เลิกเรียนกลับมาบ้าน จัดการไขประตูรั้วบ้านเองทำอะไรเอง บางวันแม่พ่อลืมทิ้งกุญแจไว้ให้ก็ปีนรั้วค่ะ
เป็นอย่างนี้นานพอสมควรค่ะ การปรับตัวมาอยู่กับพ่อแม่ เป็นอะไรที่ลำบากมากค่ะ เพราะไม่คุ้นเคยกัน
ไม่รู้ใจกัน แต่จขกท.ก็อุ่นใจค่ะ และพยายามทำตัวให้เข้ากับพ่อแม่มากที่สุด จนเมื่อน้องถึงกำหนดคลอดค่ะ
จขกท.รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะมีน้อง คิดฝันไว้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่มันไม่เป็นอย่าง
นั้นหรอกค่ะ มันเลวร้ายมาก อย่างที่หลายๆคนเคยโพสไว้เกี่ยวกับปัญพี่น้อง จขกท.เองก็เจอมาทุกรูปแบบ
เหมือนกันค่ะ อดทน อดกลั้น น้ำตานองหน้าทุกวัน ไม่กล้าร้องไห้ให้น้องเห็น กลัวมันจะหัวเราะเยาะเอา
ก็เป็นแบบนั้นละค่ะ เห็นเราร้องไห้ เลยคิดว่าถ้าเราทำอะไรไม่ถูกใจให้จะฟ้องแม่ แล้วเราจะร้องไห้
เป็นแบบนี้มาหลายปี จขกท.โดนกดขี่ทางจิตใจ ระบายกับใครไม่มีใครรับฟัง จขกท.เริ่มเรียนต่ำมากขึ้นเรื่อยๆ
อาจจะเป็นเพราะเครียดมากค่ะ จากเกรด 4 เป็น 3.5 จากเคยได้ที่ 1 ของห้อง ตกเป็น ที่ 5 และ 7 ตาม
ลำดับ นั่นยิ่งทำให้เครียดขึ้นไปอีก โดนแรงกดดันจากที่ รร. แล้ว ยังที่บ้านอีกด้วย โง่บ้าง ควายบ้าง
สมองหมา ปัญญาควายบ้าง ไม่มีสมองบ้าง ฯลฯ เครียดมากช่วงนั้น แต่กลับน้องสาวไม่เป็นค่ะ
เขาจะสอบได้ที่ ประมาน 37-38 ของห้อง ในห้องมี 39 คนค่ะ พ่อและแม่จะปลอบใจ คอยให้กำลังใจ
ไม่เป็นไรนะลูก คนเราไม่จำเป็นต้องเก่ง ดีเสมอไป จขกท.ยิ่งได้ยิน ยิ่งรู้สึกตัวเองไร้ค่ามาก
แต่พยายามคิดในแง่ดี พ่อแม่คงอย่างให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น จน จขกท.เรียนจบ ม.3 ค่ะ
สอบเข้า รร. ชื่อดังในจว.ได้ค่ะ สายวิทย์-คณิต แต่เรียนไม่รู้เรื่องค่ะ เป็นความผิดของ จขกท.เอง
ถามแม่ (แม่จะเก่งในด้านนี้มากค่ะ) แม่จะรำคานทุกครั้ง และไม่ค่อยตอบ แต่จะว่าทุกครั้งว่าเรียนที่ รร.
ไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร จึงขออนุญาตไปเรียนพิเศษค่ะ ทุกครั้งที่ออกไปเรียน เหมือนจะฆ่ากันตายในบ้านค่ะ
จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ตัดปัญหาค่ะ ไม่ไปเรียนเลย แล้วจขกท.ก็ไม่สนใจการเรียนด้วยค่ะ เลวมากช่วงนั้น
ตอนนั้นเริ่มมีแฟนค่ะ แต่ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำ กรรมซัด เจอคนโฉดชั่วร้าย หลอกทุกอย่าง มอมเหล้าจขกท.
ขมขืนกระทำชำเรา แล้วขู่เอาไว้ ไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร ไม่อย่างนั้นเขาจะเอาถึงตาย! กลัวมากค่ะ
แล้วทุกครั้งเขาจะใช้ข้ออ้างนี้ทุกครั้งในการทำแบบนี้ ทรมานค่ะ จนวันหนึ่ง แม่รู้เรื่องเข้า
ก็ตายระเบียบค่ะ ร่าน สำส่อน ฯลฯ พ่อและแม่ให้ จขกท.ย้ายไปอยู่กับคนที่เลี้ยง จขกท.มาแรกค่ะ
จขกท.ดีใจมากค่ะ เหมือนได้กลับมาอยู่บ้านที่คุ้นเคย เจอผู้คนที่คุ้นเคยรู้สึกสบายใจ แม้ว่า
จะรู้อยู่เต็มอกว่าที่นี่ไม่มีใครเลยเกี่ยวพันทางสายเลือกกับเรา แต่ด้วยความที่โตมากับที่นี่ จึงรู้สึกผูกพันธ์ค่ะ
ตอนนั้นรู้จักกับชายคนนึงค่ะ ทางอินเตอร์เน็ต เราติดต่อกันมาเรื่อย จขกท.ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว แต่เรายังติดต่อ
กันอยู่ค่ะ จขกท.ไปสมัครเรียน รร. พานิชแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ ใกล้บ้านที่จขกท.อยู่ ช่วงนั้น
มีความสุขดีค่ะ เพราะไม่ค่อยได้ติดต่อกับทางบ้าน อยู่ไปเรื่อย โดยที่จขกท.เองไม่ได้ระวังตัวค่ะ
เพราะเห็นว่าเป็นบ้านที่อยู่มาแต่อ้อนแต่ออก ลูกเขยของยายที่เลี้ยงจขกท.มา คนนี้เป็นเพื่อนกับพ่อแม่
จขกท.เองค่ะ ภรรยาเขาก็ด้วย ประมานว่า แก๊งเดียวกัน เขาร่ำรวยเงินทองและขึ้นชื่อว่า เจ้าชู้หัวงูมาก
ตัวภรรยาเองรู้ดีค่ะ แต่แกล้งทำไม่สนใจ ภรรยาเขาจะชอบมาระบายให้จขกท.ฟังอยู่บ่อยๆ
จขกท.ดูออกค่ะ ว่าเขาหนักใจ แต่แกล้งฟอร์มเป็นไม่สน เช้าวันหนึ่งวันนี้จขกท.รู้สึกยังไงไม่รู้
ปกติไม่เคยตื่นเช้าค่ะ วันนี้อยากทำบุญ ตักบาตร ขึ้นมา เตรียมของใส่บาตรพระแต่เช้า
เจอเข้ากับ ลุงคนนั้นพอดี จขกท.เองไม่ได้สนใจอะไร รอพระอยู่นาน ข้างบ้านบอกว่าวันนี้พระไม่มา
จขกท.เลยเข้าบ้าน ลุงสะกิดแล้วพูด หอม จขกท.เองฟังไม่ถนัด(หูไม่ค่อยดี) ถามอะไรหอม
ลุงแกส่ายหน้า บอกให้ตามแกขึ้นไปชั้นบน จขกท.เองก็ งงๆ ค่ะ ด้วยความที่เราไร้เดียงสา อายุได้ 15
(สำหรับบางคนอาจจะไม่ไร้เดียงสานะ แต่กับจขกท.ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องราวความโหดร้ายของโลกใบนี้)
ตามขึ้นไป ทันทีที่ขึ้นไปถึง เขาให้เปิดประตูห้องนอนดูว่า ภรรยากับลูกของเขาหลับดีไหม แล้วเขาก็ยืนพูดคุย
บอกจะส่งเสียเลี้ยงดูเราอย่างดี อยากได้อะไรจะซื้อให้ อยากมีเงินใช้เขาจะให้ เขาขอหอมแก้มหนึ่งครั้ง
จขกท.ให้ค่ะ เพราะไม่เข้าใจจุดประสงค์ นึกว่าเหมือนตอนเด็ก เมื่อหลายปีก่อน เขาก็หอมแก้มเราเหมือนกัน
เขาหอมแก้ม แล้วลิ้นก็ลามไปถึงปาก มือก็จับหน้าอก จขกท.รู้สึกเริ่มไม่ดี ปัดมือออกแล้ววิ่งลงข้างล่าง เข้าห้อง
เลยค่ะ หลบอยู่ในห้องจนกว่าเขาจะออกไป นั่งคิดนี่เราอยู่นรกหรือเปล่านะ ทำไมต้องเจออะไรแบบนี้
โทรหาแม่ เล่าให้ฟัง เขามารับแล้วคุยกัน เหมือนพ่อและแม่จะไม่เชื่อ จขกท.เสียใจมากค่ะ เหมือน
ทุกอย่างมันพังทะลายลงไป ความไว้เนื้อเชื่อใจมันสูญสิ้น ที่ร้ายไปกว่านั้นจขกท.สงสัยว่า ภรรยาของเขา
อาจจะรู้เห็นเป็นใจเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ เพราะเขาเองไม่ต้องการให้สามีไปมีใครข้างนอกบ้าน
เรื่องนี้สะเทือนใจมาก จขกท.ย้ายออกมาอยู่กับป้า ญาติแท้ๆ แต่ไม่เคยรู้จักกัน อยู่ๆไป เหมือนจะทำให้
ครอบครัวเขามีปัญหา เขาอ้างว่าที่ลูกสาวเขาไม่กลับบ้านเป็นเพราะจขกท. ไปอยู่บ้านเขา
ลูกสาวเขาก็รำคานจขกท. เพราะไปอาศัยนอนห้องเขา จขกท.อึดอัดใจมาก และได้ย้ายไปอยู่กับป้าอีกคน
แท้ค่ะ และเช่นเดิมไม่รู้จักกันค่ะ ย้ายไปนอนกับลูกสาวเขาเช่นกันค่ะ อึดอัดใจมากค่ะ และลำบากมาก แต่กลั้นน้ำตา
ร้องไห้คนเดียวทุกวัน เขาดูถูก จขกท. เยี่ยงทาส หาว่าทางบ้านยากจน เหยียดหยามเราทุกวัน เกินบรรยายค่ะ
จขกท.ย้ายอีกครั้งไปอยู่หอหญิง ดีขึ้นค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างจขกท.กับชายคนที่เคยกล่าวมาพัฒนาขึ้นค่ะ
จนลึกซึ้ง จึงเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับชีวิตเราค่ะ เขารับได้ และขี่ มอไซต์มาหาเราแทบทุกวัน
อยู่คนละจว.กันค่ะ ดั้นด้นมาหากันแบบนี้ จขกท.ทำงานนะคะ ทำงานด้วย เรียนด้วย ไม่ขอเงินทางบ้านค่ะ
ค่ากินทุกๆวัน หาเองทั้งนั้นค่ะ วันไหนแฟนมาจะไปนอนด้วยกันซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากเป็นแบบนี้เกือบทุกวันค่ะ
จนอยู่วันหนึ่งเริ่มทำงานไม่ไหวค่ะ เป็นลม เจ้านายถึงกับบอกว่าให้กลับไปอยู่บ้านก่อนละกันเป็นลมแบบนี้
จะให้ทำงานเมื่อไหร่จะเรียกไปเอง เราก็เข้าใจเลย นี่โดนไล่ออกซะแล้ว แค่เป็นลมเอง
มารู้ตัวอีกที ตั้งท้องได้ 4 เดือนแล้วค่ะ ตกใจและเสียใจมากค่ะ มืดแปดด้าน บอกแฟน แฟนไม่ว่าอะไรค่ะ
เขาพาจขกท.ไปหาพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาพาจขกท. กลับบ้านเขาค่ะ ไปอยู่บ้านเขาได้ 2-3วัน ก็ต้องบอก
ทางบ้านของจขกท.ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้นพอเข้าใจค่ะ ว่าพ่อแม่คงโกรธและเกลียดจขกท.น่าดู
เราไม่ติดต่อกันพักใหญ่ค่ะ จขกท. ก็เงียบหายไปเหมือนไม่มีตัวตน แม่แฟนก็บอก เดี๋ยวพวกเขาเห็นหน้าลูก
ก็ใจอ่อนเองล่ะ จนเมื่อคลอดลูกค่ะ เขากลับมาเยี่ยมหลานแต่เหมือนเขาไม่รัก เหมือนขยักแขยง
เขาไม่ต้องการ โดยเฉพาะแม่ค่ะ เขาดูจะออกอาการมาก เขาต้องการที่ให้ เหมือนเดิม ทางบ้านแฟนก็กลัวว่า
ทางบ้านจขกท.จะจับจขกท.ใส่ตะกร้าล้างน้ำ จึงไม่อยากให้จขกท.กลับไปหาทางบ้านสักเท่าไหร่
เรามีปัญหาทำนองนี้มาเรื่อยๆ ค่ะ เหมือนจะคอยด่า คอยว่า ตำหนิต่างๆนามาตลอด ไม่ว่าจขกท.จะทำอะไร
เลวทุกอย่าง ไม่มีความคิด จขกท.เรียนต่อ กศ.และเรียน มหาลัย ควบคู่ไปด้วยค่ะ ต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
ก็พยายามเต็มที่ค่ะ เพื่ออนาคตของลูก แต่เหมือนแม่ของจขกท. ต้องการให้จขกท.กลับมาอยู่บ้าน
เพราะกลัวคนแถวบ้านจะสงสัยว่าลูกสาวคนโตหายไปไหน ห้ามไม่ให้บอกใครว่ามีลูก ห้ามไม่ให้บอกใครว่ามีสามี
ค่ะ พอเข้าใจค่ะ แต่จะบอกใครยังไงคะ ถ้าอยู่ดีๆ คนรู้เข้าเมื่อลูกโตแล้ว?? จขกท.ได้มาทำกิจการของครอบครัวค่ะ
แรกๆ ช่วยทำ แต่เพราะจขกท.มีความรู้เรื่องนี้อยู่เป็นทุน จึงได้มาดูแลกิจการเองค่ะ เรื่องมันไม่จบแค่นั้นมันมีปัญหา
เข้ามาเรื่อยๆ จากน้องสาวตัวดีคนนี้ ทำอะไรได้อะไรดีต้องเอามาอวด ต้องมาบอกให้จขกท.รู้ เขาบอกแม่แค่คำเดียว
เขาจะได้ทุกอย่าง แต่กับเราแม่จงเกลียดจงชังไปแล้วค่ะ รังเกียจเลยก็ว่าได้ แทบทุกอย่างจะต้องมีเรื่องให้บาดหมางใจกัน
ตลอดเวลา ทำกิจการก็ต้องมีการลงทุน ลงแรง แต่นี่น้องอยากได้อะไร แม่บอกให้ๆ น้องไป น้องยังเด็กยังไม่รู้เรื่อง
เดินทางกลับบ้านเองไม่เป็น ต้องคอยไปรับไปส่ง ม.1 แล้วค่ะ เดินทางไม่เป็น สมัยนี้มีหรือคะ
ทำอะไรเองไม่เป็นค่ะ ผ้าผ่อนไม่ต้องซักค่ะ ไม่เคยต้องรีด จขกท. ทำเองทุกอย่างตั้งแต่เด็ก
ขัดห้องน้ำ ล้างจาน ทุกอย่าง ที่ทุกคนเคยทำนั่นแหละค่ะ แต่กับคนๆนี้ไม่เคยค่ะ
ด่าแม่ ไม่ผิดค่ะ ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะแม่ไม่ว่าสักคำเวลาน้องกระทำแบบนี้
กับจขกท.แฟนจขกท.สอนหลายอย่างค่ะ ให้เถียงบ้างแบบมีเหตุผล บางครั้งเรามีเหตุผลของเรา เราต้องบอก
ให้คนอื่นรับรู้บ้าง ต้องบอกความต้องการ ความรู้สึกของเราบ้าง จขกท.เริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคนค่ะ
เริ่มบอกความต้องการ เริ่มขึ้นเสียง เริ่มเถียง เริ่มอ้างเหตุผล มันทำให้เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายค่ะ เพราะ
โดยปกติจขกท.จะนิ่งเงียบรับคำด่า รับคำว่า จะเป็นจิงหรือไม่จขกท.แทบไม่เถียง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
เริ่มมีปากมีเสียงกัน ทุกวันนี้อยู่แบบทนๆ ไปค่ะคิดเหมือนกันว่าเขาเป็นพ่อเป็นแม่ เวลาเขามีความสุขกัน
เขาจะมีความสุขกันแค่ 3 คนค่ะ เขาจะไม่เอาเราเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ มันตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
ทุกวันนี้รอ...รอให้มันถึงเวลาเป็นไทของ จขกท. ไม่ใช่แค่จขกท.เองที่เดือดร้อนและรู้สึกแย่กับการกระทำ
ของครอบครัวของจขกท. นอกจากจะบังคับจขกท. แล้ว ยังบังคับ แฟน และครอบครัวของแฟนจขกท.ด้วย
โชคดีที่บ้านนั้นใจเย็นทั้งบ้าน อะไรก็ได้ (คนชนบทค่ะ บ้านจขกท.เรียกว่าบ้านนอก) ปัจจุบัน จขกท.
ยังไม่ได้แต่งงานค่ะ บ้านแฟนพร้อมแล้วทุกอย่างค่ะ ค่าสินสอด ฯลฯ ทำไมน่ะเหรอ ทางบ้านจขกท.กลัวค่ะ
กลัวเสียหน้า กลัวคนอื่นจะมองไม่ดี ตอนนี้ในสายตาคนข้างนอกมองว่า บ้านจขกท.ดีเสียเหลือเกิน
ร่ำรวยขึ้นมาได้ มีลูกเรียนเก่ง เรียนดี ช่วยพ่อแม่ทำงาน ใครจะรู้บ้างไหม ว่าภายในบ้านเหมือนนรก
ทนอยู่ รอวันของเรา (จขกท.+แฟน)